เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 34 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
xdfmcx85df54
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 04:37:55 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งการค้นคว้าวิจัยที่เล่าเรียนเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งหลักการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยล้นหลามถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แต่ยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบงานค้นคว้าวิจัยที่เรียนรู้ประสิทธิผลของ[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
เพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าคนเจ็บสนองตอบต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบรรเทาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกนั้น จาการทวนงานค้นคว้าวิจัยพบว่ามีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์ช่วยเหลือว่าเห็ดหลินจืออาจสัมพันธ์ต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนเจ็บให้ดีขึ้น แล้วก็ในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้รวมทั้งนอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ทางคุณลักษณะรวมทั้งคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้วิจัยเป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแต่การทดลองในคนไข้บางกรุ๊ปเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นประเด็นการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติการทดลองต่อไปเพื่อได้ได้ผลลัพ์ที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการรักษาผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทฉี่
มีแนวทางการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดลองในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการฉี่ติดขัด ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 สัปดาห์ ผลสรุปที่ได้เป็น คนป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับเพื่อการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของคนป่วยจากการตอบคำถาม กลับไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การทดสอบดังกล่าวจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่ชัดแจ้งพอเพียง จำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่แจ่มแจ้งสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวพัน
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดลองด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนเจ็บโรคเบาหวานชนิด 2 ร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับเพื่อการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาเรียนรู้วิจัยพวกนั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
โดยเหตุนี้จึงควรมีการค้นคว้าทดสอบถึงประสิทธิภาพของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อปกป้องและการดูแลและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจถัดไป และให้ได้ความแจ่มชัดชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเพิ่มมากขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อกรรมวิธีการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวข้องถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งชัดแจ้ง เนื่องประสิทธิผลและผลข้างคียงจากการบริโภค ดังนั้น ผู้บริโภค ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ปรึกษาหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโรค ด้วยเหตุว่าเห็ดหลินจือในแต่ละแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แม้กระนั้นสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างอาจมีผลข้างๆที่เป็นอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้เช่นกัน
[/b]
โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันยกตัวอย่างเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้ซื้อก็ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งหารือแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะ ควรรอบคอบในด้านปริมาณและแบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากอาจเป็นผลข้างๆต่อร่างกายได้ในคราวหลัง
โดยข้อควรคำนึงสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือยกตัวอย่างเช่น
ผู้ใช้ทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งผลกระทบได้ ยกตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์ขยายพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจทำให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ต้องระวังสำหรับในการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ซื้อนี้แต่ว่าผู้ที่มีครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนรวมทั้งลูกน้อย
คนที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางรายที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว คนไข้สภาวะความดันโลหิตต่ำจำเป็นที่จะต้องหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากบางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ฉะนั้นผู้ป่วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกแตกต่างจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีภาวะเลือกออกเปลี่ยนไปจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/[/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ