เชื้อราในช่องคลอด เรื่องไม่ลับที่ผู้หญิงต้องรู้

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เชื้อราในช่องคลอด เรื่องไม่ลับที่ผู้หญิงต้องรู้  (อ่าน 59 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
guupost
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1051


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2019, 05:51:23 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



สาวๆ เคยไหม... รู้สึกคันตรงจุดซ่อนเร้นจนแทบจะทนไม่ไหว โดยเฉพาะบริเวณปากช่องคลอด แถมบางทียังตามมาด้วยตกขาวกลิ่นแปลกๆ อีกด้วย ทำให้ผู้หญิงอย่างเราหมดความเชื่อมั่น หากมีอาการเช่นนี้ให้สงสัยไว้เลยว่าอาจเกิดจากการติเชื้อราในช่องคลอด[/url]

จริง ๆ แล้วอาการคันบริเวณช่องคลอดอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือโปรโตซัวได้เช่นกัน แต่พบไม่บ่อยเท่าการติดเชื้อราที่มีชื่อว่า แคนดิดา อัลบิแคนส์(Candida albican) ซึ่งโรคเชื้อราในช่องคลอดที่สามารถพบได้ในผู้หญิงทุกเพศทุกวัย ซึ่งแม้จะไม่ใช่โรคที่มีอันตรายรุนแรง แต่ก็ทำให้ผู้ที่เป็นนั้นรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว แถมยังรบกวนการทำกิจวัตรประจำวันของคุณ ๆ ได้ไม่น้อย

โรคเชื้อราในช่องคลอดสังเกตอาการได้ดังนี้
- รู้สึกคันบริเวณปากช่องคลอดอย่างมาก
- ในบางครั้งอาจมีผื่นบวมแดงบริเวณอวัยวะเพศ และมีอาการแสบร้อนระคายเคืองร่วมด้วย
- รู้สึกแสบเวลาปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
- มีตกขาวสีขาวขุ่น จับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก มีกลิ่นเปรี้ยวเหมือนนมบูด

สาเหตุของเชื้อราในช่องคลอด

โดยปกติบริเวณช่องคลอดจะมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราประจำถิ่นอาศัยอยู่ ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะไม่ก่อโรค แต่หากมีสภาวะกรดเบสในช่องคลอดไม่สมดุลจนทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและมีอาการดังข้างต้นขึ้นได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เชื้อราในช่องคลอดที่ก่อโรคเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่าปกติ เช่น

- บริเวณอวัยวะเพศไม่สะอาดและอับชื้น เนื่องจากดูแลไม่ดีพอ อย่างเช่น หลังอาบน้ำแล้วไม่เช็ดให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า สวมกางเกงในที่อับชื้น ระบายอากาศไม่ดี หรือใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานๆ โดยไม่ยอมเปลี่ยนผ้าอนามัย
- สวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำสบู่อย่างรุนแรง ทำให้ช่องคลอดเสียสมดุล และเชื้อประจำถิ่นถูกกำจัดไป เชื้อโรคอื่นๆ ฉวยโอกาสมารุกรานได้ง่าย
- ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดถูกทำลายไปด้วย เชื้อราก่อโรคอื่นๆ จึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง อย่างเช่น อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคที่ส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากอวัยวะเพศของผู้ชายไม่สะอาด

การรักษาเชื้อราในช่องคลอด
หากมีอาการรุนแรง แล้วไปพบหมอ แพทย์มักรักษาเชื้อราในช่องคลอดด้วยการใช้ยา โดยจะเป็นกลุ่มยาต้านเชื้อราที่มีทั้งรูปแบบยากิน ยาทา และยาเหน็บ อย่างเช่น ยากินกลุ่ม Clotrimazole และ Tioconazole และยาสอดช่องคลอดกลุ่ม Imidazole

บางคนสงสัยว่า เราสามารถรักษาเชื้อราในช่องคลอดเองได้ไหม? คำตอบคือ ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เนื่องจากอาการคันช่องคลอด มีตกขาวผิดปกติ สามารถเกิดได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียก็ได้ ด้วยเหตุนั้น ทางที่ดี ควรไปพบคุณหมอ หรือเภสัชกร เล่าอาการของท่านให้ฟัง เพื่อรับยาหรือรักษาอย่างถูกต้อง ตรงตามโรคมากที่สุด

นอกจากการรักษาเชื้อราในช่องคลอดด้วยยาแล้ว สาวๆ จะต้องดูแลรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นไม่ให้อับชื้น แก้ไขปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หากมีอาการคันก็ไม่ควรเกาแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดแผลได้ และงดการสวนล้างช่องคลอด ให้เปลี่ยนมาใช้สบู่อ่อนหรือน้ำเปล่าและล้างทำความสะอาดเฉพาะภายนอกแค่นั้นก็เพียงพอ และควรหยุดการมีเพศสัมพันธ์ก่อน และหากสงสัยว่าหนุ่มคู่นอนจะติดเชื้อด้วยหรือ ก็ควรให้มารักษาพร้อมกันเลย

ดูต่อได้ที่ https://www.honestdocs.co/vaginal-candidiasis-women-hygiene



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ