อีแร้ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อีแร้ง  (อ่าน 13 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
xcepter2016
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20112


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 08, 2019, 05:05:17 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
อีแร้ง
อีแร้งเป็นนกที่จัดอยู่ในสกุล Gyps
มีชื่อสามัญว่า vulture ที่เจอได้ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด ทุกหมวดหมู่จัดอยู่ในตระกูล Accipitridae อีแร้งไทยอีก ๓ ประเภทนั้น ตอนนี้หายากและมีจำนวนน้อย ลางประเภทบางทีอาจสูญพันธ์ไปแล้ว
๑. อีแร้งเทาหลังขาว
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps bengalensis (Gmelin)
มีชื่อสามัญว่า white – rumped vulture
เป็นนกทุ่งนาดใหญ่ ความยาวของสัตว์วัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๙๐ เซนติเมตร ลำตัวสีดำแกมน้ำตาล หัวแล้วก็คอไม่มีขนปกคลุม เป็นเพียงแผ่นหนังสีคล้ำ ตอนล่างของคอมีขนเป็นวงรอบหลัง สีขาว ตอนล่างและก็โคนหางสีขาวเด่นชัด ด้านในต้นขามีแต้มสีขาว เห็นได้ชัดขณะเกาะยืน เมื่ออายุน้อยลำตัวมีสีน้ำตาลออกแดงหรือน้ำตาลเข้ม ไม่มีแถบขาวเลย รับประทานซากสัตว์เป็นของกิน ทำรังบนยอดไม้สูง ในพ.ย.และเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ ออกไข่ครั้งละ ๑ ฟอง ทั้งยัง ๒ เพศช่วยกันสร้างรังและก็กกไข่ จำพวกนี้มีเขตผู้กระทำระจายจำพวกกว้าง ตั้งแต่ประเทศอินเดีย ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และทั่วภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ ในประเทศไทยเคยพบชุกชุมบริเวณที่ราบ แต่ว่าปัจจุบันนี้หาดูได้ยากมาก เข้าใจว่าเกือบจะสิ้นพันธุ์ไปแล้ว
[/b]
๒.อีแร้งปากเรียว
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps indicus (Scopoli)
มีชื่อสามัญว่า long – billed vulture
อีแร้งสีน้ำตาลอินเดีย ก็เรียก เป็นอีแร้งขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวราว ๙๐ เซนติเมตร ตัวสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่ขนทุกเส้นมีขอบสีจางกว่าสีพื้น หัวและคอมีขนอุยสีน้ำตาลออกขาวปกคลุม ท้องสีน้ำตาลอ่อน มีจะงอยปากที่เรียวกว่าแร้งประเภทอื่นๆตัวที่อายังน้อยมีสีแก่กว่าตัวโตเต็มวัย รวมทั้งพบได้บ่อยที่ขนอุยเหลืออยู่บนขนหัว เหมือนเคยอยู่เป็นฝูงเล็กๆ ร่วมกัอีแร้ง[/url]ชนิดอื่นๆและก็ร่วมลงกินซากสัตว์ร่วมกัน พบได้บ่อยจิกและแย่งซากสัตว์กันตลอดระยะเวลา วิธีการทำรังรวมทั้งวางไข่คล้ายกับนกแร้งประเภทอื่นๆสร้างรังตอนเดือนพฤศจิกาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ถูกใจอยู่ตามที่เตียนโล่ง ชานเมือง ทำมาหากินตามลำห้วยใหญ่ๆ ในป่าเต็งรังแล้วก็ป่าเบญจพรรณ มีเขตผู้กระทำระจายประเภทจากอินเดียถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยเคยพบได้มาก แต่ว่าปัจจุบันนี้เชื่อว่าสิ้นซากไปจากบ้านเราแล้ว
๓.อีแร้งเทาหิมาลัย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps himalaiensis Hume
มีชื่อสามัญว่า Himalayan griffon vulture
อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย ก็เรียก เป็นอีแร้งขนาดใหญ่มากมาย ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๑๒๒ เซนติเมตร มีลักษณะเหมือนอีแร้งปากเรียว แต่ว่าตัวใหญ่มากยิ่งกว่ามาก เพศผู้แล้วก็ตัวเมียมีสีเช่นเดียวกัน ลำตัวข้างบนมีสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลปนขาว ข้างล่างสีเนื้อแกมสีน้ำตาลอ่อน มีลายขีดขนาดใหญ่สีขาว ขนรอบคอยาว สีน้ำตาล มีลายขีดสีขาว พบได้มากอยู่โดดๆหรืออยู่เป็นคู่ หรือ ๒-๓ ตัว ตามทุ่งโล่งหรือป่าบนเทือกเขา มักร่อนเป็นวงกลมตามช่องเขาหรอเทือกเขาเพื่อหาอาหาร เป็นนกที่หลงเข้ามา หรือย้ายถิ่นมาในประเทศไทยตอนนอกฤดูสืบพันธุ์ หายากและก็ปริมาณน้อย เคยมีแถลงการณ์ว่าพบในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคิรีหมู่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ