ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อ  (อ่าน 6 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Boyzite1011
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15338


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มิถุนายน 11, 2019, 01:48:44 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ ถุงน่อง Spandex คุณภาพดี ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง

1 สั่งซื้อทาง line แอดไลน์ : @dtn2941a (มี @ ด้วยค่ะ)

==> ส่งรูปชุดที่ต้องการหรือรหัสสินค้า


 
 
การซัก ตาก รีด รวมทั้งรักษาเสื้อผ้าจำพวกต่างๆมีวิธีการ

๑. การซักเสื้อผ้าไหม ส่วนใหญ่นิยมส่งร้านรับซักผ้า เพราะมีกรรมวิธีซักที่ยุ่งยาก แล้วก็จำต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ แต่ถ้าเกิดจะซักเองควรจะซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า ด้วยเหตุว่าแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะมีผลให้เส้นใยทรุดโทรม โดยการซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) ใส่นํ้าลงในกะละมังพอเพียงท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งไกวนํ้าจนถึงนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ลงในนํ้าสักครู่ ใช้มือกดผ้าให้แฉะและจมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่เปรอะเปื้อน ดังเช่น ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ และก็ส่วนอื่นๆขยี้กระทั่งคราบเหงื่อไคล ฝุ่นผง แล้วก็สิ่งสกปรกออกจนหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดและผ้าไหมบางชนิดห้ามซักด้วยสารซักฟอก เนื่องจากจะทำลายความมันของเส้นไหม จำนวนการใช้นํ้ายาซักแห้งให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้าและก็นํ้ายาซักแห้งออกจนกระทั่งหมด
๔) นำผ้าที่ยกขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง แล้วหลังจากนั้นแช่ในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้ชั่วประเดี๋ยว จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๒. การตากผ้าไหม ทำเป็นดังนี้
๑) ชูผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าเพราะจะก่อให้ผ้าเป็นรอยยับ เสียรูปทรง
๒) สลัดผ้าเบาๆคลายออกใส่ไม้แขวน
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้ห้อย ไปแขวนกับราวแขวนผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งพอเพียงหมาดๆมาประพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บเอาไว้ในช่องสำหรับแช่แข็งของตู้เย็น นานราวๆ ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อให้นํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจัดกระจายขาดทุนผ้าจนทั่วดี ไม่ควรนำไปรีดข้างหลังประพรมนํ้าทันทีจะมีผลให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บเอาไว้ภายในตู้แช่เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย ถ้าหากไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะก่อให้ผ้าไหมสีไม่สดชื่น เป็นรอยเหลืองรวมทั้งเก่าเร็ว ยิ่งกว่านั้นถ้าหากไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรรีดผ้าไหมระหว่างที่ผ้าแห้ง เนื่องจากจะทำให้ผ้ากระด้างเป็นมันลื่น
๔. การรักษาผ้าไหม ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ภายหลังจากรีดผ้าไหมเรียบร้อยแล้ว ควรห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปแขวน เก็บไว้ในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๒) ถ้าเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว และก็ยังไม่สกปรก ควรห้อยกับไม้แขวนรวมทั้งนำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทดีหากเสื้อผ้าไหมสกปรกบางส่วน ควรชำระล้างเฉพาะจุดนั้นในทันที ใส่ไม้แขวนนำไปผึ่งจนแห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ

เสื้อผ้าฝ้าย

๑. แนวทางซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แม้กระนั้นแนวทางซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า นอกจากนั้นวิธีซักผ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายยก ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งจนถึงเกิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆเอาขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่เอาขึ้นบีบนํ้าออก ถ้าหากเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอกขาว แต่ควรเป็นนํ้ายาฟอกประเภทอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งและก็สะบัดให้แผ่ออก ใส่ไม้แขวนตากแดดจัดได้แม้กระนั้นไม่ควรนานเกินไป ด้วยเหตุว่าจะทำให้เส้นใยเสื่อมสภาพและก็ผ้าสีจางหากเป็นผ้าสีนําไปห้อยในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำผ้าที่ตากไว้พอหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ แล้วก็รีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าจึงจะเรียบ
๔. การเก็บรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับชื้น การดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังจากซักแล้ว ควรใส่ไม้ห้อยห้อยเอาไว้ภายในตู้เก็บเสื้อผ้า ซึ่งวางไว้ภายในที่ที่มีอากาศระบายดี แห้งแล้วก็เย็นไม่สมควรห้อยเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าให้แน่นมากนัก ควรแขวนหละหลวมๆอีกทั้งก่อนเก็บไว้ภายในตู้ควรให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน

เสื้อผ้าลินิน


๑. วิธีซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ เพราะเหตุว่าไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย แล้วก็วิธีสำหรับซักผ้าลินินสีขาว ควรจะซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น แล้วก็ใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยจัดการกับรอยคราบเลอะเทอะ
วิธีซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าสักครู่ยกขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ลงในนํ้าสารซักฟอกที่ตระเตรียมไว้แช่ไว้สักครู่เพื่อสารซักฟอกจัดการสิ่งสกปรก จากนั้นใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่สมควรบิดผ้าแรงๆด้วยเหตุว่าจะมีผลให้กำเนิดรอยยับ นอกเหนือจากนี้ยังใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งกระทั่งหมดสารซักฟอก นำไปแช่ลงในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่เอาขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำได้โดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน ผึ่งแดดจัด แม้กระนั้นไม่นานเหลือเกิน แล้วตากลมไว้เพียงพอหมาดจึงนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือผึ่งลมพอหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง แล้วก็ให้รีดด้านใน เพื่อภายนอกเป็นเงา
๔. การเก็บรักษาเสื้อผ้าลินิน ภายหลังรีดเสร็จแล้วให้แขวนกับไม้แขวน แล้วนำไปเก็บเอาไว้ในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า

เสื้อผ้าขนสัตว์


เสื้อผ้าขนสัตว์ ดูแลยาก เพราะว่าเมื่อถูกความร้อนและชื้น ผู้ที่ทำขึ้นมาจากขนสัตว์จะเชื่อมชิดกันเป็นแผ่น และก็หดตัวทุกครั้งเมื่อแฉะ จำเป็นจะต้องส่งร้านซักอบรีดที่มีความเชี่ยวชาญสำหรับในการซักรีดจะดียิ่งกว่า
สำหรับวิธีการดูแลและรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นละอองออกทุกคราวหลังการใช้ ถ้าหากถูกนํ้าให้สลัดออก อย่าแปรงขณะผ้าเปียก
๒. ห้อยเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง และเย็น หรือใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วแขวนในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันนานยาวนานหลายวัน เพราะเหตุว่าเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือถูไปมานานๆจะแข็งเป็นเงา บางจำพวกขนจะหลุด

เสื้อผ้าใยสังเคราะห์


๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือแล้วก็เครื่องซักผ้า แม้กระนั้นซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า โดยแนวทางซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังต่อไปนี้
๑) ควรแยกผ้าสี และผ้าขาวออกมาจากกัน ไม่ควรซักรวมกัน เพื่อคุ้มครองป้องกันสีจาง
๒) ซักในนํ้าปกติหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกจำพวกอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้าหากมีความจำเป็นจำต้องฟอกขาว ควรใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ผึ่งแดดได้แม้กระนั้นจะต้องกลับเอาข้างในออก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรตากนาน เพียงพอหมาดเก็บ เข้าที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ ก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีดแต่ถ้าเกิดจะรีด ควรใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรจะห้อยด้วยไม้แขวนแล้วเก็บไว้ภายในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้าเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์

เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์


๑. การซักเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวรวมทั้งคงทนถาวรไม่ทนกรด ถ้าเปรอะยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้จำเป็นต้องซักในทันที ควรซักแห้งหรืออาจซักนํ้าได้แต่ว่าผ้าจะยับมากมาย เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งเอาไว้ภายในนํ้านาน และควรจะใช้สารซักฟอกจำพวกอ่อน ขณะซักไม่ควรขยี้หรือบิดมาก แล้วล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรห้อยตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรรีดด้วยอุณหภูมิต่ำเพราะไม่ทนความร้อน ถ้าเกิดความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้แขวนแล้วเก็บในตู้ใส่เสื้อผ้า นอกเหนือจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ และก็ใยกึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม และเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมและลูกปัด ซึ่งควรมีแนวทางการดูแลละเอียดลออ ดังต่อไปนี้

เสื้อผ้าไหมพรม


เสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นได้ดี สวมใส่อบอุ่น คุ้มครองปกป้องความหนาวเจริญ
๑. แนวทางซักเสื้อผ้าไหมพรมทำได้โดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งคู่วิธีควรใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ ไม่ควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่สกปรกนํ้ามัน มีการซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือผงซักผ้า ตีจนขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปราว ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆจนถึงสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง จนถึงสะอาด นำไปตาก ภายหลังซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมเพียงกัน ผ้าขนหนูจะซับนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเนื่องจากหากบิดจะทำให้เส้นไหมพรมยับรวมทั้งยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ซับนํ้าจนกระทั่งแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นกระดานยาว ผึ่งไว้จนกว่าจะแห้งในที่ร่ม ไม่สมควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวตากผ้า ด้วยเหตุว่าผ้าไหมพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักแล้วก็ทิ้งตัว จะก่อให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำเป็นโดยพับเก็บไว้ภายในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้า ไม่สมควรห้อยเพราะเหตุว่าจะก่อให้ยืดย้วย เสียรูป

เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด


เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ส่วนมากจะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก แล้วก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย จึงจำต้องดูแลอย่างถูกทางดังนี้
๑. แนวทางซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและลูกปัด ทำได้โดยก่อนซักให้ตรวจค้นจุดเปรอะเปื้อนก่อน ก็เลยนำไปแช่สักประเดี๋ยว ยกขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด ต่อจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าผงซักฟอกที่ตีจนกระทั่งขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเลอะเทอะออกให้หมด ถ้าเกิดตรงจุดเลอะเทอะเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว เอาขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักครู่ และก็ขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง เอาขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยว ยกขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ทำได้โดยนำไปใส่ไม้แขวน ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศระบายดี อย่านำไปตากแดด เพราะว่าจะมีผลให้ลูกปัดบิดแล้วก็แตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ทำเป็นดังต่อไปนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วเพียงพอหมาดๆม้วนพักไว้ชั่วประเดี๋ยว นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อให้ผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบดูดซึมกระทั่งทั่วก็เลยนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ให้กลับหัวในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าที่เอาไว้เช็ดหน้าชุบนํ้าจนกระทั่งทั่วพอเพียงหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัดรีดเบาๆจนกระทั่งเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ต่อจากนั้นให้พลิกด้านใช้ปลายเตารีดค่อยๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมรวมทั้งลูกปัดเพื่อเรียบยิ่งขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอเพียงหมาดวางทับแล้วก็รีดจนถึงทั่วตลอดตัว โดยรีดตรงปกแล้วก็ตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนในที่สุด
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------
แนวทางในการดูแลเสื้อยืดสกรีนและก็ เสื้อโปโล


เสื้อโปโล จะได้รับผลพวงในแบบที่ไม่เหมือนกันขึ้นกับคุณภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อรวมทั้งระยะเวลาของเสื้อกับการตอบสนองต่อน้ำรวมทั้งสบู่ ถ้าคุณภาพของอุปกรณ์ยิ่งดี ระยะเวลาสำหรับเพื่อการใช้ก็จะยิ่งทน และยาวนานมากขึ้นจ้ะ

1. กลับด้านเสื้อของคุณก่อนจะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแต่ว่าทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้แค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์

สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยค่ะ คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนนำมาซักจะปกป้องให้สีจากเสื้อของคุณจางไว

2. แยกผ้าที่เหมือนๆกันออกมาซักครั้งละก้อนคุณอาจกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะประเด็นนั้น เป็นแบบคุณอาจคิดใช่ไหมว่ามนุษย์เรานี่ควรจะเป็นคนจำพวกไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? และก็เราก็ต้องการจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันเป็นเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายกันแล้วซักมันด้วยกัน ผ้าเดนิมรวมทั้งอื่นๆที่มีซิปกระดุมควรที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางอย่างเช่น เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยค่ะ เนื่องจากว่าหากผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการฉีกขาดได้เลย

3. ซักผ้ากับน้ำเย็นถ้าหากกล่าวถึงหัวข้อการซักผ้า น้ำเย็นชอบเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่ควรเป็นตัวเลือกตั้งแต่แรกเลยล่ะ ลองทศไว้ภายในจิตใจนะคะเพราะว่าพวกเราจะกลับมาพูดหัวข้อนี้กันอีกหลังจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนกระทั่งเปรอะเปื้อนมามันก็ไม่สำคัญเลยที่คุณจำเป็นจะต้องใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ ด้วยเหตุว่าน้ำเย็นก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีพอที่จะชำระล้างเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันป้องกันกลั่นน้ำหมึกออกมาจากเสื้อของคุณนะ แต่เป็นการประหยัดไฟด้วยอีกต่างหาก

4. เพียรพยายามอย่าย้อมสีเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แต่การใช้ผงซักผ้าแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนของ เสื้อสลายตัวลง สลับกัน ลองพยายามเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดีกว่าจ้ะ

5. หลีกเลี่ยงการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็แจ๋วดีอ่ะเพราะเหตุว่าทุ่นเวลาของเรา แต่ว่ามันถูกดีไซน์มาให้ทำลายผ้าเราสุดๆเลยรู้ไหม นึกออกไหมคะที่เราบอกคุณก่อนหน้านี้ในเรื่องของความร้อนกับผ้า? แนวคิดนี้ถูกใช้ในข้อนี้เช่นเดียวกันเลยนะ ความร้อนจะมีผลให้ผ้าหด และทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าสำหรับเช็ดตัว หรือผ้าสำหรับปูที่นอนดีกว่าค่ะ แล้วตากผ้าในแบบที่เราทำกันมาแสนจะนานมากดังเดิม รวมทั้งอย่าลืมพากเพียรหลีกเลี่ยงการปั่นแห้ง แนวความคิดคล้ายกันเลยค่ะ

6. ปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม ห้อยผ้าในที่ร่มที่แดดไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงสิค่ะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงที่มาจากพระอาทิตย์) จะทำให้เป็นอันตรายต่อเสื้อผ้ารวมทั้งสีของเสื้อผ้าคุณแน่นอน แม้กระนั้นคุณอาจจะสงสัยสินะ เนื่องจากว่าคุณก็ใส่เสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนข้างนอกตลอด ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรไม่ปกติเลยนี่? เรื่องนั้นก็จริงค่ะ แต่ว่าแม้ว่าคุณจะออกไปข้างนอก คุณก็ไม่ได้ใช้เวลาภายใต้แสงตะวันต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี

7. หลีกเลี่ยงการรีดผ้า ความร้อนเป็นของต้องห้าม! แต่ว่าหากว่าคุณจำเป็นต้องจริงๆที่จะจำเป็นต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ เราก็อยากจะชี้แนะให้คุณใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบกลับหัว

เครดิต : [url]http://www.igetsee2.com/[/url]

Tags : ชุดนอนเชิ้ตขาว,ชุดเซ็กซี่,ชุดคอสเพลย์



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ