Advertisement
ทุกวันนี้สภาพอากาศที่คุณหายใจไปแทบจะคือสภาพอากาศที่แค่ละอองพร้อมทั้งสิ่งสกปรกที่ปะปนเข้าในนั้นคงจะเป็นเหตุให้ป่วยง่าย หรือสูดไม่คล่องได้ ฉะนั้นแล้วการที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะสารพิษคุณจึงหลีกหนีไม่ได้ที่จำเป็นต้องสูดดมอากาศเอาพวกนั้นไปข้างในร่าง
แต่ครั้งคุณกลับมาบ้านคุณอาจจะคิดว่าอากาศในที่พักอาศัยสะอาดสะอ้านมากกว่าด้านนอกก็จริงแต่ทว่ายังคงมีฝุ่นละอองมาจากสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่บางทีเราคงจะมองว่าก็เก็บกวาดอยู่บ่อยๆ หรือที่เกาะมาพร้อมกับเครื่องแต่งตัวเราที่ออกไปด้านนอกมาตลอดวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้กระตุ้นให้เราต้องอยู่กับมลพิษทุกขณะ อย่างนั้นแล้วคุณเลยควรจะมีทางเลือกที่เรียกว่า เครื่องกรองอากาศ ไว้ในบ้านเพื่อทำให้ที่อาศัยสะอาดสะอ้านและยังเราได้อากาศสะอาดมั่งของแต่ละวัน
โดยเครื่องฟอกอากาศที่ใช้งานภายในบ้านมีอยู่ 4 อย่างด้วยกันเป็นต้นว่า 1. ที่ฟอกอากาศประเภทใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยตามธรรมดาแล้วคาร์บอนมีสรรพคุณสำหรับดักจับสิ่งโสโครกกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วเลยได้มีนำมาทำเป็นที่กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานในขบวนการสกัดอากาศ 2. เครื่องฟอกสภาพอากาศลักษณะใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ที่กรองอากาศแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้เพื่อดักจับละอองต่างๆ เนื่องจากประจุไฟฟ้าช่วยล่อฝุ่นผงได้ดีถึงแม้จะมีอนุภาคเล็กก็ตาม อาทิละอองทั่วไป ขนสัตว์ หรือแม้แต่ควันไฟบุหรี่ ทำให้เครื่องกรองอากาศเช่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเรื่องมีราวเรื่องทางเดินหายใจ ไม่ก็มีอาการภูมิแพ้ 3. เครื่องกรองอากาศแบบสมรรถนะสำหรับสกัดดี (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกว่า HEPA ถือเป็นที่ฟอกสภาพอากาศประกอบด้วยประสิทธิภาพสำหรับกรองสภาพอากาศสูงมากก็เพราะว่าส่วนที่กรองผลิตมาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดสภาพอากาศให้บริสุทธิ์ได้ถึง 99% อย่างไรก็ดีข้อเสียคือไม่สามารถซึมซับควันหรือว่าซับกลิ่นได้ ถือเป็นที่ฟอกสภาพอากาศที่โดยมากใช้งานข้างในสถานพยาบาลหรือว่าโรงงานบางอย่าง โดยที่ไส้กรองอายุการใช้งานนานถึง 4 ปี 4. เครื่องกรองสภาพอากาศประเภทผสม คือเครื่องกรองสภาพอากาศที่ประเภทผสาน 2 ระบบด้วยกันคงจะคือรวมกันใน Carbon พร้อมทั้ง Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแล้วแต่ว่าผู้ผลิตมุ่งหวังให้ที่กรองสภาพอากาศใช้งานออกภายในรูปแบบใด
จากรูปแบบเครื่องกรองอากาศทั้งหมดที่มีที่กล่าวถึงอาจจะที่มีทุกคนงงงวยว่าแล้วจะที่มีรูปแบบการคัดเลือกที่ฟอกสภาพอากาศยังไงเพื่อให้เหมาะสำหรับตนเองมากที่สุด อย่างแรกต้องคุ้นเคยสภาพอากาศในที่พักอาศัยตัวเองก่อนว่ารูปแบบอากาศรอบๆ บ้านเป็นอย่างไร มีผงจำนวนมากหรือเปล่า หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่าเลยค่อยเลือกใช้เครื่องฟอกสภาพอากาศถัดจากนั้นที่การเลือกตัวที่ฟอกสภาพอากาศโดยที่เครื่องที่ีมีประสิทธิภาพควรมี 2 หน่วยภายในเพียงอันเดียวก็คือ กรองขี้ผง ดักฝุ่น พร้อมกับซึมซับกลิ่นในเพียงอันเดียว รวมทั้งมีพลังที่ทำให้ดึงอากาศรอบๆ เพื่อให้ไปฟอกพร้อมกับปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออก ตรวจสอบดูก่อนว่าหน่วยกรองอากาศตลอดจนแผ่นกรองมีกลักษณะรูปแบบที่เราต้องการหรือไม่กับเป็นไปได้ว่าเอาไปซักล้างได้ไม่ยากหรือไม่รวมทั้งพวกสนนราคาแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาแผ่นกรองหมดเวลาจะสามารถเลือกง่าย สุดท้ายก็เป็นการคิดทบทวนตัวเลขที่มีชื่อว่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ตัวเลขนี้ก็เป็นตัวเลขเอาไว้เปรียบเทียบคุณภาพเพื่อทำงานเกี่ยวกับเครื่องกรองอากาศโดยตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นหากมีคนในห้อง
ประเด็นสำหรับการใช้งานรวมทั้งการดูแลรักษาก็คือ การใช้งานส่วนเครื่องฟอกสภาพอากาศควรจะปิดห้องเพื่อที่จะ
เครื่องฟอกอากาศใช้งานทิ้งไว้ก่อนที่จะเข้าไปภายในห้องเพื่อที่จะอากาศสะอาดสะอ้านก่อนหน้า ส่วนการดูแลเก็บกวาดเป็นควรจะชะล้างที่กรองขั้นต่ำเกือบทุก 3 เดือน โดยการเอามาชะล้างแล้วก็แล้วก็ตากให้แห้ง เพื่อให้ฆ่าเชื้อโรค หรือชะล้างตามที่หนังสือคู่มือบ่งชี้ไว้ แต่ในส่วนผู้ที่ไม่ต้องการล้างบ่อยๆ ควรจะเลือกซื้อรูปแบบประจุไฟฟ้า เนื่องจากถึงแม้จะสนนราคามากกว่าลักษณะอื่นๆแต่ว่าไม่ต้องชะล้างบ่อยบวกกับทำนุบำรุงไม่ยาก
จะเห็นว่าเครื่องกรองอากาศมีหลายแบบตลอดจนแนวทางในการซื้อให้เหมาะกับการใช้งานก็ไม่ได้ยากแบบที่คิดนอกจากนั้นแล้วการทำนุบำรุงความสะอาดสะอ้านยังสะดวกมากอีกเช่นกัน โดยที่ที่ฟอกสภาพอากาศมีให้ซื้อกันหลากหลายแบรนด์ด้วยกันตัวอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ มีตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีTags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี