Advertisement
ประวัติส่วนตัวสิ่ง ไซบีเรียนฮัสกีชาวชุกชี (Chukchi) ซึ่งหมายความว่าชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ทางบรรพ์เฉียงเหนือของไซบีเรีย ยังมีชีวิตอยู่ผู้พัฒนาสายพันธุ์หม
ไซบีเรียน[/url]ฮัสกีขึ้นมา เพื่อให้ช่วยดูแลฝูงกวางเรนเดียร์ด้วยกันใช้ในการลากยืดเวลาหิมะ แต่ต้นกำพืดของสายพันธุ์นี้ก็ยังคงยังไม่ตายปริศนา ซึ่งสมมติไซบีเรียน ฮัสกี้น่าจะมีส่วนระคนของสุนัขหลายๆ พันธุ์ชุมนุมกัน ชาวชุกชีต้องใช้คราวหลายร้อยปีกว่าจะ สมรรถฝึกให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขลากเลื่อนเวลาได้
ปี ค.ศ. 1909 ยังไม่ตายปีแรกที่ชาวชุกชีได้นำสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีมาลงชิงชัยลากเลื่อน ซึ่งในสมัยเก่าการแข่งขันสุวานนับว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความชื่นชอบมาก ในการทดสอบครั้งหนึ่ง สุนัขจะต้องวิ่งหมายความว่าระยะทาง 400 ไมล์ จากบุรีโนม (Nome) ไปถึงเวียงแคนเดิล (Candle) ในรัฐอลาสกา ซึ่งเป็นทางที่เดินทางได้ยากยากลำบาก ด้วยความศักยในการวิ่งและการลากเลื่อน เป็นเหตุให้
ไซบีเรียน ฮัสกี กลายมาทั้งเป็นสุนัขสายพันธุ์ต้นๆ ที่นิยมในการขันแข่งสุนัขที่เวลาสืบมา
ทั้งนี้ในปี ค.ศ. 1910 ชาร์ล ฟ็อกซ์ เมาเล แรมเซย์ (Charles Fox Maule Ramsay) เพศชายชาวสกอตแลนด์ ได้เล็งแลดูลักษณะและสมรรถนะของสุนัขพันธุ์นี้ จึงบอกช่องทางให้ จอห์น ไอรอนแมน จอห์นสัน (John “Iron Man” Johnson) ผู้ขู่สุนัขลากเลื่อนใช้สุนัขไซบีเรียนฮัสกีลงชิงลากเลื่อนในปีนั้น มีผลให้เอาชนะทีมคู่แข่งได้อย่างสะดวกมาก และทีมของแรมเซย์ทีมอื่นๆ ที่ใช้ไซบีเรียนฮัสกีมีชีวิตสุนัขลากเลื่อน ก็ยังเข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 กับที่ 4 ในการแจ้งราคาครั้งนั้นด้วย ในทศวรรษถัดมา สุนัขพันธุ์นี้ได้ถูกแซ่ซ้องให้เป็นพันธุ์ที่มีเกียรติด้วยการแข่งขันลากเลื่อน โดยเฉพาะด้านความอดทนในการขับเคี่ยว
ในศก ค.ศ. 1925 เมืองโนม รัฐอลาสกาได้รับเกิดโรคระบาดจากสารพิษขึ้น ทำให้มีราคะยาต้านพิษอย่างเร่งไว จึงมีการจัดคนบงการเลื่อน 20 คน ด้วยกันสุนัขลากเลื่อน 150 อวัยวะ เพื่อขนส่งยาต้านพิษดำรงฐานะระยะทาง 674 ไมล์ข้ามรัฐอลาสกา ซึ่งใช้ช่วงเดินทางเพียง 5 วันครึ่งแค่นั้น ถือว่าเป็นการแรมรอนที่ใช้เวลาน้อยที่สุดเป็นพระราชประวัติการณ์ ทำให้สามารถช่วยผู้คนในเมืองโนมและชุมชนรอบข้างได้ เหตุการณ์นี้มีชื่อเรียกว่า Great race of mercy หลังจากเหตุการณ์นี้ คนบังคับเลื่อนด้วยกันสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด กลายเป็นโขยงที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศอเมริกา และบัลโต (Balto) สุนัขไซบีเรียนฮัสกีผู้อยู่เหนือฝูงสุนัขลากเลื่อนที่ได้วิ่งนำเพื่อนๆ ในการวิ่งครั้งทีหลัง เพื่อส่งเซรั่มไปยังเมืองโนม ก็ได้รับความโด่งดัง อย่างมาก จนมีการทำรูปปั้นไว้เป็นที่ประหวัดในเซนทรัลปาร์ค (Central park) ในนิวยอร์ค
10 จันทร หลังจากที่บัลโตได้วิ่งไปถึงเมืองโนม ความชื่นชมในไซบีเรียนฮัสกี ก็เริ่มแพร่ขยายไปที่แคว้นแคนาดา พร้อมทั้งในปี ค.ศ. 1930 อเมริกัน เคนเน็ล คลับ (American Kennel club) คบหาสมาคมสุนัขแห่งอเมริกา ได้ขึ้นต้นทำความรู้จักสุนัขไซบีเรียน ฮัสกีมากขึ้น ด้วยกันมีการนำสุนัขไซบีเรียนฮัสกี หลายตัวไปฝึกหัดเป็นทีมสนับสนุนและทีมค้นหาของทหารรัฐอลาสกาในสหรัฐอเมริกาในช่วงการทำศึกโลกครั้งที่ 2 เช่นเดียวกัน
พร้อมกับนี่ก็คือ ปากคำที่คุณควรรู้เก่าที่คิดจะเลี้ยงกนิษฐาหมา
ไซบีเรียน ฮัสกี้นะคะตำหนิ แน่ๆ แล้ว ไม่ว่าคุณตระหนักจะเลี้ยงน้องหมา หรือสัตว์เลี้ยงสายไหนก็ตาม เอ็งควรจะต้องศึกษาถึงธรรมดา อุปนิสัย พร้อมทั้งวิธีการเลี้ยงดูของสัตว์ตัวนั้นให้รอบคอบก่อน ทั้งนี้ก็ด้วยว่าป้องกันปัญหาต่างๆ เป็นเบือที่จะตามมา และที่สำคัญที่สุดจะได้ไม่เป็นการทำลายชีวิตสัตว์ตัวเล็กๆ ด้วยยังไงล่ะคะ เพราะถ้าหากเราบริหารเขาได้ไม่ดี ก็เท่ากับว่าเขาต้องมีชีวิตที่ทรมานแบบนี้ต่อไปจนกว่าเขาจะตาย ... ต่อจากนั้น ก่อนจะเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตาม การศึกษาหาข่าวสารเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องทำมากนะคะ ...
Tags : ไซบีเรียน ฮัสกี้
