ข่าวสารวงการไก่ชน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวสารวงการไก่ชน  (อ่าน 73 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jirasak2708
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22854


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2018, 05:37:14 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ข่าวสารวงการไก่ชน

-สังคมไก่ชน-หัดเลี้ยงไก่ชน
-มือใหม่ไก่ชน
-ทำเนียบไก่ชน
-สังเวียนไก่ชน
-เรื่องราวอื่นๆเกี่ยวกับไก่ชนอีกมากมาย

ติดตามได้ที่ 
   http://www.kai



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2018, 04:11:03 pm »

5 รูปลักษณ์หน้าไก่ที่สวยงามโหงวเฮ้งหน้าไก่ คือ ลักษณะรูปลักษณ์ความสวยงามของหน้าไก่คนโบราณเรียกรูปลักษณ์หน้าไก่ไว้หลายรูปลักษณ์โดยนำไปเปรียบเทียบกับหน้าของสัตว์ อื่นๆ ที่สวยงาม รูปลักษณ์หน้าไก่ที่สวยงาม มี 5 รูปลักษณ์ คือ1. หน้านกยูง คือไก่ที่มีรูปหน้าแหลมกลมกลึงเหมือนหน้านกยูง หงอนเล็ก คางรัด เสนียดหัวยาว ปากแหลมคม ตามีประกายแจ่มใส หน้าอย่างนี้แสดง ถึงความฉลาดถือว่าสวยงามที่สุด2. หน้าครุฑ คือ ไก่ที่มีรูปหน้าแหลมกลมกลึง กะโหลกใหญ่ ปลายปากงอ ตาดุ เหมือนพญาครุฑ หน้าตาแบบนี้แสดงถึงความฉลาดและดุดัน ถือว่าสวยงามเป็นรองหน้านกยูง3. หน้าเหยี่ยว คือ ไก่ที่มีหน้าแหลมสั้น กะโหลกใหญ่ กว้าง ปลายปากงอ ดวงตามีประกายดุร้ายเหมือนเหยี่ยวหน้าตาแบบนี้แสดงถึงความดุดันคล่องแคล่ว รวดเร็วและฉลาด ถือว่าสวยงามเป็นรองหน้าครุฑ4. หน้ากา คือ ไก่ที่มีรูปหน้ายาวใหญ่ กลมกลึงกะโหลกยาว ปากใหญ่ปลายปากตรง ตาดุ และเจ้าเล่ห์ ไม่ยอมใครง่ายๆ เป็นหน้าสวยงามรองจากหน้า เหยี่ยว5. หน้านกแก้ว คือไก่ที่มีรูปหน้าแหลมสั้นกะโหลกใหญ่ ปากใหญ่ ปลายปากงองุ้ม ตาโตแจ่มใส ถือว่าเป็นไก่ฉลาด จดจำดี เป็นไก่หน้าสวยงามรองจากหน้ากาลักษณะหน้าไก่นอกจาก 5 หน้าตา ดังกล่าวมาแล้ว ยังมีหน้าอื่นๆ อีก เช่น หน้าวัว หน้าม้า หน้าหมาจิ้งจอก หน้าเต่า หน้าเหี้ย หน้าลิง และหน้ายักษ์ ถือว่าเป็นหน้าไกไม่สวยงามตามตำราหรือความนิยมใบหน้าไก่ประกอบด้วยส่วนสำคัญอยู่ 5 อย่าง คือ1.หงอน
2.ตุ้มหู
3.ปากจมูก
4.เหนียงคาง
5.ตาแหล่งที่มา longhomdi


 
[url=http://casa982.com/]แทงไก่ชนออนไลน์
casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 06:24:45 pm »

การบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ชน

ทำไมต้องบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ชน
       การบริหารกล้ามเนื้อ เป็นวิธีการฝึกให้ไก่มีความเคยชินกับการเคลื่อนไหว ซึ่งหมายถึงการฝึกให้ร่างกายต่าง ๆ คุ้นชินกับการจู่โจมเมื่อต้องทำการลงแข่งหรือลงชนกับไก่ตัวอื่นหรือไก่คู่ต่อสู้ เริ่มตั้งแต่ส่วนหน้า ลำคอ ปีก หน้าอก ปั้นขา และแข้ง ซึ่งล้วนเป็นส่วนที่มีความสำคัญที่จะต้องเป็นกล้ามเนื้อของไก่ชนที่มีความทนทานและแข็งแกร่ง และมีความฟิตพร้อมชน
      วัตถุประสงค์ของการบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ ความจริงเป็นการรีดไขมันกล้ามเนื้อให้ไก่ อีกทั้งยังเป็นการควบคุมน้ำหนักให้ไก่ หากเทียบได้ก็เหมือนกับนักมวยนั่นเอง
 
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ชน

       ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ชน ควรทำหลังจากทำการกราดน้ำหรืออาบน้ำให้ไก่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มการบริหารกล้ามเนื้อให้ไก่ขณะที่ตัวไก่ยังเปียกน้ำหมาด ๆ อยู่ จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
 
การบริหารกล้ามเนื้อไก่ชน มี 2 แบบ
       1. การบริหารกล้ามเนื้อลำคอ
            ลำคอถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการชนในสยาม เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ไก่ชนต้องใช้สำหรับหลอกล่อและหลบหลีก ถ้าหากลำคอของไก่ไม่แข็งแรงพอแล้วล่ะก็จะทำให้เสียท่าคู่ต่อสู้ได้เอาง่าย ๆ
            สำหรับการบริหารกล้ามเนื้อลำคอให้ไก่ชน ทำได้โดยให้ผู้เลี้ยงหรือผู้ฝึกจับไก่เอาไว้อยู่ตรงช่วงระหว่างขา หลังจากนั้นใช้มือข้างหนึ่งโอบตัวไก่เอาไว้หลวม ๆ ส่วนอีกมือข้างที่ถนัดก็จับตรงคอไก่แล้วทำการยืด หด คอเข้าและออกหลาย ๆ ครั้ง สลับกับการเอียงซ้าย ขวา หน้า หลังสลับกันประมาณ 20-30 ครั้ง
            ซึ่งหากเป็นการเริ่มฝึกการบริหารกล้ามเนื้อลำคอให้ไก่ในครั้งแรก ๆ อาจจะเริ่มฝึกที 5-6 ครั้งก่อน เมื่อไก่เริ่มชินแล้วจึงเพิ่มจำนวนครั้งขึ้น หรือนอกจากการยืดลำคอแล้วอาจจะเพิ่มการนวดและขยำลำคอไก่ให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังอย่างบีบแรงเกินไปเพราะจะทำให้ไก่หายใจไม่ออก
       2. การบริหารกล้ามเนื้อปีก
            นอกจากกล้ามเนื้อลำคอแล้วกล้ามเนื้อปีกก็เป็นส่วนที่มีความสำคัญที่ต้องใช้ในการตีหรือชนเช่นกันที่จำเป็นจะต้องมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเพื่อให้ไก่ชนสามารถบินเข้าใส่ รวมถึงบินหนีคู่ต่อสู้ในสนามแข่งได้
            วิธีการบริหารกล้ามเนื้อปีก ให้ผู้เลี้ยงสอดมือทั้ง 2 ข้างเข้าไปใช้ปีกไก่ทั้ง 2 ข้างโดยทำการหงายมือขึ้น แล้วจับตรงข้อต่อของปีก แล้วให้ดึงปีกออกไปด้านข้างจนสุด พร้อมกับยกตีนไก่ขึ้นไปให้สูงจากพื้น วิธีการนี้เป็นวิธีบริหารปีกไก่ให้แข็งแรงขึ้นได้

แหล่งที่มา longhomdi

 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 05:16:31 pm »

สูตรยาบำรุงกำลังไก่ชน

สูตรยาบำรุงกำลังไก่ชน    ยาบำรุงกำลังไก่ชน เป็นสมุนไพรที่ผู้เลี้ยงไก่ชนนิยมนำมาทำกันเอง เพื่อนำมาให้ไก่กิน เพื่อเพิ่มกำลังให้กับไก่ชน เพิ่มความแข็งแรง และความกล้าให้กับไก่ ผู้เลี้ยงบางคนจะทำเหมือนหรือแตกต่างกัน แล้วแต่ความเชื่อ หรือความนิยมของแต่ละพื้นที่ โดยวันนี้มีหนึ่งวิธีที่นำมาใช้กับไก่ชนของตนเองเห็นว่าได้ผลดี จึงได้นำมาเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจ มีวิธีการและรายละเอียดต่างๆ ดังนี้ การทำยาบำรุงกำลังไก่ชน      1. ปลาช่อนใหญ่ย่างไฟ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง 1 ตัว      2. กระชายหัวแก่ ๆ ประมาณ 2 ขีด (แห้ง)      3. กระเทียมแห้ง 1 ขีด      4. พริกไทย 20 เม็ด      5. บอระเพ็ดแห้ง 1 ขีด      6. นกกระจอก 7 ตัว      7. หัวแห้วหมู 1 ขีด      8. ยาดำพอประมาณ      9. น้ำผึ้งป่า (เล็กน้อย) วิธีทำ       นกกระจอกนำไปย่างไฟแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปตำให้ป่น ปลาช่อนก็ตำให้ป่น แล้วนำทั้ง 8 อย่างมาผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเม็ดพุทราให้กินวันละ1 เม็ดก่อนนอนทุกวันจนกว่าไก่จะชน ยาบางตำราไม่เหมือนกันแต่ได้ผลดีทั้งนั้น แต่ไปแพ้กันตรงที่ไก่เก่งไม่เก่งเท่านั้น ไก่ที่นำไปชนทุกครั้งถ้าไม่ได้ชน กลับมาจะต้องฉะหน้าถอนแข้งทุกครั้ง ๆ ละ 5 นาที 1 ครั้ง ก่อนจะนำไปชนต่ออีก แหล่งที่มา longhomdi

 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2018, 03:56:55 pm »

ไก่เป็นโรคขาอ่อน
ไก่เป็นโรคขาอ่อนการป้องกันและรักษาโรค ไก่เป็นโรคขาอ่อน       ไก่ติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มที่ทำให้เกิดข้ออักเสบ (ซึ่งปกติเป็นเชื้อที่พบได้อยู่ตามตัวไก่ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวไก่) เชื้อแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต และแพร่ไปที่ข้อขา ทำให้เกิดการอักเสบ ของข้อขาอย่างฉับพลัน โดยโรคเกิดขึ้นในแค่ช่วงข้ามคืน อาการข้ออักเสบ ทำให้ไก่เจ็บจนไม่สามารถยืนได้ เราจึงเห็นไก่ลงนอน ในระยะที่เชื้อแพร่สู่กระแสโลหิตนี้ ไก่จะมีไข้สูง ถ้าเราสักเกตดีๆ เมื่อจับตัวไก่ จะรู้สึกร้อนผิดปกติ และจะเห็นขนบริเวณหลังลุกฟูรักษาด้วยการฉีดยูคา (UCA)

       ฉีดยูคา (UCA)เข้ากล้ามเนื้อ สองเข็ม ตัวยาสามารถฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุได้บางส่วน การอักเสบที่ข้อขาจึงทุเลาลง ไก่จึงสามารถกลับมายืนได้ตามปกติ แต่เมื่อหยุดยา ควรเข้มข้นของยาในตัวไก่จะลดน้อยลง หรือหมดไป เชื้อที่ยังคงเหลืออยู่ในตัวไก่จะกลับมาเจริญเติบโต เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนกลับมาก่อโรคใหม่อีกครั้ง เราจึงเห็นไก่กลับมาลงนอนอีก ให้ฉีดยูคา (UCA) ต่ออีก 2-3 เข็ม เชื้อที่เป็นเหตุก็จะถูกฆ่าจนหมด ไก่จะหายป่วยและไม่กลับมาเป็นอีก การรักษารอบสอง      เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่เชื้อจะดื้อยายูคา (UCA) จึงแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ยากลุ่มใหม่ คือ อะม๊อกซี่ซิลลิน (ให้กิน ขนาด 250 มก/ตัว/วัน) เพื่อฆ่าเชื้อ และเสริมด้วย เด็กซ่าเมทธาโซน (ฉีดเข้ากล้าม 1 มิลลิลิตร/ตัว/วัน) เพื่อลดการอักเสบเฉพาะที่ พบว่าไก่ตอบสองต่อการรักษาดีมาก จนสุดท้ายไก่หายป่วย     สำหรับการใช้ยาเด็กซ่าเมทธาโซน ซึ่งเป็นยาลดการอักเสบในกลุ่มสเตียรอยด์ ร่วมด้วยนั้นก็เพื่อต้องการลดการเสียหายของข้อ โดยให้เสียหายน้อยที่สุดและพื้นคืนสภาพเร็วที่สุด แหล่งที่มา longhomdi





 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 01:34:51 pm »

5 สูตรสมุนไพรบำรุงไก่ชนให้ บินดี ตีแรง แข้งหนัก
 


5 สูตรสมุนไพรบำรุงไก่ชนให้ บินดี ตีแรง แข้งหนัก           การเลี้ยงไก่ชน ควรมีความพร้อมในการเลี้ยงทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เลี้ยง อาหาร ความรู้ในการเลี้ยง การมีเวลาให้ไก่ และที่สำคัญควรมีอาหารเสริมให้ไก่ อาหารเสริมควรจะเป็นสารที่ผลิตมาจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรไทยวันนี้เราจะมาพูดถึงอาหารเสริมที่ทำมาจากสมุนไพรไทย ที่ทุกท่านสามารถทำเองได้ เพราะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมีอยู่ทั่วๆไป สูตรที่ 1 เพิ่มกำลังไก่ชนมีความอดทนดีเยี่ยม


           นำข้าวเหนียวไปเผาไฟจนข้าวเหนียวเปลี่ยนเป็นสีดำ นำไปใส่ครกตำรวมกับปลาป่น พริกสุก หอยขม และตามด้วยน้ำอ้อยนิดหน่อย ปั้นเป็นยาลูกกลอนให้ไก่กิน ช่วยเพิ่มพละกำลังให้ไก่ สูตรที่ 2 ช่วยให้ไก่บินเก่ง


        นำหญ้าแพรกบดให้ละเอียดจากนั้นนำมาผึ่งลมให้พอหมาดๆ แล้วนำคลุกเคล้ากับนมข้นปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กินก่อนนอนวันละครั้ง ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและบินเก่ง สูตรที่ 3 ช่วยระบบขับถ่ายและช่วยให้เจริญอาหาร


      นำบอระเพ็ดฝานออกเป็นแผ่นบางๆ และนำไปแช่ในน้ำผึ้งเดือนห้า นำให้ไก่กินทุกวันช่วยให้ระบบขับถ่ายดีและเจริญอาหารมากขึ้น สูตรที่ 4 ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
           นำลูกปลา จิ้งจก ลูกเขียด หรือลูกหนูตัวแดงๆที่ขนยังไม่ขึ้น (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)โดยให้ไก่กินแค่วันละตัว จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้ไก่ ทำให้ไก่มีร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นสูตรที่ 5 ช่วยให้ไก่บินสูง

           นำดีปลี ตะไคร้ พริกไทย และกระชาย ตำรวมกันพอแหลกนำมายัดใส่ท้องปลาช่อนจนเต็มท้อง จากนั้นนำเนื้อปลาช่อนมาเผาไฟ เผาจนสุกและส่งกลิ่นหอมออกมา และเอาออกจากเตาเผาไปใส่ครกทั้งตัวตำจนละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งเดือนห้า ปั้นเป็นยาลูกลอน ช่วยให้ปีกแข็งแรง ทำให้ไก่บินได้สูง แหล่งที่มา longhomdi




 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2018, 02:34:00 pm »

การเลี้ยงปล้ำให้เจ๋ง ตีแล้วมีชัยชนะ

การเลี้ยงปล้ำให้เจ๋ง ตีแล้วมีชัยชนะ           การเลี้ยงปล้ำวางไก่เพื่อไปตีนั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร และอยู่กับความพร้อมของไก่แต่ละตัว เพื่อให้เคยชินกับการออกกำลังนานๆได้ เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายของไก่จะต้องใช้ในการสร้างร่างกายให้แกร่ง เนื่องจากในสนามชนนั้นไม่อาจทราบได้ว่าจะเจอกับไก่ที่แข็งขนาดใหน ด้วยเหตุนี้ในการฝึกไก่ให้ออกกำลังกาย คือ ช่วงที่ต้องสร้างจิตใจให้ไก่มีความอนทนต่อความเจ็บปวด เพราะหากเจอคู่ต่อสู้ที่กระดูกแข็ง ไก่จะทนต่อการถูกคู่ต่อสู้ตีอย่างแรงๆและบ่อยๆได้ดี สิ่งที่พิจารณาว่า”ไก่”พร้อมแล้ว เลี้ยงได้ที่แล้ว สามารถนำไปตีในสนามได้จะต้องพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้ คือ1. พิจารณาจากสภาพภายนอกของร่างกายไก่ ให้ส่วนต่างๆมีความพร้อม ไม่บาดเจ็บหรือมีแผล
2. ความแข็งแรงของเนื้อหนังรวมไปถึงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกและข้อต่อของกระดูก มีความพร้อมที่จะถูกตีอย่างแรงๆ มากน้อยเพียงใดหรือที่เรียกว่ากระดูกแข็งพอ
3. พิจารณาจากการสมบูรณ์ของระบบภายในร่างกาย เช่น มีระบบหายใจที่ดี ที่สำคัญเมื่อลงพันตูกับคู่ต่อสู้ต้องหายใจได้ดีไม่มีติดขัด แม้ว่าปอดหรือหัวใจต้องทำงานหนักก็ตาม ระบบย่อยอาหารก็ต้องพร้อมที่จะทำงานหนัก สามารถย่อยอาหารสร้างขุมพลังงานให้มีเรี่ยวแรงในการตีกับคู่ต่อสู้ได้เป็นเวลานาน
4. สภาพจิตใจของไก่ ต้องมีความคึกคะนองที่จะลงในสนาม เพื่อเป็นผู้ชนะ ดังนั้นเมื่อลงในสนามมันจะต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ ไม่มีคำว่ายอมแพ้เด็ดขาด ส่วนการตัดสินใจของเจ้าของ ต้องคำนึงถึงตัวไก่ที่จะนำมาปล้ำด้วย จะต้อง”สุดปีกสุดหาง” บางคนเอาไปตีทั้งที่มีขนปีกอ่อน และมีขนอ่อนตามตัวประปราย พอนำไปตีขนปีกอ่อนตามตัวก็จะแตกและหลุดทำให้มีเลือดไหลไม่หยุด ทำให้เสียไก่ไปโดยใช่เหตุ การเลี้ยงปล้ำวางไก่เชิงมุด มัด แบก ขี่ ต้องทำในขณะไก่มีร่างกายที่สมบูรณ์ ทั้งภายในและภายนอก มีความเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างเต็มตัว การปล้ำวางในหลายครั้งนั้นก็มีเป้าหมายที่มีการปั้นเชิง ปั้นใจให้แกร่ง ปล้ำวัดความเก่ง          สำหรับการปั้นเชิงนั้น ก็เพื่อทำการทบทวนความจำให้ไก่ชินกับการใช้ชั้นเชิงและเพิ่มความแกร่งให้กับตัวไก่ โดยการปล้ำครั้งแรกๆควรหาไก่ยืน อาจจะตัวเล็กๆและหนักน้อยกว่า และไม่ควรเก่งกว่ามาปล้ำ เพื่อให้ไก่ได้ใจ ใช้ชั้นเชิงได้เต็มที่ และพยายามหาคู่ปล้ำหลายๆแบบค่อยๆเพิ่มความเก่งขึ้นไป แต่อย่าให้เก่งกว่าไก่เรา เพื่อให้ไก่ของเราย่ามใจกับการต่อสู้ อยากที่จะลงสนามทุกครั้งไป เมื่อแน่ใจว่าปั้นไก่เป็นที่ต้องการแล้ว ก็สามารถนำไปวัดกับไก่เก่งได้          เรื่องของการปั้นใจ เป็นธรรมชาติของไก่เชิงมัด มุด แบก ขี่เป็นไก่เชิงล่าง มักจะแพ้ทางคู่ต่อสู้ที่เป็นไก่เชิงบนที่ กอด กด ขี่ จะสู้ไม่ได้และจะไม่สู้หน้าไก่ ดังนั้น
เมื่อมีการปั้นเชิงก็ต้องมีการปั้นใจควบคู่กันไปด้วย เพื่อบังคับให้ไก่มีความมั่นใจที่จะใช้เชิงบังคับตีคู่ต่อสู้ได้ และพยายามที่จะตีคู่ต่อสู้ให้ได้ด้วย          สำหรับไก่หนุ่มเชิงมุด มัด แบก ขี่ ควรทำการปั้นหลายๆครั้ง ปั้น 3 ครั้งขึ้นไป อาจเป็นการปล้ำช้ำๆเอาไว้ คือ ไม่ได้กาดน้ำทำตัว ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยๆอย่างจริงจัง ปล้ำบ่อยๆเพื่อให้เกิดความแข็งแรง แต่ถ้าเป็นไก่สุดปีกสุดหางมีลักษณะแข็งแรง ก็ปล้ำครอบเลี้ยงได้เลย คือ ทำการกาดน้ำทำตัว และให้ออกกำลังกายวิ่งสุ่มอย่างจริงจัง โดยจัดเวลาปล้ำให้เหมาะสม เช่น ปล้ำครั้งแรกไม่ควรเกิน 20 นาที(1ยก) อีกไม่เกินสองอาทิตย์ก็จัดการปล้ำวางครั้งที่2 ไม่ควรเกินสองยก อีกอาทิตย์หนึ่งหรือ 10 วันก็จับปล้ำ 2 ยกเมื่อแน่ใจว่าไก่ใช้ได้ก็เริ่มครอบเลี้ยง จากนั้นก็จัดให้มีการปล้ำเอาแรง โดยหาคู่ต่อสู้ที่ไม่เก่งมาลงปล้ำให้ได้ 2 ยก ถ้าปล้ำไม่ครบก็ต้องกลับไปเริ่มปล้ำเลี้ยงกันใหม่         ส่วนการปล้ำวัดความเก่ง เพื่อที่จะดูว่าไก่มีความพร้อมแค่ใหน ควรจะหาคู่เปรียบที่มีร่างกายพอฟัดพอเหวี่ยง มีความเก่งพอๆกัน เป็นการทดสอบว่าไก่จะผ่านหรือไม่แต่การปล้ำแบบนี้มักจะไม่ให้เกิน 2 ยก หรือบางครั้งก็ไม่ครบยก เนื่องจากไก่ทั้งสองฝ่ายจะตีล้างกันไปกันมาต่างได้บาดแผล เพราะขืนให้ปล้ำต่อไปอาจจะทำให้ไก่ตัวใดตัวหนึ่งเสียไก่ก็เป็นได้         การปล้ำเอาคอ เป็นการหาคู่ปล้ำที่เป็นไก่ตีคอเพิ่อให้ไก่ของเราเคยชินกับไก่ประเภทนี้ เพราะจะได้เคยคอและคอของไก่จะได้แข็งแรง หากไก่ของเรามีชั้นเชิงไหวพริบดีก็จะเห็นการแก้เป็นอย่างไร เช่น กอด กด ขี่ หรือออกลีลาหากเดินไม่ทันก็จะกดบ่าตีตัว เป็นต้น แต่ควรปล้ำพอสมควร และหาไก่ปล้ำที่ตีไม่แรง เพราะการถูกตีบ่อยๆจะทำให้ไก่ของเราไม่กล้าขึ้นขี่ และหากถูกตีมากๆอาจเกิดความขยาดแข้งก็เป็นได้อย่างไรก็ดี การปล้ำไก่ควรหาไก่หลายประเภทมาทดสอบฝีมือของไก่ ไก่จะได้ทดสอบฝีมืออันหลากหลาย นอกเหนือจากการสร้างความแข็งแกร่งให้กับไก่ของเรา แหล่งที่มา longhomdi


 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2018, 02:00:57 pm »


การควบคุมนํ้าหนักไก่ถ่ายขน


การควบคุมนํ้าหนักไก่ถ่ายขน
การเลี้ยงไก่ถ่ายเป็นปัญหามากสำหรับนักเลี้ยงทั่วไป โดยเฉพาะไก่พม่าเลือดสูง ถ้าอายุลูกถ่ายหรือถ่ายใหญ่ก็มักจะมีฝีมือลดลงเนื่องจากน้ำหนักเพิ่มขึ้นทำให้การเคลื่อนไหวเชื่องช้า
 
ปัญหาสำคัญของไก่ลูกถ่ายทุกสายพันธุ์ คือ

1. น้ำหนักตัวเพิ่มมากเกินไป
2. รูปทรงเสียรูปร่าง เช่น กลายเป็นไก่เตี้ยล่ำเปรียบยาก เป็นต้น
3. ปัญหาอุ้งเท้าเสีย เช่นลงพื้น เป็นหน่อ เป็นต้น
4. ปัญหาป่วยเรื้อรัง เช่นคอดอก หน้าซีด หรือเป็นปรวด เป็นต้น
ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้กลายเป็นปัญหาหลักของคนเลี้ยงไก่ถ่ายเมื่อนำมาเลี้ยงชน ..แต่สำหรับวันนี้เราจะนำวิธีการในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักมานำเสนอก่อนครับ
 
การควบคุมน้ำหนักไก่ถ่ายเราควรเริ่มอย่างมีขั้นตอนดังนี้
1.นำไก่ถ่ายเข้ามาเลี้ยงควรเริ่มจากการถ่ายยา กาดน้ำลงขมิ้นพอหมาดเพื่อไล่พวกปาราซิสตามตัวไก่ให้ออกไป เช่นเห็บ เหา ไร ตัวเลือด เป็นต้น
2.อาบน้ำด้วยแชมพูเป็นระยะเพื่อรักษาขนให้นิ่มไม่กรอบง่าย กาดแดดพอประมาณ อย่าให้หนัก เมื่อครบสัปดาห์ก็ปล้ำปล่อยปากครั้งที่ 1 จับเวลา20 นาที นับครั้งการบิน นับครั้งการล้ม ทำสถิติไว้
3.จากนั้นปล่อยวิ่งสุ่ม..บินหลุม..กาดน้ำกาดแดด..ปล่อยแปลง..เดินนวม…ครบสูตร ก่อนปล้ำพัก 3-4วัน แล้วปล้ำวางจริง นับครั้งการบิน และการล้มว่าสถิติดีขึ้นไหม
4.ในกรณีบินดีขึ้นเป็นที่พอใจแล้วให้ทำเหมือนขั้นตอนที่ 3 อีกรอบหนึ่ง แล้วปล้ำวางจริงครั้งที่ 3 หากบินดีพอใจให้บันทึกน้ำหนักและทำการควบควบน้ำหนักและเข้าครอสเลี้ยงชนได้เลย…ซึ่งอาจจำเป็นต้องปล้ำวางอีก 2-3 ครั้งถึงชนจริงได้
5.ในกรณีบินไม่ดีไม่น่าพอใจ ให้เพิ่มการกาดแดดเพิ่มขึ้นชั่งน้ำหนักให้ลดลงสองสัปดาห์ 0.5 ขีดแล้วเข้าปล้ำจริงในสัปดาห์ที่ 3 หากบินดีพอใจก็เข้าปล้ำวางจริงได้ หากยังบินไม่ดีก็ลดอีกรอบ 3 สัปดาห์ลดไป 0.5 ขีด หากยังบินไม่ดีควรคัดทิ้งหรือนำไปเป็นไก่ล่อไว้เดินนวมตัวอื่น บางตัวเดินนวมบ่อย ๆ จะดีขึ้น
 
สรุปคือ
  การลดน้ำหนักไก่ถ่ายช่วงแรกให้ลดอย่างเป็นธรรมชาติคือ แค่เลี้ยงกาดแดด กาดน้ำ ออกกำลังกายก็พอในช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าปล้ำวาง 3 ครั้ง ช่วงนี้ไก่จะลดเองตามธรรมชาติไม่เป็นการบังคับ ตัวใดผ่านการทำน้ำหนักช่วงนี้ได้ง่ายจะเป็นไก่ถ่ายที่เลี้ยงง่ายและได้ชนจริง
แต่ถ้าตัวใดทำน้ำหนักช่วงนี้ไม่ได้มักเป็นไก่เลี้ยงยากและไม่ค่อยกลับไปมีฝีมือเหมือนเดิมควรปล่อยทำพ่อหรือจำหน่ายออกไปให้คนอื่นทำพ่อพันธุ์ต่อไป..

แหล่งที่มา longhomdi


 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2018, 05:48:57 pm »

4 ลีลาไก่ชนพม่าโยกขยับบน


4 ลีลาไก่ชนพม่าโยกขยับบนพม่าลีลาคลาสสิคที่คนส่วนมากมักลืมไปอีกสไตล์คือพม่าโยกขยับบน ลีลาหลักๆ ของพม่าโยกขยับบน คือ1. ยืนหัวสูงโยกไปมา หัวคอจะส่ายไปมา พร้อมๆ กับการถอยที่เป็นสเต็ปเท้าสวยงาม หัวที่ส่วนให้เรานึกถึงคอกงูจงอางที่ส่ายไปมาครับ จะส่ายน่าเกรงขามเช่นเดียวกับคิงูจงอาง ส่วนสายตาก็จ้องมองคู่ต่อสู้ทุกระยะ2. ถอยสาดแข้งเปล่า คือขณะถอยก็สาดแข้งเปล่าตลอดเวลา เข้าลักษณะถอยสาด ถอยสาด วัดระยะแข้งตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตัวเด่น ๆ คือสาดแข้งเปล่าจัด จังหวะถอยต้องถอยวนซ้ายวนขวา ไม่ถอยตรง ๆ เพราะการถอยตรงจะเป็นจุดอ่อนให้ไก่จิ้มตีเข้าทำได้ง่าย3. เก่งหน้าหงอนเก่งลูกหน้า ไก่โยกบนที่ดีจะเก่งหน้าหงอนมาก คือเห็นหัวต่ำเป็นขนมเลยหละ และที่สำคัญมันจะถนัดตีหน้าตรงมาก แม่นคมทุกดอก นี่คือพิษสงที่ร้ายกาจของไก่โยกขยับบน เรียกว่าเข้าถึงตัวยากมาก4. เปิดปีกเก่ง คือสไตล์ที่เด่นของไก่โยกขยับบน ถ้าเจอคู่ต่อสู้เข้าปีกจะยกปีกออก หรือหมุนตัวออกทันทีสำหรับพม่าเมืองไทยเรามีพม่าโยกขยับบนปรากฎให้เห็นเรื่อย ๆ แต่ไม่ค่อยเด่น เพราะกระแสเรานิยมประเภทโยกล่างหรือม้าล่อสั้นมากกว่า ดังนั้นการพัฒนาไก่โยกขยับบนจึงมีปรากฎน้อยในซุ้มหรือฟาร์มต่าง ๆแหล่งที่มา longhomdi

 
แทงไก่ชนออนไลน์casa982เว็บพนัน
นออนไลน์ครบเครื
[/color]ทางเข้[/color]



บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ