กินยาคุมนานๆเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม-มะเร็งปากมดลูกจริงไหม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กินยาคุมนานๆเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม-มะเร็งปากมดลูกจริงไหม  (อ่าน 26 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
promiruntee
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19636


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: สิงหาคม 20, 2018, 11:10:43 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

รับประทานยาคุมนานๆจะเสี่ยงโรคมะเร็งมากขึ้นหรือไม่ หรือผลกระทบของยาคุมกำเนิดอันตรายใช่หรือไม่ มาไขคำตอบกันค่ะ
ยาคุมนับว่าเป็นวิธีคุมกำเนิดที่สบาย ง่าย และก็ราคาไม่แพงนัก จึงเป็นแนวทางคุมกำเนิดที่ผู้หญิงนิยมกันมากที่สุด แต่รับประทานยาคุมกำเนิดนานๆก็คงอดเป็นห่วงสุขภาพของตนมิได้ เนื่องจากว่าบางกระแสก็พูดว่ากินยาคุมนานๆจะเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น และบางครั้งก็อาจจะเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นไปอีก เอ๋...ข้อมูลนี้ใช่หรือมั่ว แน่นอนหรือเปล่า กระปุกดอทคอมขออนุญาตมาอธิบายแจ่มแจ้งให้อ่านกันที่ตรงนี้เลยดีกว่า
กินยาคุมกำเนิดนานๆเสี่ยงมะเร็ง
กินยาคุมนานๆเสี่ยงมะเร็งเต้านมจริงไหม
ในความเป็นจริงแล้วหญิงพวกเรามีการเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม 1 ใน 8 อยู่แล้ว รวมทั้งการเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งเต้านมก็มีหลายต้นเหตุ ดังต่อไปนี้
- รอบเดือนมาเร็ว (ก่อนอายุ 12 ปี)
 - เมนส์หมดช้า (หมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี)
 - มีลูกคนแรกข้างหลังอายุ 30 ปี
 - ไม่มีลูก
ซึ่งต้นสายปลายเหตุกลุ่มนี้มีต้นเหตุที่เกิดจากการที่ร่างกายหรูหราฮอร์โมนตามธรรมชาติผิดปกติ โดยมีฮอร์โมนดังกล่าวข้างต้นในอัตราที่สูงติดต่อกันนาน กระทั่งเป็นเหตุให้มีการเสี่ยงเนื้อเยื่อเต้านมแตกต่างจากปกติเพิ่มสูงขึ้นได้ แต่ทว่าการใช้ยาคุมซึ่งเป็นยาที่มีฮอร์โมนเพศช่วยปกป้องการมีท้องที่ไม่ประสงค์ ฮอร์โมนที่อยู่ในยาคุมพวกนี้อาจกระตุ้นเนื้อเยื่อเต้านมได้เช่นกันจ้ะ แม้กระนั้นก็ถือว่ามีผลน้อยมาก แล้วก็จะส่งผลก็ต่อเมื่อกินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องกันขั้นต่ำ 5 ปีขึ้นไป หรือจะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้นได้ ในกรณีที่มีความผิดปกติของฮอร์โมนตามธรรมชาติดังเคสพื้นฐาน หรือยาคุมกำเนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น ในมีประวัติญาติพี่น้องเป็นโรคมะเร็งเต้านม รวมถึงผู้ที่เริ่มใช้ยาคุมตั้งแต่วัยรุ่น
อย่างไรก็แล้วแต่ หลักฐานด้านการแพทย์พบว่า ความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมในคนที่กินยาคุมจะลดลงเรื่อยข้างหลังหยุดรับประทาน จนกระทั่งหยุดกินยาคุมไปแล้วเกิน 10 ปี การเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมก็จะพอๆกับผู้ที่มิได้กินยาคุมกำเนิดเลยล่ะค่ะ
แต่ว่าถึงแม้ว่ายาคุมจะส่งผลเพิ่มการเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมเพียงนิดหน่อย ทว่าเพศหญิงทุกคนทั้งที่กินยาคุมกำเนิดและไม่ได้กินยาคุมก็ควรจะหมั่นตรวจเต้านมเป็นประจำ เพื่อคุ้มครองป้องกันไว้ก่อนจะเหมาะสมที่สุด รวมทั้งถ้าหากพบก้อนเนื้อหรือถุงน้ำในเต้านม ก็ควรจะขอคำแนะนำแพทย์ ซึ่งแม้เป็นถุงน้ำหรือก้อนเนื้อธรรมดาที่ไม่ใช่มะเร็ง ก็ยังสามารถใช้ยาคุมจำพวกฮอร์โมนต่ำได้ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ
กินยาคุมนานๆเสี่ยงมะเร็ง
กินยาคุมนานๆเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือไม่
ข้อมูลทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่า การกินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน 5 ปีขึ้นไป บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้น้อย แต่การเสี่ยงจะลดลงเมื่อหยุดรับประทานยาคุมเกิน 10 ปี ทั้งนี้ความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกจะเพิ่มขึ้นกับสตรีที่มีเซ็กส์ตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้ที่มีคู่รักคนจำนวนไม่น้อย รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง เนื่องจากสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกจริงๆแล้วมีต้นเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อได้ทางเพศชมรมนั่นเอง
ดังนี้ทางด้านการแพทย์ยังสันนิษฐานด้วยว่า หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดชอบละเลยการใช้ถุงยางเมื่อร่วมเพศ ซึ่งนั่นก็อาจเพิ่มจังหวะสำหรับการติดโรค HPV มากขึ้นเรื่อยๆได้
กินยาคุมนานๆเสี่ยงโรคมะเร็ง
ยาคุมกับมะเร็งชนิดอื่นๆ
แม้ว่าจะมีข้อมูลว่าการกินยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจเพิ่มการเสี่ยงมะเร็งเต้านมแล้วก็โรคมะเร็งปากมดลูกได้บางส่วน แม้กระนั้นแต่กระนั้นจุดเด่นของการกินยาคุมกำเนิดก็ช่วยลดการเสี่ยงโรคมะเร็งรังไข่ได้ดิบได้ดี นอกนั้นในคนที่มีปัญหาไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือโรค PCOS การกินยาคุมกำเนิดก็จะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งโพรงมดลูกด้วยนะคะ
สรุปว่าการกินยาคุมมิได้ทำให้เสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งปากมดลูกมากมายอย่างที่ไม่ค่อยสบายใจกันหรอกนะคะ แถมยาคุมยังมีข้อดีที่ช่วยลดลักษณะของการปวดระดู ลดปริมาณรอบเดือนในคนที่มีเมนส์มามากมายแบบล้นทะลัก ช่วยทำให้รอบเดือนมาบ่อย ช่วยปกป้องการท้อง ลดอาการ PMS และบางชนิดของยาคุมกำเนิดยังช่วยลดสิว ลดขนดก ลดหน้ามันได้อีกด้วย
แต่ทว่าเพื่อให้มีความปลอดภัยของตัวเราเอง ก็พยายามเลี่ยงการกินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องกันเกิน 5 ปี รวมทั้งควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อคุ้มครองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆด้วยจะดีมากยิ่งกว่า
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ยาขับเลือด

Tags : ยาขับเลือด



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ