โรคต่อมลูกหมากโต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคต่อมลูกหมากโต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 32 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กาลครั้งหนึ่ง2560
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 86


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: เมษายน 21, 2018, 09:21:57 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hypertrophy-BPH)
โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร ต่อมลูกหมาก (prostate gland) เป็นต่อมของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ในผู้ชาย อยู่ตรงข้างหลังของคอกระเพาะปัสสาวะในอุ้งเชิงกรานข้างหลังกระดูกหัวหน่าว มีรูปร่างคล้ายลูกเกาลัด ต่อมมี 5 กลีบ หนักราวๆ 20 กรัม (ขนาดเท่าผลลิ้นย่าง) มีหน้าที่สร้างน้ำมูก (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของน้ำอสุจิ) เพื่อให้ตัวอสุจิแหวกว่ายแล้วก็รับประทานเป็นอาหาร  โดยทั่วไปต่อมลูกหมากจะหยุดเติบโตภายหลังอายุ 20 ปี  กระทั่งอายุประมาณ 45 ปี จะมีการเพิ่มขนาดขึ้นอีกรอบ และก็เป็นจุดกำเนิดของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตนับได้ว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากลุ้มใจของคุณสุภาพบุรุษทั้งหลายแหล่ โดยธรรมดาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตจะอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อแก่ขึ้นต่อมลูกหมากจะเบาๆโตขึ้น ว่ากันว่าชายแก่ 2 ใน 5 คนจะมีลักษณะฉี่ไม่ดีเหมือนปกติ อาการดังที่กล่าวถึงแล้วมีต้นเหตุมาจากการที่ต่อมลูกหมากซึ่งอยู่ล้อมท่อฉี่มีขนาดโตขึ้นและไปบีบท่อปัสสาวะให้แคบลง
และก็ยังมีรายงานการศึกษาวิจัยหลายๆชิ้นสรุปว่า ในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มักตรวจพบโรคต่อมลูกหมากโต เนื่องจากความผิดแปลกทางด้านขนาดแล้วก็ปริมาณเซลล์ต่อมลูกหมาก เมื่อขนาดของต่อมลูกหมากโตขึ้น จะส่งผลทำให้มีการเกิดการอุดกันของระบบทางเท้าเยี่ยว ถ่ายปัสสาวะบ่อย ทุกข์ยากลำบาก จำเป็นต้องเบ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กลั้นเยี่ยวไม่อยู่ ในที่สุดอาจถ่ายปัสสาวะไม่ออก แล้วก็มีปัญหาเกี่ยวกับของลับไม่แข็ง รูปแบบการทำงานของต่อมลูกหมากอาศัยการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศชายซึ่งส่วนใหญ่สร้างจากอัณฑะ ซึ่งฮอร์โมนเพศชายนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับการกระตุ้นการโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย โดยความแปลกของต่อมลูกหมากที่พบได้บ่อยในชายไทยหมายถึงโรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia; BPH) มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) และต่อมลูกหมากอักเสบ (prostatis) ร้อยละ 80 18 และ 2 ตามลําดับ  โดยโรคต่อมลูกหมากโตนี้ เป็นโรคพบบ่อยมากมายของเพศชายวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยเจอได้ราวๆ 30-40% ของผู้ชายวัย 50-60 ปี แล้วก็เมื่ออายุ 85 ปีจะเจอโรคนี้ได้มากถึง 90% โรคนี้พบได้ในผู้ชายทั่วทั้งโลก ทุกเชื้อชาติ
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต ในตอนนี้ ยังไม่รู้ต้นเหตุที่แจ้งชัดของการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต แม้กระนั้นแพทย์เชื่อว่า เมื่อชายแก่ขึ้นจะมีผลต่อการผลิตกลุ่มฮอร์โมนเพศชายจากอัณฑะที่ชื่อ แอนโดรเจน (Androgen) ก็เลยทำให้ร่างกายขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายประเภทต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างฮอร์โมน เทสโทสสเตอโรน  (Testosterone) กับฮอร์โมน ไดไฮโดรเทสโทสสเตอโรน () (DHT) ซึ่งภาวการณ์นี้ทำให้เซลล์ของต่อมลูกหมากมีการเจริญวัยผิดปกติได้ ที่เรียกว่า โรคต่อมลูกหมากโต
ฮอร์โมนที่มั่นใจว่าเป็นสาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต
ที่มา :  Wikipedia
นอกเหนือจากนี้ยังคาดคะเนว่าอาจเป็นเพราะกรรมพันธุ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีลักษณะอาการค่อนข้างร้ายแรงในกลุ่มของผู้คนที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจำเป็นต้องรับการดูแลรักษาโดยผ่าตัดชอบมีประวัติว่าคนในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะพันธุกรรม โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีอาการออกจะร้ายแรงในกลุ่มคนที่แก่น้อยกว่า 60 ปี ซึ่งจำต้องรับการรักษาโดยผ่าตัดมักจะมีประวัติว่าคนในครอบครัวมักมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
อาการโรคต่อมลูกหมากโต ลักษณะของโรคต่อมลูกหมากโตนั้น มีต้นเหตุที่เกิดจากเมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้น จะไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อท่อเยี่ยว และก็เมื่อต่อมฯยิ่งโตขึ้น ก็จะกดเบียดทับ หรือแทรกรัดบริเวณท่อเยี่ยว ก็เลยทำให้ท่อเยี่ยวตีบแคบลง จนถึงอาจอุดตัน ด้วยเหตุนี้ลักษณะของโรคต่อมลูกหมากโต ก็คือ

  • ลุกขึ้นชิ้งฉ่องเวลาดึกมากยิ่งกว่า 1 - 2 ครั้ง
  • สายฉี่ไม่พุ่ง ไหลช้า หรือไหลๆหยุดๆ
  • เกิดความรู้สึกว่าการถ่ายฉี่เป็นเรื่องวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
  • ไม่สามารถกลั้นเยี่ยวได้ ต้องรีบเข้าห้องอาบน้ำเมื่อปวดท้องเยี่ยว
  • จำเป็นต้องเบ่งหรือรอนานกว่าจะสามารถปัสสาวะออกมาได้
  • รู้สึกฉี่ไม่สุด ทำให้ต้องการเยี่ยวอยู่เรื่อย
  • ปัสสาวะบ่อยมาก ห่างกันไม่เกิน 2 ชั่วโมง

แล้วก็ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการชิ้งฉ่องเป็นเลือด เหตุเพราะเบ่งถ่ายนานๆอาจก่อให้หลอดเลือดดำที่ท่อปัสสาวะคั่ง แล้วแตกจนกระทั่งมีเลือดออกมาได้  ทั้งนี้โรคต่อมลูกหมากโตอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้แก่  ฉี่ไม่ออกเลย ทางเท้าปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ไตเสื่อมหรือกระเพาะปัสสาวะเสื่อม เยี่ยวเป็นเลือด  เป็นต้น ซึ่งบางทีอาจพบได้ไม่เกินปริมาณร้อยละ 20 ของคนเจ็บต่อมลูกหมากทั้งสิ้น
ขั้นตอนการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต การตรวจวินิจฉัยคนไข้โรคต่อมลูกหมากโต

  • วิธีสำหรับซักประวัติความเป็นมา บ่อยหมอให้คนเจ็บทำแบบสำรวจ (IPSS) เพื่อประเมินความร้ายแรงของความเปลี่ยนไปจากปรกติของการชิ้งฉ่อง
  • การตรวจทวารหนักเพื่อลูบคลำต่อมลูกหมาก เนื่องมาจากต่อมลูกหมากอยู่ภายในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ การใช้นิ้วทาสารหล่อลื่นคลำต่อมลูกหมากผ่านทางทวารหนักจะเป็นวิธีการตรวจร่างกายที่ง่ายที่สุดในการประเมินถึงลักษณะทางภายกายภาพของต่อมลูกหมาก รวมทั้งที่สำคัญยังสามารถบอกได้ถึงความเปลี่ยนไปจากปรกติที่สงสัยมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยโดยถ้าพบว่ามีลักษณะโต ผิวเรียบแปลว่าเป็นต่อมลูกหมากโตธรรมดา แม้กระนั้นถ้าเกิดมีลักษณะโตผิวไม่เรียบหรือค่อนข้างแข็ง น่าสงสัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • การตรวจฉี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญ และก็จำเป็นต้องทำในคนป่วยทุกราย เพื่อมองว่ามีการอักเสบติดเชื้อโรค มีเม็ดเลือดผิดปรกติหรือไม่ แล้วก็ยังเป็นการบอกถึงความเปลี่ยนไปจากปรกติของร่างกายในระบบอื่นได้
  • การพิสูจน์เลือดเพื่อหาค่า PSA (prostatic specific antigen) ซึ่งจะตรวจต่อเมื่อผู้เจ็บป่วยมีสุขภาพโดยรวมแข็งแรง และก็น่าจะมีชีวิตยืนยาวมากยิ่งกว่า 10 ปีขึ้นไป เนื่องมาจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรก มีแนวโน้มจะโตและลุกลามช้าโดยแพทย์จะตรวจหาโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีในเลือด ชื่อ พี.เอส.เอ (PSA : Prostate Specific Antigen) ซึ่งมีค่าธรรมดาประมาณ 0 - 4 ng/ml (ทุ่งนาโนกรัมต่อมิลลิลิตร) และก็ถ้าหากพบว่าผลเลือดสูงขึ้นมากยิ่งกว่าธรรมดา หมอจะเสนอแนะให้ตัดชิ้นเนื้อของต่อมลูกหมาก โดยใช้เข็มเล็กๆผ่านทางทวารหนัก แล้วก็นำไปตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์ว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากหรือเปล่า
  • การตรวจอัลยี่ห้อซาวน์ ส่วนใหญ่มักใช้เมื่อมีความผิดปรกติสำหรับการตรวจปัสสาวะ แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้ได้รับความนิยมส่งไปเพื่อทำการตรวจกันเยอะขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากว่าไม่เป็นอันตรายและก็ให้ผลดีสูง
  • การตรวจความแรงในการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) มักจะร่วมกับการตรวจเยี่ยวที่เหลือค้างภายหลังจากปัสสาวะหมดแล้ว มีประโยชน์สำหรับการประเมินความร้ายแรงและก็ติดตามการดูแลและรักษา
  • การตรวจอื่นๆดังเช่น การส่องกล้อง การตรวจยูโรพลศาสตร์จะทำเมื่อมีข้อชี้ชัดที่แจ่มกระจ่าง

การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตบางทีอาจจำเป็นต้องใช้หลายๆวิธีด้วยกัน แม้กระนั้นโดยหลักๆแล้วสามารถแบ่งได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้การเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต การใช้ยารักษา การผ่าตัด ซึ่งมีรายละเอียดคือ

  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน: โดยแพทย์จะเลือกใช้กรรมวิธีนี้ในกรณีผู้เจ็บป่วยมีลักษณะอาการจากโรคต่อมลูกหมากโตค่อนข้างน้อย และก็อาการของผู้ป่วยยังไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้เจ็บป่วย โดยการปรับพฤติกรรมฯ คือการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้อาการผู้ป่วยห่วยแตกลง ตัวอย่างเช่น
  • หลบหลีกการดื่มเครื่องดื่มอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงก่อนไปนอน วิธีแบบนี้จะช่วยลดการปวดฉี่ในกลางคืนได้ แต่ก็ไม่สมควรอดหรือลดปริมาณการกินน้ำในทุกๆวัน
  • งดเว้นดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน หรือลดปริมาณลงเพื่อไม่ให้มีการระคายที่กระเพาะปัสสาวะรวมทั้งทำให้อาการเกิดขึ้นอีก
  • บริหารร่างกาย มีการวิจัยพบว่าการออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างต่ำวันละ 30-60 นาทีต่อวันจะช่วยทำให้อาการดีขึ้น
  • จำกัดการกินยาลดน้ำมูก หรือยาแก้แพ้ การใช้ยาทั้งยัง 2 ประเภทจะก่อให้ปัสสาวะได้ลำบาก เนื่องจากว่ายาจะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อรอบๆท่อฉี่ที่ควบคุมการไหลของปัสสาวะหดตัว
  • รับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ การทานอาหารที่ดีมีคุณประโยชน์จะช่วยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนัก ทำให้การเสี่ยงโรคอ้วนลดลงซึ่งเกี่ยวของกับโรคต่อมลูกหมากโต
  • ฝึกหัดการเข้าห้องน้ำ การเข้าสุขาทุกๆ4-6 ชั่วโมงเป็นกรรมวิธีการอย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยได้มากในกลุ่มผู้ป่วยที่ปัสสาวะบ่อยครั้งและไม่สามารถกลั้นได้
  • ปัสสาวะทีละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้ปัสสาวะเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะที่จะทำให้เกิดลักษณะของการปวดเยี่ยวรวมทั้งปัสสาวะบ่อยมาก ดังเช่น เมื่อฉี่ไปแล้ว ให้รออีกประมาณ 5 นาที แล้วปัสสาวะซ้ำอีกรอบ ระหว่างคอย อาจแปลงท่า ดังเช่น ลุกขึ้นยืน เป็นต้น
  • ทำฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน(ฝึกขมิบตูดเพื่อกลั้นฉี่ วิธีฝึกเช่นเดียวกับที่สตรีฝึกขมิบช่องคลอด) ตามแพทย์/พยาบาลแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • เมื่อจะต้องออกมาจากบ้าน ควรจะวางแผนหัวข้อการปัสสาวะ(การใช้ห้องอาบน้ำ)ไว้ล่วงหน้าเสมอเพื่อให้เกิดความสะดวกสำหรับการปัสสาวะ
  • การใช้ยาต่างๆ: ซึ่งหมอจะเลือกใช้ในคนป่วยที่ใช้กรรมวิธีปรับพฤติกรรมฯไม่เป็นผล หรือในผู้ป่วยที่ตั้งแต่แรกมีลักษณะอาการรุนแรงระดับปานกลาง หรือมีอาการที่มีผลต่อการใช้ชีวิติประจำวัน ซึ่งยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต ในตอนนี้มีอยู่ประมาณ 2-3 ประเภท บางประเภทเป็นยาลดอาการหดเกร็งกล้ามที่บีบรัดท่อฉี่ บางประเภทมีสรรพคุณลดขนาดต่อมลูกหมาก รวมทั้งบางจำพวกเป็นสมุนไพรที่สกัดขึ้นเพื่อลดอาการบวม หมอจะเป็นผู้พิจารณาการให้ยาตามสมควรซึ่งยาที่ใช้รักษาอาการโรคต่อมลูกหมากโต สามารถแบ่งออกได้ 3 กลุ่มดังนี้ ยาในกรุ๊ปอัลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha adrenergic blockers)   ซึ่งยุคเก่าจะใช้เป็นยาลดระดับความดัน แต่ปัจจุบันได้พัฒนาต่อจนมีผลต่อความดันเลือดน้อยมาก ยาในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์เร็ว ผู้ป่วยจะรู้สึกเยี่ยวสบายขึ้นข้างใน 3 วัน แม้กระนั้นถ้าหากหยุดยารวมทั้งอาการก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว ยาในกลุ่มนี้จะใช้กันแพร่หลายที่สุด พราโซซิน (prazosin) เทราโซสิน (tera-zosin) ดอกซาโซสิน (doxazosin) ยาที่ยั้งการสร้างฮอร์โมน (DHT) (Dihydrotestosterone)  ยาในกลุ่มนี้จะลดการสร้างฮอร์โมน DHT ซึ่งจำเป็นต้องต่อการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก แม้ว่าจะออกฤทธิ์ช้า แม้กระนั้นสามารถลดขนาดของต่อมลูกหมากได้ในระดับหนึ่ง จะมีสาระเฉพาะผู้ป่วยที่มีต่อมลูกหมากค่อนข้างจะโต ไฟนาสเตอไรด์ (fina-steride) ยาสมุนไพร มีอยู่หลายอย่าง สำหรับประเภทที่แพร่หลายที่สุดเป็นจากสมุนไพรชื่อ Saw palmetto แต่คุณภาพยังไม่ชัดแจ้งนัก
  • การผ่าตัด: หมอจะเลือกใช้วิธีการนี้เมื่อคนป่วยใช้ยาแล้วไม่เป็นผล โดยการผ่าตัดมีหลายแนวทาง ขึ้นกับ อาการ สุขภาพผู้เจ็บป่วย สิ่งที่จำเป็นของคนป่วยแล้วก็ครอบครัว และดุลยพินิจของหมอ ใน ปัจจุบันนิยมผ่าตัดโดยการใช้กล้องส่องผ่านท่อเยี่ยว (transurethral resection of the prostatic หรือ TURP) เป็นการผ่าตัดเป็นแนวทางรักษาโดยขูดต่อมลูกหมากด้วยกล้องถ่ายภาพผ่านทางท่อเยี่ยว หรือที่เพื่อตัดต่อมลูกหมากออกเป็นชิ้นเล็กๆที่สามารถทำได้โดยหมอทางเดินฉี่ หรือศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ในระหว่างผ่าตัดคนไข้จะได้รับการวางยาเฉพาะด้านล่าง ทำให้ไม่เคยรู้สึกเจ็บ ในระยะ 3 - 4 วันแรกแพทย์จะใส่สายสวนเยี่ยวเพื่อกระเพาะปัสสาวะได้พัก รวมทั้งรอให้เยี่ยวใสเสียก่อนก็เลยจะเอาสายสวนปัสสาวะออก คนเจ็บจะมีลักษณะดียิ่งขึ้นภายใน 2 - 4 สัปดาห์ วิธีการแบบนี้หมอจะใช้กับคนป่วยที่มีลักษณะหนัก หรือมีภาวะแทรกซ้อน นอกเหนือจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆอีกตัวอย่างเช่น  การใช้คลื่นความร้อน เป็นต้นว่า ไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ หรือเลเซอร์ ผ่านเข้าไปที่ต่อมลูกหมาก เพื่อทำให้ต่อมลูกหมากฝ่อและก็เล็กลง ซึ่งเป็นแนวทางที่แพทย์เลือกใช้ในรายคนไข้ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดรวมถึงวิธี การขยายท่อฉี่โดยการใส่ท่อค้างไว้ (prostatic urethral stent) ซึ่งเหมาะสำหรับคนป่วยที่ผ่าตัดมิได้  หรือปฏิเสธการผ่าตัด
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคต่อมลูกหมากโต

  • ผู้ชายที่แก่ 50 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติว่าคนภายในครอบครัวมีปัญหาหรือเคยป่วยด้วยโรคต่อมลูกหมากโต
  • คนที่มีความผิดปกติของอัณฑะ
  • ผู้มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
  • คนที่ขาดการออกกำลังกาย
  • ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจและก็เบาหวาน

การติดต่อของโรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการขาดสมดุลของฮอร์โมนเพศชายหลายๆชนิด ซึ่งจะมีผลให้เซลล์ของต่อมลูกหมากเติบโตไม่ดีเหมือนปกติ มักกำเนิดในผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และโรคต่อมลูกหมากโตนี้ มิได้เป็นโรคติดต่อและไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน แล้วก็จากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด

การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต

  • ฝึกฝนฉี่ให้เป็นเวลา เช่น ทุก 3 ชั่วโมง แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆปรับระยะเวลาตามอาการเพื่อคุ้มครองป้องกันผู้กระทำลั้นเยี่ยวไม่อยู่
  • เยี่ยวครั้งละ 2 คราว เพื่อไม่ให้เยี่ยวเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะที่จะนำไปสู่ลักษณะของการปวดปัสสาวะแล้วก็เยี่ยวหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปัสสาวะไปแล้ว ให้รอคอยอีกราวๆ 5 นาที แล้วฉี่ซ้ำอีกที ระหว่างรอคอย อาจแปลงท่า ยกตัวอย่างเช่น ลุกขึ้นยืน เป็นต้น
  • กระทำฝึกฝนความแข็งแรงของกล้ามอุ้งเชิงกราน โดยการฝึกฝนขมิบก้น/ขมิบเพื่อกลั้นปัสสาวะ
  • กินน้ำในทุกๆวันให้พอสมควร อย่าให้มากจนเกินไป
  • ลด หรือเลิกดื่มเครื่องดื่มมีคาเฟอีน
  • ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • เลี่ยงการใช้ยาบางจำพวกที่จะทำให้อาการคนป่วยห่วยลง ตัวอย่างเช่น ยาขับฉี่ ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาโรคซึมเซา
  • การกินอาหารมีสาระ 5 หมู่ให้ครบบริบรูณ์วันแล้ววันเล่าในจำนวนที่สมควร ร่วมกับการบริหารร่างกายตามความเหมาะสมกับสุขภาพทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อการควบคุมน้ำหนัก และไม่ให้เกิดโรคอ้วน
  • เมื่อจะต้องออกจากบ้าน ควรจะคิดแผนหัวข้อการใช้ห้องสุขาไว้ล่วงหน้าเสมอเพื่อเกิดความสะดวกสำหรับการฉี่
  • รักษาร่างกายให้อบอุ่น อากาศที่หนาว จะก่อให้อาการเกิดขึ้นอีก
  • ระวังอย่าให้ท้องผูก

การคุ้มครองตัวเองจากโรคต่อมลูกหมากโต ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่ช่วยปกป้องปัญหาต่อมลูกหมากโตได้อย่างแท้จริงด้วยเหตุว่ายังไม่รู้มูลเหตุที่กระจ่างแจ้งของโรคนี้ และก็การเสี่ยงต่อโรคที่สำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขได้นั้นก็คืออายุที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นแนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเพศชายที่แก่ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจต่อมลูกหมากบ่อยๆทุกปี และก็ควรจะหมั่นพิจารณาความแตกต่างจากปกติของระบบฟุตบาทปัสสาวะ ดังเช่น ถ้าหากมีลักษณะชิ้งฉ่องลำบาก จะต้องใช้แรงเบ่งนานๆเยี่ยวไม่พุ่ง เวลากลางคืนจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนมาฉี่ บ่อยครั้ง หรือเยี่ยวเป็นเลือด ก็ควรจะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์สาเหตุให้ชัดเจน  เมื่อพบว่าเป็นต่อมลูกหมากโตก็ควรกินยารักษา หรือทำผ่าตัดปรับแต่งตามคำแนะนำของหมอ 
สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองปกป้อง/รักษาโรคต่อมลูกหมากโต พืชสมุนไพรที่มีรายงานการวิจัยทางคลินิกว่ามีฤทธิ์รักษาโรคต่อมลูกหมากโตยกตัวอย่างเช่น มะเขือเทศ และก็ฟักทอง โดยให้ผู้เจ็บป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าอยู่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตระยะเริ่มต้นกินซอสมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) วันละ 50 กรัม (มี lycopene อยู่ 13 มิลลิกรัม) ติดต่อกัน 10 สัปดาห์พบว่า มีผลทำให้ค่า prostate-specific antigen (PSA) ในเลือดซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะต่อมลูกหมากโตน้อยลง และก็การศึกษาเล่าเรียนทางคลินิกโดยให้คนป่วยรับประทานแคปซูลสารสกัดเมล็ดฟักทองขนาด 1000 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลทำให้คนไข้โรคต่อมลูกหมากโตมีลักษณะ เมื่อรับประทานติดต่อกันนาน 12 อาทิตย์
มะเขือเทศ  ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum lycopersicum ตระกูล Solanaceae มีหลายการเรียนพบว่าไลโคพีนในมะเขือ เทศสามารถลดระดับ PSA และก็ปกป้องการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยผ่านกลไกการทำงานต่างๆดังเช่น การลดการ กำเนิด lipid oxidation ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้ง ลดการสังเคราะห์ 5- alpha dihydrotestosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการโตของต่อมลูกหมาก และก็ยังพบว่าการบริโภคไลวัวพีนจากสินค้า มะเขือเทศซึ่งทำให้ผู้บริโภคหรูหราไลโคพีนในเลือดสูงมากขึ้นจะสามารถลดระดับ PSA ในคนเจ็บโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้  Schwarz แล้วก็คณะ (2008) ศึกษาในคนเจ็บโรคต่อมลูกหมากโต (PSA > 4 mg/L) บริโภคไลวัวพีนวันละ 15 mg นาน 6 เดือน พบว่าสามารถคุ้มครองปกป้องต่อมลูกหมากโตได้เมื่อตรวจทางทาวรหนักรวมทั้งการตรวจอัลตราซาวด์และระดับ PSA ลดลงปริมาณร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับยาหลอก (placebo) อย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ (P < 0.05) และกระบวนการทำแบบสำรวจลักษณะของต่อมลูกหมากฉบับนานาชาติ (International Prostate Symptom Score; IPSS) พบว่ากรุ๊ปที่ได้รับไลวัวพีนมีลักษณะของต่อมลูกหมากดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนที่จะมีการเล่าเรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ มีการศึกษาในคนป่วยโรคต่อมลูกหมากโตที่มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 80 ที่จะเป็นโรคโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในอนาคต (High Grade Prostatic Intraepithelial Neoplasia; HGPIN) โดยกลุ่มทดลองที่ได้รับไลโคพีนวันละ 8 mg ต่อเนื่องทุกเมื่อเชื่อวันนาน 1 ปี (20 คน) เปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุม (20 คน) พบว่ากลุ่มที่ได้รับไลโคพีนมีระดับ PSA ลดน้อยลง จาก 6.07 mg/L เป็น 3.5 mg/L คิดเป็นปริมาณร้อยละ 42 และมีไลวัวพีนในเลือดมากขึ้นจาก 360 เป็น 680 mg/L รวมทั้งเมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่ากลุ่มทดลองมีคนเจ็บปริมาณ 2 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะคนเจ็บกลุ่มควบคุมปริมาณ 6 มิได้รับประทานอาการที่มีไลวัวพีน (มะเขือเทศ แตงโม) ตลอดตอนที่ทำงานเรียนรู้หรูหรา PSA เพิ่มสูงขึ้น แล้วก็ผู้ที่มีระดับไลวัวพีนในเลือดน้อยลงกลับกลายโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าการบริโภคไลวัวพีนนาน 1 ปีสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้ที่มีการเสี่ยงสูงได้
ฟักข้าว มีชื่อสามัญว่า Spring bitter cucumber ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นMomordica Cochinchinensis Spreng.  ฟักข้าว คือผลไม้ที่อุดมด้วยไลวัวปีน รวมทั้งสารพฤษเคมีอื่นๆในกรุ๊ปแคโรทีนอยด์ เป็นต้นว่า เบต้า-แคโรทีน สูงขึ้นยิ่งกว่าแครอท 10 เท่า มีวิตามินซีมากกว่าส้ม 40 เท่า มีซีแซนทีนมากยิ่งกว่า ข้าวโพด 40 เท่า อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 แล้วก็โอเมก้า-9 ช่วยเสริมฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอนุมูลอิสระสูง และก็การไหลเวียนของเลือด  และในฟักข้าว มีไลโคปีน ประเภทพิเศษ เรียกว่า ไลโปแคโรทีน (Lipocarotene) เป็นกรดไขมันสายยาวที่ช่วยจับแคโรทีน ก็เลยช่วยซึมซับแคโรทีน ฟักข้าว ก็เลยเป็นแหล่งของไลวัวตะกาย ที่เหมาะสมที่สุด  ไลวัวตะกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการรับรองทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความชรา ต้านความเสื่อมถอยของร่างกาย ช่วยลดโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมากในผู้ชาย โดยต่อมลูกหมาก คือต่อมที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงสเปิร์ม ต่อมลูกหมากตั้งอยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ เมื่อผู้ชายอายุสูงขึ้นเป็น ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย(เทสโทสเตอโรน) ลดลง ทำให้เซลล์ในต่อมลูกหมาก แบ่งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมลูกหมากจึงโตขึ้น แล้วก็ถ้ามีการอักเสบร่วมด้วยก็จะได้โอกาสกำเนิดมะเร็ง ได้สูงขึ้น ไลวัวไต่ จะควบคุมการโตของต่อมลูกหมาก ช่วยให้เซลล์ของโรคมะเร็งฝ่อตาย รวมทั้งลด การแบ่งเซลล์ของมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย
หญ้าหนวดแมว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Orthosiphon stamineus Benth.   วงศ์ : Labiatae หรือ Lamiaceae   สรรพคุณหญ้าหนวดแมว ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้การหลั่งเยี่ยวเพิ่มขึ้น นอกนั้น ในตำรายาหลายฉบับกล่าวถึงสรรพคุณต่างๆได้แก่  ตำราเรียนยาใช้ใบ และก็ลำต้นการรักษา รวมทั้งคุ้มครองโรคทางเดินปัสสาวะ ลำต้น ใช้อีกทั้งแบบสดหรือแบบแห้ง ด้วยการต้มดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายชราที่ช่วยแก้โรคต่อมลูกหมากโต รวมทั้งขจัดปัญหาเยี่ยวติดขัด รวมทั้งมีฤทธิ์สำหรับการขับกรดยูริก
เถาวัลย์เปรียง ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris scandens (Roxb.) Benth  ชื่อวงศ์ Papilionaceae  สรรพคุณ:           ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับฉี่ แก้กระษัยเหน็บชา ถ่ายกษัย แก้เอ็นขอด ถ่ายเสลด ไม่อุจจาระ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับฉี่ แก้เยี่ยวพิการ
กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa L. ชื่อตระกูล Malvaceae  คุณประโยชน์:     ตำรายาไทย: กลีบเลี้ยงมีรสเปรี้ยว แก้อาการขัดเบา  การเล่าเรียนทางคลินิก: ลดระดับความดันโลหิต ยั้งเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ทำให้คนเจ็บโรคนิ่วในท่อไต ปัสสาวะสะดวกขึ้น ผู้ป่วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีลักษณะปวดแสบเวลาฉี่น้อยลง  แบบอย่างและขนาดวิธีการใช้ยา:   ขับฉี่ ใช้สมุนไพรแห้ง บดเป็นผง 3 กรัม (หรือ 1 ช้อนชา) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน หรือจนกว่าอาการจะหาย
เอกสารอ้างอิง

  • โรคต่อมลูกหมายโต .สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
  • Mohanty NK, Saxena S, Singh UP, Goyal NK, Arora RP. Lycopene as a chemopreventive agent in the treatment of high-grade prostate intraepithelial neoplasia. Urol Oncol Sem Orig Invest 2005;23:383-385
  • สมุนไพรตัวไหนบ้างที่ใช้รักษาต่อมลูกหมากโต.กระดานถาม-ตอบ.สำรักงานสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • รศ.นพ.สุรเกียรติอาชานานุภาพ.ต่อมลูกหมากโต.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่345.คอลัมน์สารานุกรมทันโรค.มกราคม.2551
  • รศ.นพ.อนุพันธ์ ตันติวงศ์.ต่อมลูกหมากโต.ภาวิชาศัลย์ศาสตร์.คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล.มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ต่อมลูกหมากโต-อาการ,สาเหตุ,การรักษา.พบแพทย์ดอทคอม. http://www.disthai.com/[/b]
  • Wei MY, Giovannucci EL. Lycopene, tomato products, and prostate cancer incidence: A review and reassessment in the PSA screening era. J Oncol 2012:2012:1-7. (doi: 10.1155/2012/271063)
  • เอมอร.ชัยประท



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
ณเดช2499
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 30, 2018, 10:07:31 am »

โรคต่อมลูหมากโต วิธีรักษา สมุนไพรรักษา

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ