Advertisement
ในปี 2018 แม้ว่า Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดถูกใจคนติดใจของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมกับเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องถ่ายภาพรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสม ราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท
หลายคนคงมีคำถามว่า แล้วรุ่นที่ออกมาครั้งก่อนในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (
หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังควรจ่ายเงินหามาใช้งาน อยู่หรือเปล่าในตอนนี้ ผมจึงจะมาวิเคราะห์สเปคและจุดดีให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตกลงใจ
P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทออกแบบระดับโลกสร้างสีเฉพาะอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้อารมณ์เป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ด้านสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่ดูนุ่มลึกอย่างกับสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกทั้งหมด คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
- กล้องข้างหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0
หากว่ากล่าวถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องกล้องถ่ายภาพ ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องข้างหลังคู่พร้อมเลนส์ที่ได้รับการรับรองจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และอีกทั้งได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus เช่นกัน พร้อมทั้งระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การถ่ายรูปนั้นนิ่ง เพิ่มเติมประสิทธิภาพในการซูม โฟกัสได้ไวเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ยังมีโหมดการชักรูปใหม่เสริมเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติเพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีตรวจค้นหน้าแบบ 3 มิติ
Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ประเภทเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมกับเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของชักรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมไปถึงการถ่ายรูปตอนกลางคืนก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2
P10 และ P10 Plus นั้นเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องด้านหน้ากับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องด้านหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การถ่ายรูปในที่เวลาค่ำได้ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะสามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro โดยทาง Huawei ก็เน้นหนักในเรื่องของการใช้งานว่าความรวดเร็วจักมิลดน้อยครั้นเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยคุณลักษณะไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ ซึ่งเป็นการนำรูปถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในสมุดภาพมาโชว์เป็นวิดีโอ
โทรศัพท์มือถือตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE
Huawei เป็นยี่ห้อผู้ประกอบการอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่อย่างเคยนะครับผม
แบตเตอรี่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และชาร์จไวขึ้น
P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นครั้นเมื่อเปรียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,200 mAh ส่วน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh
ราคาที่แสนจะถูกในปัจจุบัน
ในหนแรกที่เปิดตัว Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) ราคา 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) สนนราคา 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) สนนราคา 23,900 บาท
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro โหมโรงมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นถูกลงมาก บางหนหากซื้อพร้อมกับโปรโมชั่นราคาก็ลดลงกว่าครึ่งเลยทีเดียว
นี่คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในช่วงนี้ หวังว่าจะเป็นผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย
Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา