ตำแหน่งที่ตั้งของครัวควรหันไปในด้านที่รับแสงสว่างแล้วก็ลมให้ผ่านเข้ามาในครัวตามช

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำแหน่งที่ตั้งของครัวควรหันไปในด้านที่รับแสงสว่างแล้วก็ลมให้ผ่านเข้ามาในครัวตามช  (อ่าน 10 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jackbaristaa
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14329


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มิถุนายน 18, 2019, 07:45:10 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ทีมสถาปนิกมากฝีมือประสบการณ์สูงทั้งทั้งประเทศไทยและเทศ ออกแบบบ้าน ร้านค้า ห้องครัว ซ่อมซ่อมต่อเติม house extension คุยต่อรองได้
 
 
ตำแหน่งของครัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวเปิดแบบอยู่ข้างในตัวบ้านซึ่งสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสม่ำเสมอหรือเลือกห้องครัวแบบปิด บางทีอาจตั้งอยู่นอกบ้าน เเต่ไม่ว่าจะครัวแบบไหนก็ควรจะหันไปในทิศที่รับแสงและลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่องประตู หน้าต่าง และก็ช่องแสงสว่าง  รับเหมาต่อเติมบ้าน รีโนเวทให้บริการับต่อเติมบ้าน[/url]

ด้านของเเสงกับห้องครัว
เเนวคิดหลักก็คือครัวควรอยู่ในทิศที่มีเเสงสว่างส่องเข้าถึงได้ เพื่อให้เเสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรคต่างๆแล้วก็ไล่ความชื้นด้านในครัว โดยเฉพาะบริเวณอ่างล้างจานควรจะอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะได้ช่วยให้อากาศถ่ายเทแล้วก็ระบายกลิ่นต่างๆเวลาทำกับข้าว นอกนั้นยังมีผลให้ครัวเย็นสบาย
...มาดูผลจากการตั้งห้องครัวในเเต่ละด้านกันเลยดีกว่า…
- เเสงทางทิศเหนือให้ความสว่างกับครัวได้ตลอดทั้งวัน เเต่ไม่กำเนิดความร้อน ด้วยเหตุว่าไม่ใช่แนวทางโคจรของดวงอาทิตย์
- เเสงทางใต้มักจะส่องห้องครัวในฤดูหนาว เเละจะให้เเสงพอเหมาะในฤดูร้อน การที่ทำช่องเเสงบนหลังคาทางทิศใต้จะช่วยให้ครัวได้รับเเสงในฤดูหนาวได้เต็มที่ เนื่องจากในฤดูหนาวดวงตะวันจะอ้อมไปทิศใต้
- เเสงทางทิศตะวันออก ห้องครัวที่หันไปทางทิศนี้จะได้รับเเสงแดดรุ่งอรุณ ทำให้ห้องได้รับเเสงสว่างและความร้อนเนื่องจากว่าเป็นด้านที่ดวงอาทิตย์ขึ้น
- เเสงทางทิศตะวันตก ห้องครัวจะได้รับแดดบ่ายจนกระทั่งเย็นก็จะไม่ค่อยสะดวกถ้าเกิดทำกับข้าวในเดี๋ยวนี้ หากมีหน้าต่างใช้มูลี่ปรับเเสงหรือม่านบัง หรือจะปลูกต้นไม้เพื่อลดแสงกับความร้อนก็ได้

ตำแหน่งที่เหมาะสมของห้องครัวในบ้าน
โดยธรรมดาชาวเอเชียมั่นใจว่าตำแหน่งที่สมควรสำหรับครัวที่สุดในบ้านคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงสว่างและลมได้อย่างพอดี ส่วนหากเป็นความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จะชอบให้ห้องครัวอยู่ทางทิศตะวันออกแล้วก็ทิศใต้ เนื่องจากว่าทางทิศตะวันออกห้องครัวจะได้รับเเสงแดดตั้งเเต่ตอนเช้าถึงเที่ยง เเละช่วงเย็นจะเย็นสบายเวลาทำครัว ส่วนทิศใต้นั้นมีลมพัดผ่าน ทำให้อากาศถ่ายระบายได้สะดวก
สำหรับใครที่กำลังสร้างบ้าน ปัจจุบันนี้คงจะตัดสินใจเลือกได้เเล้วใช่มั้ยขาว่าจะสร้างห้องครัวไว้ทางด้านไหนดี ชอบแบบไหนก็เลือกอย่างงั้นได้เลย สิ่งสำคัญเลยก็คือแสงเเละลมต้องส่องผ่านเข้าไปในห้องครัว เพื่อช่วยระบายอากาศ ไม่ให้กลิ่นหลงเหลือในครัวนะคะ
 
นอกจากฮวงจุ้ยที่เหมาะกับสร้างบ้านแล้ว เจ้าของบ้านควรรู้เพราะว่า ฮวงจุ้ยลักษณะไหน ที่ไม่สมควรไปสร้างบ้านในบริเวณนั้น

1. มีกระแสลมแรงพัดผ่านตลอดเวลา พลังของลมจะพัดพาทรัพย์สินเงินไม่ให้เหลือเก็บ แม้กระนั้นหากไม่มีลมพัดเลย พลังงานที่ดีก็จะไม่หมุนวน ฮวงจุ้ยที่ดีคือมีลมพัดผ่าน อากาศระบายดี แม้กระนั้นไม่ใช่พัดแรงตลอดระยะเวลา

2. มืดรวมทั้งเย็น หมายความว่ามีพลังหยินเยอะเกินไป นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย แล้วก็เป็นที่อยู่ของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ดี ไม่ควรพักอาศัยร่วมกับมนุษย์

3. ทางชันพุ่งเข้าพบประตู เสมือนก่อสร้างบ้านบนปลายอาวุธ มีแม้กระนั้นอันตราย ไม่ใช่เรื่องดี

4. ถนนหนทางพุ่งเข้าบ้าน เป็นรูปแบบของทางสามแพร่งหรือทางผีผ่าน ยิ่งถนนหนทางยาว มีรถมากมาย ยิ่งอันตราย

5. ใกล้ทางโค้ง เหมือนรูปเคียวโดยยิ่งไปกว่านั้นสะพาน หรือวงเวียน มองเห็นรถยนต์หรือสิ่งที่จะเข้ามาในบ้านได้ยาก อาจอันตรายอีกทั้งจากขโมยลักขโมยและก็เป็นจุดดักพลังงานที่ไม่ดี

6. ประชิดด้วยอาคารสูง ทั้งยังซ้ายขวาหรือ หน้าข้างหลัง ในลักษณะราวกับหนีบบ้านที่อยู่ตรงกลาง ไม่ดี เพราะเหตุว่าเป็นลักษณะของโลง บ้านที่อยู่กึ่งกลางเป็นศพ ตาย เป็นไปไม่ได้ฟื้นพอๆกับหาเลี้ยงชีพไม่ขึ้น

7. มุมแหลมของบ้านด้านข้างพุ่งเข้าพบตัวบ้าน รูปแบบนี้เป็นรูปแบบของศรพิฆาต พลังของความปองร้ายต่างๆจะพุ่งเข้ามาที่บ้าน

8. ด้านหน้าบ้าน เป็นโรงพัก ศาลเจ้า เรือนจำสถานที่ดับเพลิง สถานที่เหล่านี้คือแหล่งรวมของเรื่องทุกข์ยากตรากตรำและความทุกข์ใจ ซึ่งจะส่งผลมาถึงคนภายในบ้านด้วย

9. ที่ดินปากทางน้ำ นับว่าไม่เป็นมงคล เพราะน้ำไหลตลอดเวลา เก็บสมบัติพัสถานมิได้ ทั้งเสี่ยงต่อการถูกกัดเซาะแล้วก็น้ำท่วมอีกด้วย

10. มีต้นไม้ใหญ่ เสาไฟ หรือเสาหลัก ขวางตรงประตูหน้า ข้าวของเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งอัปมงคล ไม่ควรให้ตั้งอยู่หน้าบ้าน

11. มีคลอง ร่องน้ำ ไหลผ่านตัวบ้าน ทำให้เงินทองเสียหาย

12. มีแอ่งกึ่งกลางบ้าน หรือกึ่งกลางตัวบ้านเป็นหลุมบ่อ กลางบ้านเป็นหัวใจของพลังงานในบ้าน ถ้าเกิดยุบหรือเป็นหลุมลงไปย่อมไม่เป็นมงคล
 
ไม้แต่ละจำพวกมีคุณลักษณะแตกต่างกัน จะต้องรู้จักลักษณะเฉาพะตัวของไม้ที่นิยมใช้กันในบ้านพวกเรา เพื่อจะได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้แรงงาน โดยเรียงลำดับความแข็งแรงของเนื้อไม้จากมากไปน้อย
ไม้แดง เนื้อไม้มีสีแดงเรื่อๆถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอประมาณ เนื้อเหนียวแข็งแรงแล้วก็แข็งแรง แต่ว่ายืดหดตัวออกจะมาก จึงจะต้องผ่านการอบมาอย่างดี นิยมใช้ก่อสรา้งในส่วนที่ไม่ใช่องค์ประกอบ เช่นพื้น วงกบประตูหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ หากปูพื้นจำต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนักมากยิ่งกว่าไม้จำพวกอื่น

ไม้ประดู เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐเข้มมีความแข็งใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลายงดงามเนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวและก็ชักเงาเจริญ แต่ว่าคนไม่ค่อยชอบเนื่องจากว่าครั้งคราวสีเป็นจ้ำ

ไม้เต็ง แรกๆแก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วจะเบาๆกลายเป็นสีน้ำตาลแก่แกมแดง เนื้อหยาบแต่ว่าเป็นประจำ นิยมใช้ทำองค์ประกอบอย่างคาน ตง และก็พื้น ในท้องตลาดมีทั้งยังไม้เต็งไทยและไม้เต็งมาเลย์ แต่ว่าไม้เต็งไทยจะแข็งแรงกว่า

ไม้มะค่า เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่และจะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งเอาไว้นาน มีเส้นเศษไม้ เนื้อค่อนข้างจะหยาบคาย แต่สม่ำเสมอ วาวเลื่อมเห็นลายไม้แจ่มกระจ่าง ทนมอดปลวกก้าวหน้า มีการยืดหดออกจะน้อย

ไม้สัก (บางตำราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน) แก่นไม้มีสีเหลืองทองและก็ค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลแล้วก็น้ำตาลแก่ มีกลิ่นราวกับหนังขัดเก่าๆมีคุณลักษณะเด่นที่ลายไม้สวยแต่ถ้าใช้งานหนักๆจะเป็นรอยง่ายจำเป็นที่จะต้องฉาบด้วยวาร์นิชที่ช่วยให้ไม้ทนการขัดเช็ดมากยิ่งขึ้น
 
พื้นเส้นใยซีเมนต์

เป็นการผสมเส้นใยไม้แล้วก็ปูซีเมนต์ก็เลยมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน แล้วก็ปลวกไม่รับประทาน เนื้อเหนียวคล้ายไม้สามารถทำสีได้ตามอยากได้ เช่นเดียวกับไม้ อายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,000-1,300 บาท

ไม้ผสมพอลิพรอพิลีน(PE)

เป็นวัสดุที่สร้างจากเยื่อไม้ผสมกับวัสดุสังเคราะห์ชนิดพลาสติกหรือพอลิพรอพิลีน (PE) ทำให้มีผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น รวมทั้งคุณสมบัติเหมือนไม้ แต่ว่าแข็งแรงอย่างพลาสติกผู้ผลิตเสร็จจากโรงงาน รวมทั้งมีระบบระเบียบการตำหนิดตั้งที่สะดวก ผู้ผลิตบางรายดีไซน์ให้มีตลอดตัวล๊อค ตงและก็ไม้ปิดข้างๆสำเร็จรูป อายุุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละราว2,000 บาท

ไม้สน

เป็นไม้นำเข้า ซึ่งมีให้เลือกอีกทั้งไม้สนโตเร็ว (วงปีห่าง) ที่นิยมนำมาปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ และก็ไม้สนโตช้า (วงปีถี่กว่า) ที่นิยมปลุกในประเทศแถบยุโปรตอนเหนือ แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ก็ผ่านการอบ อาบน้ำยาคุ้มครองป้องกันแมลง และเพิ่มสารเคมีให้มีความคงทน จึงสามารถใช้ภายได้ มีคุณลักษณะเด่นที่มีสีอ่อน แล้วก็สีสันจะเปลี่ยนเป็นสีอมเทาดูสวยสดงดงามไปอีกในลัษณะหนึ่ง อายุการใช้งาน10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท

แผ่นไม้พื้นระเบียบปฏิบัติสำเร็จรูป

เป็นการนำไม้เนื้อแข็งมาติดบนแผ่นตะแกรงพลาสติกพอลิพรอพิลีน มีระบบล็อกระหว่างแผ่น ส่วนใหญ่มีขนาดมาตราฐาน 30 x 30 รวมทั้ง 45 x 45 เซนติเมตร สามารถวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้องเดิมได้ทันที ราคาขึ้นกับขนาดแล้วก็ดีไซด์ ราคาแผ่นละ 150-300 บาท
 
พื้นไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต(laminated Flooring)

เป็นหลักไม้สำเร็จรูปที่นำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนเรสิน เพื่อคุ้มครองการขีดข่วน และก็การยืดหดตัวของแผ่นไม้มีอีกทั้งจำพวกผิวหน้าเรียบแล้วก็จำพวกมีผิวพิ้นสัมผัส

พื้นไม้ปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์(Wood Veneer Flooring)

เป็นไม้ปูพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับไม้ลามิเนตแต่ว่ามีความแข็งแรงน้อยกว่า มีผิวหน้าเป็นแผ่นวิเนียร์ไม้จริง รองด้วยไม้กระดานอัดหรือไม้ HDF (High Desity Fiber Board) ฉาบผิวหน้าด้วย น้ำยาฉาบแข็งหรือสารคุ้มครองรีงสีแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อคงทนถาวร

พิื้นไม้จริงเคล็ดวิธีเอนจิเนียร์(Prenished Engineered Floor)

วัตถุดิบ ด้วยการใช้ผิวหน้าไม้จริงและก็ประกบข้างล่างด้วยแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF) หรือใช้ไม้จริงที่มีคุณภาพรองลงมาวางซ้อนกันหลายๆชั้นแล้วอัดผสานด้วยการพร้อมอัดน้ำยากันปลวกรวมทั้งฉาบด้านหลังไม้เพื่อคุ้มครองป้องกันความชื้้น

พื้นไม้จริงสำเร็จรูป (Prenished Solid Floor)

เป็นไม้จริงอีกทั้งแผ่นที่ได้วิวัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยผ่านขั้นตอนการอบแห้ง อัดน้ำยากันปลวกทำสีและก็เคลือบผิวหน้ามาจากโรงงานพร้อมออกแบบระบบการคุ้มครองความชุ่มชื้นรวมทั้งการต่อไม้เข้าลิ้นให้ติดตั้งสะดวกขึ้นจึงจัดตั้งได้รวดเร็ว ลดปัญหาไม้หดหรือปิดตัว ทั้งยังมีลวดลายและก็สีสันให้เลือกมากไม่น้อยเลยทีเดียวด้วยเหตุว่ามีอีกทั้งไม้จากยุโรป สหรัฐอเมริกาแล้วก็เอเซีย ราคาพื้นไม้สำเร็จรูป ตารางเมตรละ 700-2000 บาท
 
แผ่นไผ่อัด

ผลิตจากไม้ไผ่ในประเทศ โดยนำมาผ่านกระบวนการดูดอากาศ อัพน้ำยา และก็อบแห้ง เพื่อให้เนื้อไม้แน่นรวมทั้งอยู่ตัว จึงมีความแข็งแรงมากขึ้น ปลอดแมลงกันรับประทาน นำมาผ่าซีกรวมทั้งไสตามขนาดที่อยาก อัดผสานด้วยกาวในระดับความร้อนสูงให้เป็นแผ่น และนำไปดัดแปลงใช้งาน ได้นานาประการ อีกทั้งกรุผนัง ทำพื้นไม้ ฝ้าเพดานเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งหลังคา ราคาตารางเมตรละ1,000-3,000 บาท

อุปกรณ์ชดเชยไม้พร้อมโครงคร่าวๆสำเร็จรูป

ทำมาจากไม้ผสอมพอลิพรอพิลีน(PE) วางแบบให้มีหลายขนาดพร้อมโครงคร่าว สามารถนำมาประกอบตามแบบอย่างที่ปรารถนาได้ เหมาะกับทำผนังแล้วก็ฝ้าเพดานทั้งยังด้านในแล้วก็ภายนนอกราคาตารางเมตรละ 1,500 -2,000 บาท

แผ่นฝาผนังไม้สำเร็จรูป

เป็นไม้จริงรวมทั้งโครงพร้อมจัดตั้ง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีทั้งจำพวกฝาผนังโปร่งแล้วก็ผนังทึบ สามารถที่จะใช้ทำผนังบังตา ฝาผนังตกแต่งทั้งภายในรวมทั้งภายนอก ราคาตารางเมตรละ 3,500-4,300 บาท
 
ติดต่อใช้บริการได้ที่: บริษัท คอมพลีทโฮม COMPLETE HOME จำกัด
รับ:  ตกแต่งคอนโด 
โทรศัพท์: 0959502635
Email: completehomecontact@gmail.com

ที่มา : [url]http://www.completehome.co.th/[/url]

Tags : รับต่อเติมบ้าน,ต่อเติมบ้าน, ตกแต่งภายใน



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ