Advertisement
หากท่านเป็นคนที่ตกหลุมรักในเสียงเพลง หรือว่าเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจะต้องรู้จักมักจี่แบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะว่าเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชอบเป็นการใหญ่ อย่างเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง โดยเรื่องราวความเป็นมาของยี่ห้อนี้ จัดเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของตำนานสังคมเพลงRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งความเป็นมาของ Marshall นั้น จักมีภูมิหลังเช่นใดบ้าง อีกทั้งเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือเก๋ามาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อมาก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาจัดการกิจการร้านรวงขายเครื่องดนตรี และอุปกรณ์ต่างๆ โดยริเริ่มจากการทำการค้ากลองชุดกับกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell โดยผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีดนตรีร็อกแอนด์โรล ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
ตอนหลังก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายท่านต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งเสียงดังกว่าเดิม เพราะปมปัญหาที่พบโดยมากมักจะเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการเล่นโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาวางขาย และดันประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง กลายเป็นการบอกปากต่อปาก กระทั่งวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดทำออกมาวางขายอย่างจริงจัง พร้อมด้วยได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดตั้งต้นของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ รวมไปถึงยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงดีที่สุดตามที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความน่าเชื่อถือจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์เช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall ฉบับสรุป ถึงกระนั้นครั้นเมื่อยุคสมัยได้ล่วงเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่เชี่ยวชาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งถูกต้องตามความปรารถนา หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นผลิตภัณฑ์พวกหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือว่าบุคคลทั่วไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในสไตล์ของ
Marshall รวมไปถึงสินค้าชนิดลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายก่ายกองเช่นเดียวกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิค สละสลวย โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าดึงดูด พร้อมกับจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิกอยู่ข้างในตัว ออกแบบสวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดพอดีสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวก มีการเชื่อมอย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 ถึงกระนั้นสามารถใช้ร่วมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่นอน โดยหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจักอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่ชัดครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งหมด 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถนะในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้พร้อมด้วย ให้เสียงเสมอเหมือนคุณกำลังฟังเสียงเพลงจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท ถ้าหากเปรียบกับน้ำเสียงที่ได้ นับว่าคุ้มมากๆ
นั่นคือทั้งหมดที่ทางดีฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตจนยุคปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคสมัยจะผ่านไปนานเท่าใด แต่ Marshall ก็ยังคงความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน
Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall
พฤศจิกายน 09, 2018, 01:49:14 pm