ไก่ป่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไก่ป่า  (อ่าน 2 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Petchchacha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25869


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มีนาคม 14, 2019, 07:43:49 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
ไก่ป่า
ไก่ป่าฯลฯตระกูลของไก่บ้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus (Linnaeus)
อยู่ในตระกูล Phasianidae
มีชื่อสามัญว่า red jungle fowl
มีถิ่นกำเนิด แถบเอเชียใต้ (ศรีลังกาและอินเดีย) มาทางทิศตะวันออก จนถึงหมู่เกาะมลายู
ไก่ป่าที่พบในประเทศไทยมีเพียงแต่ชนิดเดียวเป็น Gallus gallus (Linnaeus) จำพวกนี้มีหน้าสีแดง ไม่มีขน หงอนสีแดง มีเหนียงสีแดงและก็ติ่งหูอย่างละคู่ ขนบริเวณคอ ข้างหลัง ถึงบั้นท้ายมีสีส้ม ขนปีกสีเขียวเป็นเงาขลิบสีส้มใต้ท้องสีน้ำเงินดำ หางโค้งลาด ปลายพริ้ว สีเขียวแซมดำแล้วก็สีน้ำเงินเข้มเป็นเงา ความยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๖๐ เซนติเมตร เพศผู้หนัก ๘๐๐ – ๑๓๐๐ กรัม ไก่ป่าเพศผู้มีลักษณะสำคัญที่ไม่เหมือนกับนกอื่นๆคือ
๑.มีหงอนบนหัวที่เป็นเนื้อ ไม่ใช่หงอนที่กระเป๋านขน
๒.มีเหนียงเป็นเนื้อห้อยลงมาทั้งสองข้างของโคนปากรวมทั้งคาง
๓.มีหน้าและก็คอเป็นหนังหมดจดๆ ไม่มีขน
๔.โดยทั่วไปขนเรียกตัวมีสีสวยงาม มีขนหาง ๑๔ – ๑๖ เส้นตั้งเรียงกันเป็นสันสูงกึ่งกลาง คู่กึ่งกลางยาวกว่าคู่ อื่น ปลายแหลมและอ่อนโค้ง เรียก หางกะลวย
๕.หน้าแข้งมีเดือยข้างละอันเป็นอาวุธ
ไก่ป่าตัวเมียมักมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ ขนไม่สวยสดงดงาม สีไม่ฉูดฉาด แข้งไม่มีเดือย หงอนรวมทั้งเหนียงเล็กมาก หรือบางตัวเกือบไม่มีเลย ไก่ป่าอาศัยในพุ่มไม้เล็กๆในป่าทั่วๆไป บินได้เร็ว แม้กระนั้นในระดับค่อนข้างต่ำๆแล้วก็ระยะทางสั้นๆเป็นประจำอยู่เป็นฝูงใหญ่ตลอดตัวผู้และตัวเมียรวมกันราว ๕๐ ตัว แม้กระนั้นจะแยกเป็นฝูงเล็กๆในช่วงฤดูสืบพันธุ์ ซึ่งเพศผู้จำต้องต่อสู้กันเพื่อครองพื้นที่รวมทั้งแย่งชิงตัวเมียกันตัวละ ๓ – ๕ ตัว หลังผสมพันธุ์แล้วตัวเมียจะทำรังเป็นหลุมตื้นๆบนพื้นดินหรือบนกองใบไม้แห้งๆในที่ปลอดภัย แล้ววางไข่คราวละ ๕ – ๖ ฟอง ไข่สีขาวหรือน้ำตาล ใช้เวลาฟักโดยประมาณ ๒๑ วัน ลูกเจี๊ยบป่าอายุ ๘ วันก็เริ่มบินเกาะตามก้านไม้ได้ และก็เมื่ออายุโดยประมาณ ๑๐ วัน ก็เริ่มบินได้ในระยะทางสั้นๆ
 ไก่ป่าที่พบในประเทศไทยมี ๒ ชนิดย่อย เป็น
๑. ไก่ป่าติ่งหูขาว หรือ ไก่ป่าอีสาน (Cochin Chinese red jungle foml) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus gallus (Linnaeus) มีติ่งหูสีขาว พบบ่อยทางภาคตะวันออกแล้วก็ภาคอีสาน
๒. ไก่ป่าติ่งหูแดง หรือ ไก่ป่าชนิดประเทศพม่า (Burmese red jungle fowl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus spadiceus (Bonnaterre) มีติ่งหูสีแดง มักพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก รวมทั้งภาคใต้ 
[/b]
คุณประโยชน์ทางยา
โบราณไทยใช้ตับไก่เป็นทั้งของกินแล้วก็เป็นยา ตำราเรียนสรรพคุณยาโบราณบันทึกไว้ว่า ตับไก่ใช้แก้โรคตาฝ้าตาพร่า ตอนนี้พึ่งรู้ว่าโรคนี้มีสาเหตุจากการขาดวิตามินเอ ซึ่งพบมากในตับไก่ แพทย์แผนไทยรู้จักใช้เปลือกไก่ฟัก ไข่แดง ตับไก่ แล้วก็เล็บไก่ป่า เป็นเครื่องยามานานแล้ว แบบเรียนโบราณว่า ไข่แดงมีรสมัน คาว มีสรรพคุณชูกำลังสร้างความก้าวหน้าให้แก่ร่างกาย ตับไก่มีรสมัน คาว มีสรรพคุณบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง แก้โรคตาฝ้าตาพร่า รวมทั้งเล็บไก่ป่าใช้แก้พิษไข้ ไข้รอยแดง ไข้หัวทุกประเภท นอกนั้นไข่ขาวยังใช้เป็นตัวยาแต่งทางเภสัชกรรมสำหรับทำยาขี้ผึ้ง ดังที่ปรากฏในยาขนานที่ ๗๙ ใน ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ดังนี้
ขนานหนึ่ง ให้เอา พิมเสน ๒ สลึง การบูร ๓ สลึง มาตะกี่ ๕ สลึง ชันตะเคียน กำยาน สิ่งละ ๗ สลึง สีผึ้งขาว ๑๐ ตำลึง น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวอันใหม่ดีนั้นครึ่งทนาน ต้มขึ้นด้วยกันให้สุกดี แล้วกรองกากออกเสีย เอาไว้ให้เย็น จึงเอาไข่ไก่ เอาแต่ไข่ขาว ๒ ลูก เอาสุรากลั่นประมาณจอกหนึ่ง กวนกับไข่ให้สบกันดี แล้วจึงแบ่งออกให้เป็น ๓ ภาคๆหนึ่งนั้น เอาน้ำทะแลงไซ้ ๓ สลึง การบูร ๓ สลึง กวนเข้าด้วยกันให้สบก็ดีแล้ว เป็นสีปากแดง จึงเอาสีปากขาวภาค ๑ นั้น มากวนด้วยจุที่สีพอควร เป็นสีผึ้งเขียว ภาคหนึ่งเป็นขี้ผึ้งขาว ปิดแก้เพ่งพิศม์ แสบร้อนให้เย็น



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ