Advertisement
[/b]
ขิ[/size][/b]
ขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’เจอ)ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)[url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]ขิง จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกายในหลายๆด้าน เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยวิตามินและก็แร่ที่มีความหมายอย่างมากต่อสุขภาพของพวกเรา อย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แล้วก็เส้นใยเยอะๆอีกด้วย ซึ่งคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงนั้น เราสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และก็ผลก็ได้ทั้งหมด
ประโยชน์ซึ่งมาจากขิง-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศมีสารต้านทานอนุมูลอิสระเยอะมากๆ ช่วยชะลอความแก่รวมทั้งชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยสำหรับในการคุ้มครองปกป้อง ต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต้านการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้เพื่อการรักษามะเร็ง โดยเหตุนั้นควรจะกินขิงควบคู่ไปกับการดูแลและรักษาโรคมะเร็งจะเกิดผลดี
ขิ มีฤทธิ์อุ่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และก็ช่วยสำหรับการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นใหม่ๆนำมาตีให้แหลกราว 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยลดหุ่น ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ แล้วปลดปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดหัวและไมเกรน ด้วยการกินน้
ขิงเป็นประจำ
ช่วยลดความต้องการของผู้ติดยาเสพติดลงได้
แก้ต้นตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วนำมากิน
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยทำนุบำรุงหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยบรรเทาลักษณะโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจขุ่นหมอง (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับมารดาหลังคลอดลูก ด้วยการรับประทานไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดราว 1 องคุลีเอามาต้มกับน้ำ ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้รับประทานเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงน้ำนมของแม่ (ผล)
ช่วยให้นอนหลับได้อย่างสบาย
การกินขิงจะช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้ราวๆครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วนำมาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยทุเลาอาการได้
ช่วยแก้หวัด ทุเลาอาการไอ ทุเลาหวัดจับเสมหะ ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือเล็กน้อย
ไอน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในคนป่วยที่มีลักษณะติดยาสลบข้างหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ขิงสดนำมาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำกิน (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
ช่วยแก้ไขปัญหาผมหล่น หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟจนถึงอุ่น แล้วเอามาตำให้แหลก นำมาพอกบริเวณที่มีผมตก วันละ 2 ครั้งจนอาการดียิ่งขึ้น หรืออีกแนวทางก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันมะกอกแล้วเอามาหมักผม นวดให้ทั่วหัวประมาณ 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมตกได้เช่นเดียวกัน แถมยังช่วยทำให้ผมงาม แข็งแรง มีความนิ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา และก็ใช้แก้อาการตาฝ้า (ผล, ใบ)ช่วยรักษาอาการตาเฉอะแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้ง เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอยุ่ย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาทุบให้รอบคอบคั่วกับน้ำสารส้มจนกระทั่งไหม้เกรียม แล้วบดจนกระทั่งเป็นผุยผง ต่อจากนั้นนำมาพอกรอบๆฟันที่ปวดแก้เสลด เสลดขาวเหลวจำนวนมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาภาวการณ์น้ำลายมากมาย อ้วกเป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นแล้วก็เกลือบางส่วน เอามาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยทำนุบำรุงฟันรวมทั้งคุ้มครองปกป้องการเกิดฟันผุ
ช่วยดับกลิ่นจั๊กกะแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาทุบให้แหลก แล้วเอามาคั้นเอาน้ำมาทาจั๊กกะแร้เป็นประจำ จะสามารถที่จะช่วยในการจัดการกับรอยคราบกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำจนกระทั่งแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งน้อย คนจะกว่าจะเข้ากันแล้วเอามาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดโดยประมาณ 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลแดง เอามาตำกระทั่งเหมาะ แล้วรับประทาน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการอาเจียน (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดราว 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วโป้งมือ เอามาตีให้แตกแล้วต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยลดการคลื่นไส้อ้วกจากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงท้องไม่สมควรรับประทานหลายครั้งกระทั่งเกินไป)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในลำไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาตีเพียงพอแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งไว้ราวๆ 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้อของกิน
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดในช่วงหลังหรือก่อนระดู ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วราวๆ 30 กรัมมาต้มกับน้ำเสมอๆ
ช่วยย่อยของกินได้อย่างมีคุณภาพ (ดอก)
ช่วยคุ้มครองการเกิดแผลในกระเพาะ ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับเพื่อการขับถ่าย และช่วยในเรื่องของระบบลำไส้ให้ดำเนินงานได้อย่างเป็นปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกลำไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดฉี่ (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาฉี่รดที่พักผ่อนในคนไข้ที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ (ใบ)
ขิง ช่วยรักษาลักษณะของการปวดข้อตามร่างกายด้วยการกินขิงสดเป็นประจำ
มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
แก้ปัญหาหนังที่มือลอกเป็นสะเก็ด ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วเอามาแช่เหล้า 1 ถ้วยชา ทิ้งไว้ 1 วัน แล้วนำแผ่นขิงมาถูรอบๆดังที่กล่าวถึงมาแล้ววันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมบริเวณข้างหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว เอามาเผาผิวนอกจนถึงเป็นถ่าน คอยปาดถ่านที่ผิวนอกออกไปเรื่อยแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูเอามาทาบริเวณที่เป็นแผลหากถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆนำมาวางทับบริเวณที่ถูกกัดจะช่วยทุเลาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง เป็นต้น ช่วยคุ้มครองปกป้องการแพ้อาหารทะเลจนกระทั่งเกิดผื่นคัน ผื่นคัน หรืออาหารช็อกคุณประโยชน์ของขิง
ช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกบริเวณแผล เพื่อคุ้มครองปกป้องการอักเสบและการเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันเหม็นหืนในน้ำมันได้
ในด้านการประกอบอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสชาติอาหารได้เป็นอย่างดี และก็สามารถช่วยดับกลิ่นคาวของของกินได้ดีอีกด้วย
ในด้านความงามนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งตัวที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียนเพิ่มขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วนำมานวดรอบๆต้นขา ตูด หรือรอบๆที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความขรุขระของผิวได้อีกด้วย
สินค้าจากขิงนั้นเอามาแปรรูปได้หลายชนิด เช่น ขนมบัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว เป็นต้น
[/b]
แนวทางการทำน้ำขิงกระบวนการทำน้ำขิงแนวทางการทำน้ำขิงขั้นแรกให้จัดเตรียมส่วนผสมดังต่อไปนี้ ขิงแก่ 1 กิโลกรัม / น้ำตาล 1 ถ้วยตวง / น้ำสะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด เอามาทุบให้แตก แล้วนำมาใส่ไว้ในหม้อต้ม เติมน้ำสะอาดลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มกระทั่งน้ำเดือดและหลังจากนั้นก็ค่อยเบาไฟลง เคี่ยวราวๆ 20 นาทีกระทั่งน้ำขิงละลายออกมาจนถึงหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วชูลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความอยากได้) แล้วคนจะกว่าจะเข้ากัน
เป็นระเบียบแล้วหลังจากนั้นก็สามารถนำมาดื่มได้ โดยเอามาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้เช่นกัน แต่ควรจะเพิ่มเติมน้ำตาลมากกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากเกินความจำเป็น เนื่องจากว่ามีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำ
ขิงที่คั้นมานั้นไม่สมควรใช้ปริมาณที่เข้มข้นจนถึงเกินไป เพราะเหตุว่าจะทำให้เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้ เนื่องจากว่าจะไประงับการบีบตัวของไส้ จนกระทั่งทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัว ด้วยเหตุดังกล่าวควรจะคั้นในจำนวนน้อยๆหรือดื่มจนชินก่อน
เรามักจะรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นอาหารที่นิยมประยุกต์ใช้สำหรับการเตรียมอาหารรวมทั้งทำเครื่องดื่ม ซึ่งอันที่จริงแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้สารพัด ถือได้ว่าตัวช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคได้อย่างยิ่งจริงๆ แต่ดังนี้พวกเราก็ไม่ควรจะหวังพึ่งสรรพคุณของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับการเยียวยาโรค น่าจะทำอันอื่นหรือดูแลสุขภาพของเราร่วมด้วยจะได้ผลดีนักแล
พวกเรามักนิยมใช้ขิงแก่ เพราะยิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน จึงมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน รวมทั้งยังมีใยอาหารมากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ว่าเพราะเหตุว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณสมบัติอุ่น ก็เลยไม่เหมาะกับผู้ที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว ดังเช่นว่าผู้ที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกช่วงกลางคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากยิ่งกว่าปกติ แต่ว่าถ้าหากจะกินควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
http://www.disthai.com/[/b]