Advertisement
“อยากรู้จักหญิงให้เริ่มมองที่หน้า แต่หากอยากได้ภรรยาต้องดูจากผ้าซิ่น”คำกล่าวนี้คงนิยาม
ความหมายผ้าซิ่นให้ทุกท่านได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งในสมัยเก่าผ้าซิ่นสำหรับชาวลาว หรือชาวไทยทางล้านนาและ
อีสานถือว่าผ้าซิ่นเป็นเครื่องนุ่งห่มหลักของผู้หญิงที่บ่งบอกถึงตัวบุคคลได้อย่างดี ทุกท่านคงสงสัยกันไม่น้อย
แล้วว่า “ผ้าซิ่นนั้นสำคัญไฉน” ด้านล่างนี้มีคำตอบ
ด้วยสมัยโบราณผู้หญิงจะเย็บผ้าซิ่นไว้เป็นถุงใช้สำหรับนุ่งเปรียบคล้ายกับกระโปรง สำหรับการแต่งกาย
ที่จะต้องแตกต่างกันไปเพื่อให้เข้ากับสภาพการณ์และกาลเทศะนั้นสำหรับผู้หญิงก็จะนุ่งผ้านุ่งที่มีลวดลายและเนื้อผ้า
แตกต่างกันไป โดยหลักแล้วจะมีสองแบบคือ สวมอยู่บ้านปกติก็อาจจะนุ่งผ้าซิ่นที่เป็นผ้าฝ้ายธรรมดาไม่มี
ลวดลาย และอีกแบบคือ นุ่งสำหรับออกงานสังคมผ้าซิ่นก็จะมีงดงามมากขึ้น ไม่ว่าด้านความประณีตใน
การทอ การตกแต่งลวดลาย เพิ่มสีสัน รวมถึงคุณภาพของเนื้อผ้าที่มีมูลค่ายิ่งขึ้น
ทั้งนั้นงานทอผ้าในอดีตสมัยนั้นถือเป็นหน้าที่ของลูกผู้หญิง โดยทุกๆบ้านจะมีการปลูกฝังและเตรียมพร้อมลูกสาวให้
รู้จักทอผ้าให้ชำนาญและมีการทอไว้สำหรับโอกาสพิเศษของตนเอง สำหรับบางผืนอาจจะใช้เวลานานหลายปีขึ้นอยู่กับ
ความประดิดประดอยของลวดลายการทอ เมื่อถึงวันออกงานสาวๆบ้านไหนที่นุ่งผ้าซิ่นที่สวยงามสวยงามนั้น เมื่อผู้อื่นได้พบเห็นก็จะที่ถูก
กล่าวถึงเป็นที่ภูมิใจ
ในด้านฝีมือการทอผ้า ทั้งนั้นตัวผ้าซิ่นจะบ่งบอกความเป็นกุลสตรี ในด้านความประณีตด้านงาน
ฝีมือ ความสุขุมและสมาธิ และอีกทั้งยังบ่งบอกถึงชั้นทางสังคมอีกด้วย อาจกล่าวง่ายๆได้ว่า “สำเนียงต่อภาษา ส่วน
เนื้อผ้าส่อสกุล” ได้เลยทีเดียว
สำหรับองค์ประกอบของผ้าซิ่นนั้นสามารถจัดแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1.หัวซิ่น จะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของผ้า
ซิ่น โดยที่ในขณะที่นุ่งใส่จะอยู่บริเวณช่วงเอวและอยู่ใต้ชายเสื้อทำให้ไม่สามารถเห็นเห็นได้จากภายนอก อีกทั้ง
ส่วนมากนั้นไม่มีการประดับประดาลวดลายในส่วนนี้ 2.ตัวซิ่น เป็นส่วนที่กว้างมากที่สุดของผ้าซิ่นและเป็นส่วนหลักๆที่สามารถ
เห็นเห็นได้ในขณะสวมใส่ตั้งแต่ใต้เอวจนถึงบริเวณหน้าแข้งทีเดียว ส่วนมากมักมีการทอให้มีสีสันและลวดลายบ้าง
เล็กน้อยแต่จะเป็นแบบเดียวกันตลอดทั้งตัวผ้าซิ่น เพื่อความเป็นเนื้อเดียวกันและไม่ให้เป็นจุดเด่น 3.ตีนซิ่น ส่วนนี้นั้นจะอยู่ด้าน
ล่างสุดตามชื่อเรียก ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีลวดลายที่สะดุดตาเป็นพิเศษทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของท้องถิ่น
ผ้าซิ่นแต่ละประเภทนั้นจะถูกเรียกชื่อตามขนมธรรมเนียมท้องถิ่นและแหล่งต้นกำเนิดของผ้าซิ่น โดยประเภทของผ้าซิ่นก็
จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวไปในข้างต้น ที่จะต่างกันไปในแต่ละท้องที่
เช่น ความกว้างแคบของตีนผ้าซิ่น ภาคเหนือมักมีความกว้างของตีนซิ่นที่มากกว่าฝั่งอีสานที่มักนิยมตีนซิ่นที่แคบ หรือ
กระทั่งความแตกต่างกันในเรื่องของลวดลายก็จะเป็นตัวแบ่งชนิดของผ้าซิ่น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะใดๆ การเลือกผ้าซิ่น
ต้องคำนึงรูปร่างและรูปร่างของผู้สวมใส่โดยต้องมีความกว้างที่พอดีกับความสูง และมีความยาวหรือเส้นรอบวงที่พอดีกับ
ช่วงลำตัวเพื่อความงามและเหมาะสม หวังว่าจะทุกท่านจะได้ความรู้เกี่ยวกั
ผ้าซิ่น[/url]กันพอสังเขปนะครับ
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง :
[url]http://www.prou-d.com/15127400/ผ้าซิ่น-sinh-fabric-textiles-silk[/url]
Tags : sinh fabric,ผ้าซิน
