สัตวแพทย์รักษาหมา ด่วนฉุกเฉิน ผ่าตัดทำหมัน และ ผ่าคลอด ตั้งอยู่ซ.พัฒนาการ 20 ติด

กด Like เพื่อดูข้อมูล โทร 0813724066, 0851623030 เห็นจากเวปไซต์ได้ราคาพิเศษ
Or wait Seconds.

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตวแพทย์รักษาหมา ด่วนฉุกเฉิน ผ่าตัดทำหมัน และ ผ่าคลอด ตั้งอยู่ซ.พัฒนาการ 20 ติด  (อ่าน 64 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Boyzite1011
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15338


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2018, 02:46:23 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนรีบด่วน ฉีดวัคซีน ผ่าตัดเนื้องอก ตั้งอยู่ถ.สุขุมวิท77 (ซ.อ่อนนุช17) ติดห้าง Maxvalue
คลินิกของเร�รักษาสัตว์[/url] อยู่ตรง ซ.พัฒนาการ 20 ทะลุกันได้ ติดห้าง Maxvalue
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขและแมว คืออะไร
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและก็แมว เป็นโรคติดโรคที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรีย โรคนี้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดหนองเลือด เป็นพิษตามผิวหนัง หรือเยื่อไขกระดูกอักเสบ ถ้าหากเป็นกรณีที่รุนแรงมาก บางทีอาจเสียชีวิตได้
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและก็แมว มีต้นเหตุมาจากอะไร?
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาแล้วก็แมว เป็นอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย Pastsrera ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งบางทีอาจเจอจากด้านในปากของหมา 75% แล้วก็แมวมากถึง 97% เจ้าของอาจดำรงชีวิตคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากเกินไป กระทั่งทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสูงร่างกายผ่านน้ำลายของสัตว์เลี้ยง หรือการสูดเอาแบคทีเรียเข้าไปผ่านจมูก เช่น การจุมพิต หรือหอมสัตว์เลี้ยงเสมอๆ
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขและก็แมว มีอาการอย่างไร
ถ้าเกิดติดเชื้อผ่านการสูดหายใจเอาแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านจมูก อาจจะทำให้มีลักษณะคัดจมูกคล้ายเป็นหวัด แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วเป็นลักษณะของโพรงจมูกอักเสบ เป็นหนอง ถ้าหากเชื้อแบคทีเรียไปสู่ดวงตา ก็อาจทำให้มีลักษณะอาการตาแดง เลือดคั่งในตา
ยิ่งกว่านั้นยังอาจมีไข้สูง ไอค่อนข้างจะหนัก จนถึงบางทีอาจถึงกับขนาดไอเป็นเลือด เมื่อปอดติดเชื้อโรค

โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและแมว อันตรายมากไหม?
ในความเป็นจริงแล้วแม้เป็นคนที่มีภูมิต้านทานโรคดี ร่างกายธรรมดาแข็งแรงอยู่แล้ว ร่างกายอาจต้านแบคทีเรียจนหายเป็นปกติได้เอง แต่ถ้าหากยังคงได้รับเชื้อแบคทีเรียจากสัตว์เลี้ยงโดยตลอด บวกกับร่างกายเริ่มไม่แข็งแรง พักน้อย ทานอาหารที่ไม่ค่อยมีสาระ และไม่ได้บริหารร่างกายเป็นประจำ อาจจะก่อให้เชื้อแบคทีเรียทำร้ายร่างกายหนักขึ้นเรื่อยจนถึงบางทีอาจถึงกับตายได้ด้วยเหมือนกัน ความรุนแรงของโรคก็เลยขึ้นกับภูมิต้านทานโรค รวมทั้งสุขภาพของแต่ละคนด้วย
 
ดูได้ยังไง ว่าสุนัขและก็แมวของเรา มีเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นอันตรายต่อเราหรือไม่
เกิดเรื่องยากที่จะพิจารณาจากด้านนอกได้ว่า สุนัขหรือแมวมีเชื้อแบคทีเรียที่มีอันตรายต่อเราหรือเปล่า เพราะว่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปากของสุนัขและแมว มิได้ทำให้เป็นอันตรายต่อสุนัขแล้วก็แมวเอง แต่ว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ฉะนั้นควรระวังไม่ว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของ ได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่ก็ตาม
 
ถ้าหากมีลักษณะคัดจมูก ตาแดง จับไข้สูง หรือไอหนัก โดยที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง แล้วก็คลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด อาจต้องเจอแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แล้วก็รีบทำการรักษาอย่างทันการค่ะ
การตัดหางหมา
หมาบางพันธุ์นิยมตัดหาง ให้เหลือความยาวตามลักษณะในชนิดนั้นนิยม ซึ่งก็ควรจะตัดในขณะยังมีอายุยังน้อยๆอยู่เพื่อไม่มีเลือดออกมามากมาย สุนัขไม่ปวด แผลหายเร็วรวมทั้งทำเป็นง่ายโดยไม่ต้องวางยาสลบ ด้วยเหตุดังกล่าวหมาประเภทที่จำเป็นต้องตัดหางข้างหลังคลอดควรที่จะนำลูกหมาไปทำตัดหางด้านในหนึ่งอาทิตย์ถ้าจะตัดหางเองต้องทำในระยะไม่เกิน 7 วันหน้าคลอด โดยการขลิบขนบริเวณหางที่อยากได้เอาทิ้งให้ถึงผิวหนังแล้วชำระล้างด้วยการใช้แอลกอฮอล์ หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ทาให้ทั่ว ภายหลังก็รูดผิวหนังขึ้นมาทางโคนหางแล้วก็ใช้เชือกหรือยางรัดไว้ให้แน่นตรงข้อที่ 2 ของกระดูกโคนหาง ใช้กรรไกรที่ทำลายเชื้อแล้วตัดตรงระหว่างข้อของกระดูกที่จะตัด แล้วแต้มด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน ทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมง จึงค่อยเอาเชือกหรือยางรัดออกปลดปล่อยให้แผลหาย ส่วนใหญ่ผิวหนังของหางที่รูดขึ้นไปก็จะรูดลงมาเอง หรือบางทีก็อาจจะเย็บปิดก็ได้ถ้าอยาก
การตัดหูหมา
สุนัขบางชนิดนิยมตัดหู อย่างเช่น บ็อกเซอร์, โดเบอร์แมน, มินิพบร์ พินเซอร์ แล้วก็เกรท เดน ซึ่งก็ควรทำการตัดหูเมื่อลูกสุนัขอายุระหว่าง 12-14 อาทิตย์ เพราะว่าขนาดโตพอที่จะกระทำผาตัดได้ง่าย ทนต่อการวางยาสลบ ภายหลังตัดแล้วแพทย์ต้องดามหูไว้ตราบจนกระทั่งหูจะตั้งตรงตามต้องการ ซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 3-4 อาทิตย์ ระหว่างนี้เจ้าของจะต้องรอดูและอยู่ให้หมาเกาแผลจนไหมที่เย็บหลุด หรือแผลสกปรก เพราะจะทำให้ทรงของหูไม่เป็นไปตามต้องการ
การอาบน้ำสุนัข
หมาก็เสมือนคนที่ต้องดูแลรักษาความสะอาดรวมทั้งตกแต่งให้มองงาม สวยอยู่เสมอ เพราะว่ามันไม่สามารถที่จะจะทำความสะอาดแล้วก็เสริมสวยให้ กับตัวเองได้ ผู้เลี้ยงก็เลยต้องทำหน้าที่ พึงพอใจในตัวของมันเหมือนกับเป็นตัวของมันเองเลยทีเดียว การอาบน้ำต้องใช้ยาสระผม แล้วก็สบู่พร้อมกันไปด้วย ควรเลือกซื้อยาสระผมหรือไม่ก็สบู่ที่ทำขึ้นสำหรับใช้กับหมาแค่นั้น อย่านำยาสระผมหรือสบู่ของคนมาใช้กับหมาโดยเด็ดขาด เพราะว่าผิวหนังของสุนัขบางจำพวกเปราะบางมากมาย ถ้าเกิดอาบน้ำด้วยยาสระผมหรือสบู่ของคน จะก่อให้มีปัญหาเรื่องขนแห้ง หยาบคาย และมีสะเก็ดรังแคขึ้นบนผิวหนัง บางตัวเป็นหนักถึงบางทีอาจจะขนร่วงไปเลยก็มี เดี๋ยวนี้แชมพูสุนัขมีให้เลือกหลายสูตร มีอีกทั้งแบบผสมครีมในตัว ชนิดทูอินวัน หรือ ทรีอินวัน จำพวกที่มีสารฆ่าเห็บ ฆ่าหมัด มากมายเยอะแยะไปหมด ก่อนซื้อควรอ่านดูฉลากข้างขวดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง บรรจุเท่าใด หมดอายุวันไหน แล้วจึงเลือกซื้อมาใช้ให้ถูกกับลูกหมาของเรา
แนวทางอาบน้ำให้หมา
อุปกรณ์จำต้องจัดเตรียม คือ ยาสระผมสำหรับสุนัข ผ้าที่มีไว้เพื่อเช็ดตัว อ่างน้ำ หรือสายยาง ที่ต่อจากก๊อก เครื่องเป่าผม
ขั้นตอนการอาบน้ำให้หมาทำเป็นดังต่อไปนี้ เป็น
1. จับหมาให้อยู่ในอ่างนิ่งๆโดยการจับที่ปลอกที่มีไว้ใส่คอ เป็นได้ควรจะอุดหู ทั้งสองข้าง ของสุนัขด้วยสำลีเพื่อปกป้องไม่ให้น้ำเข้าหู แล้วจึงค่อยเทน้ำลง บนตัวหมาให้ทั่วหมดทั้งตัว
2. ใช้ยาสระผมสุนัขเทลงบนตัวสุนัข แล้วจึงใช้มือถูนวดแชมพูให้ทั่วใน ตอนที่มืออีกข้างหนึ่งยังจับปลอกคอหมาอยู่เพื่อจะให้มันอยู่นิ่งๆ
3. ล้างยาสระผมที่ท่อนหัวของลูกสุนัขก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงล้างแชมพูที่ลำตัวให้ แล้วก็ใช้ผ้าถูให้ แห้งทั้งตัว
4. เอาสำลีที่อุดหูออก แล้วเป่าขนให้แห้ง กับแปรงขนให้ได้รูป ทรงดังที่อยากได้
 
วิธีการหวีรวมทั้งแปรงขนสุนัข
การแปรงขนหมาทุกเมื่อเชื่อวันจะมีผลให้หมามีร่างกายแข็งแรง ขนเป็นเงาสวย ไม่มีสิ่งสกปรกหมักหมมอยู่ ในขนสุนัข จำพวกขนยาว ดังเช่นว่า อาฟกัน ฮาวด์ ชิสุ ควรหวี ทุกวี่ทุกวัน ส่วนสุนัขประเภทขนสั้น ดังเช่น บลูด็อก เกรดเดน แปรงขนเพียง2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ ส่วนสุนัขชนิดพุดเดิ้ลจำเป็นต้องใช้การตัดแต่งขน จะหวีให้ตรงแบบหมาพันธุ์อื่นไม่ได้
การหวีขนสุนัขประเภทขนสั้น
อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงบิสเทิล แปรงหวีสลิดเกอร์ หวีตรง กรรมวิธีการหวี มีดังนี้
- ใช้หวีแปรงสลิดเกอร์หวีก่อน เพื่อจำกัดเอาขนที่พันออกไม่ให้กำเนิดก้อน สังกะตัง ออกแรงหวีเพียงแค่ เบาๆนุ่มๆหวียาวๆจากคอถึงลำตัวทำแบบนี้ทั่วตัว
- ใช้หวีบิสเทิลแปรง เพื่อเอาขนที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากขนย้ายสุนัขตลอดตัว
- ใช้หวีตรง หวีบริเวณที่ยาว เช่น ส่วนของหาง เท้า ขา ถ้าหากพบว่าขนพันกันให้ใช้กรรไกรเอาทิ้ง สุนัขจะได้ไม่เจ็บ
การหวีขนสุนัขที่สั้นเกรียน
อุปกรณ์ที่ใช้มี แปรงรับเบอร์ หนังชามัวร์ แปรงบิสเทิล
- ใช้แปรงรับเบอร์ เพื่อแปรงย้อนขนหมาจะทำให้ขนตาย แล้วก็สะเก็ด ผิวหนัง สิ่งสกปรกหลุดออกโดยง่าย
- ใช้แปรงบิสเทิล แปรงขนตัวหมาอีกทีให้ทั่วตลอดตัว เพื่อเอาขนที่ตายและสะเก็ดออก
- เช็คขนสุนัขด้วยหนังชามัวร์ เพื่อขนเป็นเงาเงางาม
การหวีขนหมาที่ขนตรงยาว
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงสลิดเกอร์ แปรงบิสเทิล หวีตรง กรรไกร
- ใช้แปรงสลิดเกอร์หวีขนก่อน เพื่อทำให้ขนที่พันกันอยู่คลายตัวออก
- ใช้แปรงบิสเทิลหวีตามอีกรอบ เพื่อทำให้ขนมันเงา แล้วก็หวีง่ายขึ้นไปอีก
- ใช้หวีตรง หวีจัดให้ขนย้ายสุนัขตกลงไปข้างลำตัว ทางด้านซ้ายแล้วก็ทางขวาตามแนวขน
- ใช้กรรไกรตัดแต่งรอบๆเท้ารวมทั้งหู เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมองสวยงาม
การดูแลหูหมา
หูมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับการดูแลใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง สุนัขที่มีหูธรรมดาควรจะมีสีชมพูเรื่อยสะอาด ไม่มีกลิ่นเปลี่ยนไปจากปกติ หูควรสะอาดไม่มีขี้หูมากเกินไป ไม่มีเห็บ หรือหมัด ไม่เป็นแผล หนอง หมาบางจำพวกรวมถึงพวกพุดเดิ้ล มักมีขนขึ้นที่รอบๆช่องหู ขนพวกนี้จะเป็นตัวเพาะเชื้อโรค แล้วก็หมักหมมส่งสกปรกทั้งหลายได้เป็นอย่างดี พวกหูยานก็เก็บสิ่ง
เปรอะเปื้อนต่างๆได้ง่ายก็เลยจะต้องหมั่นใส่ใจถูสิ่งสกปรกในช่องหูออกให้หมด พวกหูตั้งนี้รักษาง่าย เนื่องจากช่องหูสามารถระบายกับอากาศภายนอกได้โดยธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้สิ่งสกปรกต่างๆจึงไม่สามารถที่จะหมักหมมจนเกิดโรคได้มากนัก ถ้าหูสุนัขสกปรกมากมายก็ควรจะใช้สำลีหรือผ้านุ่มๆขัดถูบริเวณใบหูแล้วก็รูหูส่วนนอกๆบ่อยๆทางที่ดีข้างหลังการอาบน้ำ ด้วยเหตุว่าสามารถตรวจทานว่ามีน้ำหลงเหลือเข้าไปในรูหูหรือไม่ ถ้าเกิดมีจะได้ขัดถูออกให้แห้ง เป็นการคุ้มครองป้องกันหูอักเสบได้ด้วย แม้กระนั้นอย่าได้มานะทำความสะอาดลึกเข้าไปในรูหูเป็นอันขาด บริเวณหวั่นไหวดังกล่าวควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอ
 
การดูแลตาหมา
ตาของสุนัขที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจะมีแววตาแจ่มใส ไม่ขุ่นหมองหรือมีสีแดง หรือมีขี้หูขี้ตา และก็น้ำตาไหลเป็นรอยเปื้อนอยู่เสมอก็แสดงว่าจะต้องมีอะไรไม่ปกติเข้าตา ถ้าเกิดเป็นโรคตาอักเสบปกติเพราะเหตุว่าผงเข้าตา ก็ควรจะใช้น้ำยาล้างตา 4-5 หยด ใส่เพื่อสิ่งสกปรกออกก่อน แล้วก็ใช้ผ้าที่สะอาดขัดถูเบาๆรอบๆขอบตาออกได้ ถ้าหากเป็นมากกว่านี้ควรนำไปพบสัตวแพทย์สุนัขบางพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น พวก พุดเดิ้ล มักมีรอยด่างสีน้ำตาลที่ขนใต้ตาเสมอ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากขนบริเวณนั้นชื้นแฉะเนื่องด้วยหยดน้ำตาของสุนัข รอยเปื้อนน้ำตานี้จะติดแน่นที่ศีรษะตาย้อยลงมา การกำจัดรอยด่างนี้ทำเป็นโดยการหมั่นเช็ดถูให้บ่อยๆครั้งวันแล้ววันเล่า เพื่อขนที่ติดคราบน้ำตานี้เบาๆหลุดตกหมดไปสุนัขบางตัวตาแฉะ บางทีก็อาจจะเป็นเนื่องจากว่าขนตาขึ้นไม่ดีเหมือนปกติ แยงเข้าไปในลูกตา การดูแลรักษาอาการนี้ควรเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์
การดูแลฟันสุนัข
โดยปกติแล้วหมาฟันผุได้ยากมากมาย แต่ว่าที่มองเห็นบ่อยเป็น เหงือกอักเสบ มีสาเหตุมาจากฟันสุนัขไม่สะอาด ขี้ฟันหมักหมมจนถึงจับมาแบบเป็นๆรอยคราบที่เป็นสีเหลืองเกาะติดที่ผิวฟันหมายถึงหินปูนนั่นเอง บางครั้งบางคราวหินปูนมีมากรวมทั้งลุกลามไปจนถึงนางเงือก ทำให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก จนกว่าฟันหลุดไปในที่สุดวิธีคุ้มครองปกป้องการจับของหินปูน ควรให้หมาทานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นเม็ดแห้ง หรือให้แทะเล็มกระดูกเสียบ้างเพื่อขัดฟัน แม้กระนั้นถ้าหากจะให้ดีจริงๆควรให้สัตวแพทย์ตรวจฟันทุกปี สุนัขบางชนิดก็มีการเรียงตัวของฟันที่แย่มาก มีเหงือกเป็นหนองและฟันหลุดเสมอการให้แทะกระดูกไม่อาจช่วยได้เลย พวกนี้ต้องตรวจฟัน แล้วก็ทำความสะอาดเสมอโดยสัตวแพทย์
การดูแลเล็บสุนัข
เล็บหมาจะแตกหน่อจิกลงดิน มันจะสึกไปเองโดยธรรมชาติ แต่ถ้าหากเป็นหมาที่เลี้ยงบนพื้นไม้หรือพื้นปูนซีเมนต์ ชอบพบปัญหาเล็บไม่สึก มีเล็บยาวเร็วกว่าปกติทำให้เดินไม่สะดวก แล้วก็เมื่อทิ้งเอาไว้ นานๆจะก่อให้นิ้วคด หรือแยกห่างออกจากกัน บางครั้งก็ถอนหรือฉีกแตกจนถึงเกิดหนองได้ จะก่อให้สุนัขเจ็บปวดมากเวลาเดิน ดังนั้นจึงจำต้องหมั่นตรวจสอบแลตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เป็นประจำการตัดเล็บหมาควรที่จะใช้กรรไกรสำหรับในการตัดโดยยิ่งไปกว่านั้น จะทำเป็นโดยง่ายแล้วก็ปลอดภัย ได้รอยตัดที่กลมโค้ง การตัดควรตัดที่ปลายเพียงนิดหน่อย ระวังอย่าตัดให้ถูกปลายประสาทสีชมพูในเล็บได้สุนัขที่มีเล็บดำไม่อาจจะแลเห็นปลายประสาทนี้ได้ ด้วยเหตุนั้นตัดเล็บก็เลยทำเป็นแค่คลิบปลายเพียงเล็กน้อย หรือตัดตรงตำแหน่งต่ำจากรอบๆที่มีเลือดมาเลี้ยงสัก 3 มม. การตัดเล็บควรทำทุกเดือน โดยหลังการอาบน้ำ เนื่องจากเล็บที่เปียกน้ำจะอ่อนตัดง่ายดายกว่าธรรมดา
   

สุนัขที่ไม่ได้รับการฝึกฝนบางทีอาจเปลี่ยนเป็นสุนัขนิสัยเสียรวมทั้งมีอันตรายกับผู้ครอบครองได้ ผู้ครอบครองควรจะเริ่มฝึกหัดสุนัขตั้งแต่ยังเล็กๆจะง่ายยิ่งกว่าโดยฝึกหัดให้รู้จักดีกับการรับคำสั่ง การเดินโดยใช้สายลาก การเล่นเกม หมาที่ได้รับการฝึกหัดตั้งแต่เล็กหากความประพฤติที่ไม่ดีตอนโตจะแก้ไขได้ง่ายกว่าสุนัขที่ไม่ได้รับการฝึกหัดให้เชื่อฟังคำสั่ง
เมื่อไรที่ควรจะเริ่มฝึกหัด
คุณไม่ควรจริงจังกับการฝึกฝนสุนัขมากเท่าไรนัก ถ้าหากหมาอายุยังไม่ถึง 7-8 เดือน นักจิตวิทยาสัตว์บางคนกล่าวว่า ลูกสุนัขบางตัวสามารถเริ่มฝึกหัดได้เมื่ออายุตั้งแต่ 7 อาทิตย์ แล้วเทคนิคต่างๆค่อยๆบอก ค่อยๆสอนวันหลัง แม้กระนั้น ที่จริงแล้วเรื่องของวิธีต่างๆปล่อยให้นักฝึกหมาอาชีพเป็นคนฝึกดีมากกว่า ในเวลาที่ลูกหมาของคุณยังอยู่ในช่วงต้นๆของความเป็นลูกสุนัข ตั้งใจเอาชนะจิตใจมันให้ได้ มันจะรักแล้วก็เชื่อถือคุณ การฝึกฐานรากจะเริ่มได้เมื่ออายุ 3-4 เดือน ช่วงอายุนี้ควรจะฝึกฝนให้เดินสวยในช่วงเวลาที่คุณลาก นั่ง นอน ตามคำสั่ง และเข้ามาหาคุณเวลาคุณเรียกมัน
 
เมื่อมันเริ่มทำความเข้าใจให้ใช้เพียงคำพูดเป็นคำบัญชาโดยไม่ต้องออกท่าทาง พร่ำสอนพร่ำบ่นกับมันเสมอๆเมื่อมันทำผิดก็ปรับปรุงแก้ไขมันมันถูก แรกๆก็ใจดีกับมันก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยๆเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆตามความก้าวหน้าของการฝึกฝน อย่าหมดความอดทนหรือโกรธซะก่อน อย่าตีมันด้วยมือหรือเชือกจูงในช่วงเวลาที่ฝึกหัด แค่เพียงคุณดุมันหรือมันก็รู้สึกไม่ถูกมากพอแล้ว
เมื่อหมาทำในสิ่งที่คุณต้องการ สรรเสริญมันพร้อมทั้งลูบคลำหลังมันไปด้วย อย่าตบรางวัลหมาด้วยขนมหรือปฏิบัติกับมันดีเกินความจำเป็นขณะฝึกฝน สุนัขที่ชินกับนิสัยการรับรางวัลแบบนี้จะไว้ใจไม่ค่อยได้ เพราะมันจะไม่ค่อยยอมทำอะไรหากมิได้กลิ่นขนมหรือของรางวัล หากว่าฝ่าฝืนคำสั่งหรือทำอย่างไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจ (เหลวไหล) คุณควรกล่าวกับมันดีๆต่อไปมันจะดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เสียงที่ใช้ฝึก
เมื่อคุณฝึกสุนัขให้ใช้เสียงในการบัญชาที่ขันแข็งรวมทั้งชัดเจน ครั้งแรกคุณสั่งการไปแล้วจะต้องยืนกรานคำบัญชาเดิมไปจนกว่ามันเชื่อฟัง หรือแม้แต่จะผลักมันให้มาฟังคุณก็ตามแต่ มันจะต้องเรียนรู้ว่าการฝึกนั้นไม่เหมือนกับการเล่น เมื่อใดที่มีการบัญชามันจำต้องเชื่อฟังไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้วอกแวกสุดแล้วแต่ ต้องจดจำไว้ว่าน้ำเสียงรวมทั้งน้ำหนักเสียงของคุณ (จะต้องไม่ดังลั่น) จะมีอิทธิพลต่อหมาเป็นส่วนมาก จะต้องบอกด้วยคำพูดที่เน้นแน่น สำหรับการใช้คำบอกเล่าระหว่างฝึกหัดจำกัดคำบัญชาของคุณให้ใช้คำเพียงแค่ 2-3 คำ ถ้าหากเป็นได้ก็อย่าเปลี่ยนคำบัญชา มันเป็นการดีที่สุดถ้าหากจะมีผู้ฝึกสอนหมาเพียงผู้เดียว คนอื่นบางทีอาจใช้คำสั่งแตกต่างออกไป วิธีฝึกก็ต่างไปซึ่งอาจจะส่งผลให้หมางงงวยได้ หมาที่ได้ยินคำสั่งจำพวก "มานี่" "มาหาหน่อย" "เร็วๆ" หรือคำสั่งทำนองนี้แม้กระนั้นมีความต้องการเดียวกันคือให้มันมาหา ถ้าหากคุณใช้คำบัญชาเยอะแยะขนาดนี้มันจะงงงวยมากมาย ให้ใช้คำไหนคำนั้นดีที่สุด
 
บทเรียนที่ใช้ฝึกหัด
การฝึกเป็นงานหนักอีกทั้งหมาและครูฝึก สุนัขเล็กๆใช้เวลาฝึกในช่วงหนึ่งได้ไม่เกิน 10 นาที ก็จะไม่ต้องการฝึกหัดต่อด้วยเหตุผลดังกล่าวควรจะจำกัดอย่าให้บทเรียนบทแรกยาวเกินไปนัก แล้วจึงค่อยๆขยายเวลาไปเป็นระยะจวบจนกระทั่งถึง 30 นาที คุณเองก็บางทีอาจเจอได้ว่าคุณก็เริ่มหมดความทรหดอดทนเหมือนกันเมื่อใกล้ๆจะหมดเวลาฝึกฝน เมื่อคุณมีความรู้สึกว่าคุณอารมณ์ไม่ดีให้หยุดฝึก ใช้เวลาที่เหลืออยู่ทวนบทเรียนเก่าๆไปก่อน แล้วก็ก่อนหรือหลังบทเรียนควรมีช่วงพักเล่นด้วยจริงๆระหว่างเรียน แม้แต่สุนัขที่เด็กที่สุดก็จะเรียนรู้ได้เองว่าในเวลาที่จะต้องเรียนนั้นเป็นช่วงๆที่ต้องเคร่งจริงจัง ส่วนความสนุกจะตามมาหลังจากนี้
อย่าใช้เวลาสำหรับเพื่อการฝึกหัดทีแรกๆๆมากนัก มิฉะนั้นสุนัขก็จะเบื่อ พยายามจบบทเรียนในช่วงที่ดีๆถ้าหมามิได้ทำในสิ่งที่คุณต้องการนั้นเป็นเพราะว่าคุณไม่สามารถที่จะทำให้มันจำได้ดิบได้ดีพอเพียง
 
สิ่งที่ใช้ในการฝึกฝน
1. เชือกที่ใช้จูงหมา ใช้เรียกกันอย่างล้นหลามว่า "ตัวนำ" ฉะนั้นเราจะใช้คำนี้แทน ตัวนำ ที่เยี่ยมที่สุดสำหรับฝึกหัดนั้นเป็นผ้าทอหรือสาน ยาว 6 ฟุต จำนวนมากใช้สีครึ้มมอๆหรือจะใช้เป็นหนังขนาดเสมอกัน หรือจะใช้แบบเป็นสีสันก็มีใช้กันอยู่บ้าง แล้วแต่คุณจะเลือก
2. จำต้องใช้ปลอกที่มีไว้ใส่คอฝึกหมาพร้อมกันไปด้วย ปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่คอฝึกส่วนใหญ่ทำด้วยไนล่อนหรือ โซ่เหล็ก ซึ่งมีห่วงติดอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง แล้วใช้ตัวนำคล้องกับปลายห่วงทั้งคู่ ใช้ผ่อนหรือดึงบังคับสุนัข แม้ว่าจะฟังมองน่าตกใจ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้สุนัขของคุณต้องเจ็บอะไร และก็มันก็ต้องใช้สำหรับการฝึกหัดด้วย ควรจะฝึกวิธีการใช้ปลอกใส่คอให้ถูก ปลอกสำหรับใส่คอฝึกฝนควรจะใส่รอบคอหมา เพื่อคุณจะสามารถล่ามตัวนำกับห่วงตรงปลายปลอกใส่คอ อย่าใส่ห่วงใต้คอ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใส่ปลอกใส่คอฝึกให้ถูก มันจะได้แน่นเวลาคุณดังตัวนำ และง่ายเวลาคุณผ่อนหรือเปล่าได้รั้งตัวนำ
3. แนวทางสำหรับในการจับกุมนำก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากมาย เนื่องจากปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่คอควรหย่อนอยู่ตลอดระยะเวลา นอกเหนือจากเวลาดึง จับวงเชือกไว้ด้วยมือขวา ไขว้มือไปด้านข้าง ส่วนมือซ้ายจับกุมนำไว้ให้ใกล้ปลอกที่เอาไว้ใส่คอฝึกฝนสูงที่สุดเท่าที่จะทำเป็น ที่เหลือของตัวนำก็จะขมวดเป็นวงได้ (ที่คุณถือด้วยมือขวา) แนบแขนข้างนี้กับลำตัว การคลาย ดึง หรือคลาย ทั้งหมดทุกอย่างทำด้วยมือซ้าย ด้วยการกระตุก
 
การฝึกให้ตาม
"การตาม" เป็นคำศัพท์สำหรับหมาเป้าหมายความว่า ให้หมาเดินไปข้างๆของคุณชิดกับขาคุณ มีตัวนำด้วยไหมมีก็ได้ หากคุณอดทนแล้วก็พากเพียรเพียงพอ คุณสามารถฝึกหัดสุนัขให้เดินเคียงคู่คุณได้ในถนนหนทางอันคับแคบ หรือผ่านสุนัขตัวอื่นๆได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงในเวลานี้คุณก็ได้ศึกษาถึงกรรมวิธีการใส่ปลอกที่เอาไว้ใส่คอ การใช้ตัวนำแล้วคุณก็พร้อมที่จะเริ่มบทเรียนแรกสำหรับในการฝึกหัดการตาม ให้หมานั่งอยู่ด้านซ้าย เรียกชื่อ รวมทั้งใช้คำบัญชา "ตาม" เริ่มก้าวเท้าซ้ายของคุณ ดึงตัวนำน้อย เพื่อหมาได้เริ่ม ต้องเรียกชื่อมันก่อนเสมอ แล้วและก็ตามด้วยคำบัญชา เช่น "แดงตาม" การเอ่ยชื่อจะช่วยให้มันสนใจมากเพิ่มขึ้น ทำให้มันได้ทราบว่าคุณกำลังบัญชาให้มัน (แดง เป็นชื่อสมมุติของสุนัขในที่นี้)
ให้เดินอย่างกระฉับกระเฉงแต่ละก้าว เดินวนเป็นวงกลมใหญ่ หรือเดินไปเป็นสี่เหลี่ยม หรือเส้นตรงก็ได้ ในขณะที่เดินมั่นใจว่าสุนัขของคุณอยู่ข้างซ้ายแล้วก็ติดขาของคุณเสมอ ถ้ามันเดินล้าหลังคุณให้กระตุกตัวนำเบาๆให้มันเดินให้ทันคุณ รวมทั้งดูมันว่าก็ดีแล้วที่ทำแบบงี้ หากมันเดินนำหน้าคุณหรือออกห่างไป ให้ท่านหยุดพร้อมด้วยกระตุกตัวนำอย่างแรง ดึงมันกลับมาอยู่ตรงที่ที่ถูก ควรจะชมมันทุกครั้งที่มันเดินเหมาะสมถูกทาง เมื่อคุณกระตุกตัวนำเพื่อให้หมาคุณอยู่เหมาะสมก็ให้ผ่อนสายตัวนำไปด้วย อย่างลากหมาหรือดึงตัวนำเนื่องจากจะเกิดการดึงกันไปดังกันมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย
เพื่อให้หมามุ่งมั่นฝึกหัด จำต้องกล่าวกับมันตอนที่คุณให้มันกลับมาเหมาะสมคุณควรฝึกฝนการเดินหันหลังกลับด้วยการกระตุกตัวนำเบาๆตอนที่คุณหมุนด้วย มันจะศึกษาไปนิดละหน่อยว่ามันจำต้องตั้งอกตั้งใจ หรือจะถูกกระตุกให้กลับมาอยู่ข้างตัวคุณ รวมทั้งคุณสามารถแปลงขั้นตอนการไปได้เรื่อยๆโดยการเปลี่ยนความเร็วบ้าง หันหลังกลับ เดินตรง หรือเดินซิกข์แซกข้ามสนามที่ใช้ฝึกหัด ฯลฯ
"ตาม" คือ "นั่ง" ด้วย สำหรับหมาแล้วคำสั่งว่า "ตาม" จะหมายความว่ามันจะต้องนั่งอยู่ข้างซ้ายของคุณด้วย เมื่อคุณหยุดโดยไม่มีคำบัญชาอะไรเพิ่มขณะที่คุณฝึกให้ตาม ทำให้มันนั่งเมื่อคุณหยุด ครั้งแรกใช้คำบัญชาว่า "นั่ง" แต่ว่าต่อไปไม่ต้องบัญชาอีก มันจะคิดรู้และก็จะนั่งได้เองเมื่อคุณหยุด แล้วก็จะคอยคำสั่ง "ตาม" ใหม่ เพื่อจะลุกเดินอีกครั้ง
 
การฝึกฝนให้นั่ง
การฝึกหัดหมาให้นั่งออกจะง่าย โดยให้มันยืนอยู่ข้างซ้ายมือ ให้หยิ่งนำสั้นๆแล้วสั่งการว่า "นั่ง" ขณะสั่งการให้ดึงตัวนำขึ้นกับกดตอนหลังของสุนัขลง แต่ว่าอย่าให้มันลงไปหมอบหรือยืนขึ้น ถ้าหากมันลงหมอบให้กระตุกตัวนำขึ้นจนตราบเท่ามันลุกขึ้นแล้วนั่ง ถ้าหากมันปฏิบัติตามคำสั่งช้าๆให้ดังมันอย่างแรงตราบจนกระทั่งมันทำตามสิ่งที่มีความต้องการของเรา ให้มันอยู่ในท่านั่งสักชั่วครู่หนึ่ง และก็หลังจากนั้นจึงค่อยผ่อนความตึงของตัวนำพร้อมกับดูมันด้วย ทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นในช่วงเวลาที่คุณจูงมันในท่านั่ง ย้ำเพื่อมันจำคำสั่งได้ขึ้นใจ ถ้าหากมันเคลื่อนที่ละก้อให้ทวนคำสั่งอีกครั้งแล้วให้มันนั่งลง หลังจากนี้มันก็จะคิดรู้แล้วก็นั่งไปเองโดยไม่ต้องกดหลังมันอีก เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วหมายความว่ามันจะนั่งเองได้ ชมเชยมันเสมอๆให้รางวัลโดยความประพฤติปฏิบัติกับมันอย่างอ่อนโยน แล้วก็ยกย่องมันบ่อยๆด้วยคำพูดที่นุ่มนวล
 
การฝึกให้หมอบลงหรือหมอบ
วัตถุประสงค์ขั้นตอนนี้เป็น ทำให้สุนัขหมอบลงกับคำบัญชา "หมอบ" หรือเมื่อสั่งด้วยมือ ให้คุณยกมือมาด้านหน้าพลิกโบกฝ่ามือลง อย่างไรก็ตาม คุณจำต้องทำไปตราบจนกระทั่งสุนัขจะเข้าสาระสำคัญหมายของคำบัญชาแล้วก็จะทำเองได้โดยไม่มีปฏิกิริยาครึ่งบังคับจากคุณ สัญญาณมือควรทำควบคู่ไปกับการออกคำสั่ง คำสั่งนี้บางครั้งอาจจะยากไปหน่อยในตอนแรก เนื่องจากว่ามันรู้สึกเหมือนคุณยกมือเพื่อจะรังแกมันและมันปกป้องตัวเองไม่ได้ บางครั้งอาจจะวิ่งเตลิดไปก็ได้ ให้เอาอกเอาใจมันด้วยคำชมเชยหรือทำกับมันดีๆเมื่อมันปฏิบัติตามคำสั่งแล้วมันจะศึกษาไปเองว่าไม่มีอะไรที่ทรามเกิดขึ้น ในทางกลับกันมันจะรู้จักคำสั่งว่า "หมอบ" แล้วถ้ามันเอาอย่างนายจะพอใจ
อย่าเริ่มฝึกหัดสุนัขหมอบลงจวบจนกระทั่งมันเข้าใจคำสั่งนั่งได้อย่างดีเยี่ยมซะก่อน ให้สุนัขอยู่ในท่านั่งและก็คุณยอตัวอยู่ข้างหน้า ยกขาหน้าของมันด้วยมือแต่ละข้างของคุณ จับตรงเหนือศอก ชูขามันขึ้นแล้วดึงลงมาที่พื้นข้างหน้า ในเวลาเดียวกันก็ออกคำสั่งว่า "หมอบ" แล้วดึงขาหน้ามันลงมาติดพื้น
ดึงมันลงมาที่พื้นแล้วก็ทำให้มันทราบว่าท่านี้เป็นท่าที่ต้องการให้มันทำ แนวทางลักษณะนี้ดียิ่งกว่าจะไปบังคับให้มันทำ มิฉะนั้นจะมีผลให้มันรู้สึกตกอกตกใจและก็เริ่มจะเกลียดการฝึกใดๆก็ตามเลย หมั่นคุยกันมัน บอกมันให้ทราบว่าคุณพอใจ พึงพอใจ เวลาที่มันปฏิบัติตามคำสั่ง แล้วคุณจะพบว่าคุณเป็นสุขกับการฝึกฝนสุนัข
ภายหลังที่มันเริ่มเรียนรู้ เลื่อนตัวนำไปอยู่ใต้เท้าซ้ายและบัญชา "หมอบ" ในเวลาเดียวกันดึงตัวนำด้วยจะช่วยทำให้สุนัขหมอบลง ตอนนี้ยกมือคุณแล้วโบกลงให้สัญญาณมืออีกที อย่าหวังว่ามันจะสามารถทำได้ด้วยคำสั่งเพียงครั้งเดียว จงอดทนฝึกหัดกับมันไปเรื่อยๆมันก็จะร่วมมือด้วย ถ้าคุณแสดงให้มันเห็นว่าอะไรบ้างที่คุณอยากให้มันทำ
การฝึกหัดให้อยู่นิ่งๆ
ขั้นต่อไปเป็นการฝึกหมาให้อยู่นิ่งๆในท่านั่งหรือหมอบ ราวครั้งกระโน้นโดยใช้ตัวนำสอนคำสั่งนี้ ตราบจนกระทั่งหมาของคุณตอบรับคำบัญชาด้วยการเลียนแบบคำสั่ง แล้วจึงเอาตัวนำออก การฝึกฝนเริ่มด้วยการนั่งนิ่งๆจัดให้หมาอยู่ในท่านั่งข้างคุณในท่านั่งแนบขาอัตโนมัติ ถือเชือกในมือข้างหนึ่ง (จำนวนมากคนฝึกถูกใจถือมือซ้าย) ก้าวไปข้างหน้าแล้วหันหน้ามาหามัน ยื่นมือออกไป นิ้วชี้ไปที่ตอนจมูกของมันแล้วสั่งว่า "อยู่นิ่ง" ถ้าเกิดมันทำท่าจะเดินตามคุณเพราะเหตุว่าเป็นธรรมชาติของมันที่จะทำ เนื่องจากมันอยู่ในท่าที่จะตาม ให้กระตุกตัวนำ เพื่อให้มันกลับมานั่งก่อน ยกมือมาไว้ข้างหน้ามันแล้วทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นอีกรั้ง ให้มันอยู่ในท่านั่งนั้นสัก 2-3 วินาที ก่อนจะให้ลงมือดำเนินการอย่างอื่น แต่ละครั้งที่มันทำสำเร็จคุณจำต้องกล่าวชมมันเรื่อยแสดงให้มันเห็นว่าคุณพึงพอใจกับมันด้วย
ทวนแนวทางนี้อีกทีกระทั่งสุนัขของคุณทำเหมือนกับว่ามันรู้เรื่องว่าคุณจะให้มันทำอะไร เมื่อมันได้ทำควา



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ