กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ (Athens, Greece)

[Narongrit999]

Advertisement

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) ยังคงเป็นสถานที่ซึ่งน่าสนใจอยู่เป็นประจำ ด้วยความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมบวกกับเรื่องราวที่ไปที่มาอันน่าดึงดูด ทำให้เอเธนส์ยังคงเป็นเลิศในเมืองที่ควรไปเยือนสักหนึ่งครั้ง

ประเทศกรีซ (Greece) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งอารยธรรมตะวันตกอันยิ่งใหญ่ แล้วก็มีประวัติศาสตร์อันนาน ซึ่งกรีซได้ขยายอิทธิพลไปยัง 3 ทวีปแล้วก็ยังเป็นประเทศที่มีสถานที่พักผ่อนอันแสนโรแมนติกในหมู่เกาะต่างๆติดอับดับต้นๆของโลกอีกด้วยจ้ะ ชาวกรีกเรียกประเทศตนเองว่า Hellas ซึ่งภาษากรีกในขณะนี้ออกเสียง ว่าEllas โดยสำหรับเพื่อการกล่าวทั่วๆไปจะใช้คำว่า Ellada แล้วก็มักจะเรียกตัวเองว่า Hellenes ต่อให้ในภาษาอังกฤษ ซึ่งคำภาษาอังกฤษ “Greece” มาจากชื่อลาตินว่า Graecia หมายถึงอณาเขตด้านทิศเหนือของกรีซในขณะนี้ ซึ่งมีกลุ่มคนที่เรียกว่า Graikos อาศัยอยู่ ประเทศกรีซมีเมืองหลวงเก่าแก่ “กรุงเอเธนส์” (Athens) ใช้ชื่อตามเทพีอธีทุ่งนา(Athena)ในปุราณวิทยา (Mythology) ของภาษากรีกโบราณ มีประวัติมายาวนานตั้งแต่ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล* (รายละเอียดอยู่ใน what you should know) ฉะนั้นโบราณสถานในกรีซมีอยู่เกลื่อนกลาดกระจัดกระจายทั่วราชอาณาจักร แต่ว่าจะมีมากมายที่กรุงเอเธนส์ ความซับซ้อนของประวัติศาสตร์นั้นมีมาก ถ้าหากปรารถนาความเข้าใจ เขมขอชี้แนะให้ทราบฐานรากไว้สักนิดก็จะดีจ้ะ

เอาล่ะค่ะ มาทัวร์โบราณสถานที่เรียกว่า “Antiquities in Athens” กันเลย เริ่มจากเนินทางทิศใต้ของ Acropolis จะเจอโบราณสถานอักแรก The Temple of Olympain Zeus เป็นวิหารที่สร้างแล้วสร้างอีกภายใต้หลายการปกครองของทรทราชย์ Peisistratos ปีที่ 515 ก่อนคริสต์กาล แล้วก็กษัตริย์ Syria Antiochos IV Epiphanes ปีที่ 163 ก่อนคริสต์กาล แต่ว่ามาแล้วเสร็จปีที่ 131 ก่อนคริสต์กาลโดยพระราชาธิราชโรมันเฮเดรียน โครงสร้างของตึกปราสจากหลังคาและสามเหลี่ยมหน้าจั่ว มี 104 เสาหินด้วยความสูงที่ 17 ม. แต่ว่าที่เราเห็นมีแค่16 เสาที่ถูกอนุรักษ์ไว้จ้ะ

เดินขึ้นต่อไปทางด้านขวา คือ The Ancient Theatre of Dionysos เป็นโรงละครที่เก่าแก่ที่สุดของโลก กวีชาวภาษากรีกโบราณทั้งหลาย เป็นต้นว่า Aeschylos, Aristophanes, Euripides และ Sophocles ใช้มองการแสดงละครบทกลอนรอบรอบปฐมฤกษ์ของพวกเขาตรงนี้ รอบๆที่นั่งของผู้ชมในโรงแสดงละครรวมทั้งส่วนหน้าของเวทีทำมาจากไม้ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์กาล มีการก่อสร้างใหม่ด้วยหินอ่อน มีนิดหน่อยของที่นั่งผู้ชมหลงเหลืออยู่ให้พวกเราได้ดู โรงแสดงละครนี้สามารถจุผู้ชมได้ถึง 17000 คน เหนือโรงละคร เป็น The Stoa of Eumenes สร้างโดยกษัตริย์ของเพอร์ราคะอน Eumenes II ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์กาล

เป็นทางเดินใต้ประตูรูปโค้ง ซึ่งเป็นที่ลบซ่อนสำหรับผู้ชมละครสำหรับวันที่แดดร้อนจัดเดินถัดขึ้นไปอีกเรียกว่า The Odeion of Herodes Atticus สร้างโดยคนรวยผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นคุณครูรวมทั้งนักปรัชญาที่ได้รับมรดกจากพ่อชื่อ Herodes Tiberius Claudius Atticus เพื่อคนึงถึงเมียของเขา Rigilla ชาวกรีกโบราณใช้สถานที่ที่นี่จัดงานต่างๆในตอนนี้โรงละครแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลประจำปี “Athens Festival” จัดตั้งเมื่อปี 1955 ทุกๆหน้าร้อนของปีระหว่างมิถานายนถึงกันยายน นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญในทวีปยุโรป มีการแสดงของศิลปินนักร้องชาวกรีกมีชื่อเสียง สไตล์คลาสสิค โมเดิร์น โอเปร่า และก็การแสดงละคร สามารถจุผู้ชมได้5000 คนจ้ะพูดถึงแค่ 3 สถานที่ มองง่ายและสั้น แต่ว่าตามความเป็นจริงกว่าจะก่ายไปถึง Acropolis ก็ใช่ย่อย เอามือก่ายหน้าผากไม่รู้เรื่องกี่รอบอ่ะจ้ะAcropolis เป็นโบราณสถานเครื่องหมายของกรุงเอเธนส์ ที่เชื่อมโยงระหว่างอารยธรรมโบราณกับเมืองใหม่ The Propylaea เป็นปากทางเข้าหลักของAcropolis สร้างโดยสถาปนิกชาวเอเธนส์มีชื่อเสียง Mnesikles 437-432 ปีก่อนคริสต์กาล ก่อนที่เราจะเดินถึง Propylaea เราจะผ่านส่วนหนึ่งของป้อมโรมัน Beulé gate ภายหลังที่เดินผ่านเข้ามา จะพบกับแท่นสูง 13 มัธยม เรียกว่า Monument of Agrippa ซึ่งชาวเอเธนส์จัดตั้งรูปปั้นโรมัน Marcus Agrippa ผู้มีอุปการะคุณของเมือง ทางด้านทิศใต้ของ Propylaea มี The Temple of the Athena Nike (Apteros Nike) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ความมีชัยของกรีกต้านทาน

กับเปอร์เซีย ตำแหน่งของตรงนี้เป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ก่อนยุคประวัติศาสตร์ หากมองตรงไปด้านหน้าก็คือ วิหารพาร์เธนอน (The Parthenon) สถาปัตยกรรมชิ้นเยี่ยมที่ดังก้องโลก รู้สึกสำนึกคุณค่าของเก่าแก่สถานที่จริงๆควรแล้วที่เฉมเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ ซาบซึ้งมากๆจ้ะ สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาสาวงามอธีที่นา(Athena นางงามที่ความฉลาดปราดเปรื่อง รวมทั้งศิลปศาสตร์ทุกกิ่งก้านสาขาของภาษากรีกรวมถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์คือต้นมะกอก) และก็สร้างขึ้นมาจากหินอ่อนเพนเทลิก (Pentelic) (เป็นหินอ่อนมาจากเขาPentelikos ที่อยู่ใกล้เอเธนส์ ในยุคกรีกโบราณหินอ่อนนี้โด่งดังด้วยเหตุว่าคุณภาพที่ดีและก็สวย)วิหารพาร์เธนอนสร้างตามการริเริ่มของเพริเคิล (Pericle) หัวหน้ากรุงเอเธนส์ในสมัยนั้น สร้างแล้วก็ตกแต่ง 447-432 ปีก่อนคริสต์กาล มีเสาดอริกเข้าแถวละ 8 เสาอยู่ข้างหน้าและก็ข้างหลังวิหาร แล้วก็ด้านข้างซ้ายขวาแถวละ 17 เสา ลักษณะพองนิดหน่อยของเสาทำให้เราเห็นว่าเสานั้นโค้งเพราะการรับน้ำหนักของหลังคา แม้กระนั้นข้อเท็จจริงแล้วกลเม็ดความกลมกลืนของพาร์เธนอน คือ การออกแบบของเสาที่ไม่ตรงกัน อย่ารู้เรื่องในภาพที่หลอกตาเรานะคะ ในวิหารมีรูปปั้นสีทองคำงาของอธีนา ซึ่งสำเร็จงานของนักปั้นที่เป็นที่รู้จัก Pheidias และก็ยังเป็นผู้ควบคุมสำหรับการสร้างทั้งปวง เป้าหมายของรูปปั้นเป็นการปฏิบัติงานสำคัญของ Great Panathenaea ซึ่งพรรณนาเป็นลายสลักใต้ชายคา ในตำนานได้กล่าวไว้ว่า ชื่อของเอเธนส์เชื่อมโยงมาจากการแก่งแย่งชิงดีสำหรับการให้ความคุ้มครองปกป้องเมืองระหว่างโพไซดอน (Poseidon ทวยเทพแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของท่านเป็น “สามแง่ง” เทวดาผู้เขย่าพื้นพิภพ ผู้บัลดาลให้เกิดลมพายุ พ่อที่ม้า) รวมทั้งอธีทุ่งนา โพไซดอนได้เสนอชาวเอเธนส์ม้าหนึ่งตัว ขณะที่อธีท้องนาเคาะหินของ Acropolis ด้วยหอกของพระองค์ทำให้ต้นมะกอกแตกหน่ออธีนาจึงเลือกต้นมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขแล้วก็ความเจริญก้าวหน้า ก็เลยได้ใช้ชื่อของท่านเป็นชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติจ้ะ รูปปั้นอธีนาที่อยู่ในวิหารฯ สูง 12 มัธยม ข้างในรูปปั้นทำจากไม้ ส่วนเปลือยต่างๆทำมาจากงาช้าง และหมวกเหล็กเคลือบด้วยสีทองคำ ลีลาแขนทั้งคู่ของรูปปั้นที่เป็นเครื่องหมายนางงามอธีนา ข้างขวาถือรูปปั้นงาช้างของชัย ซึ่งหายไปในยุคไบแซนไทน์จ้ะ

หันไปทางด้านข้างของพาร์เธนอน จะเจอกับวิหาร The Erechtheion ที่มีสไตล์เป็นหนึ่งสร้างในแบบฉบับภาษากรีกโบราณ 420-406 ปีก่อนคริสต์กาล บนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของ Acropolis เป็นที่ที่อธีนาเพาะปลูกต้นมะกอกสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าถูกทำลายลงเมื่อเปอร์เซียรุกกราน ซึ่งในตำนานได้กล่าวไว้ว่า ภายหลังจากการผลักไสไล่ส่งเปอร์เซียออกไป ต้นมะกอกได้แตกหน่ออีกรอบอย่างน่าพิศวง วิหารนี้เป็นอาคารสองชั้นที่ มิได้สัดส่วน มีสองระเบียงที่ไม่สัมพันธ์กันเยอะแค่ไหน ระเบียงทางด้านทิศใต้จะมีชื่อเสียงกันมากกว่าเพราะรูปปั้นของสาวโสดที่ใช้ค้ำใต้หลังคา ที่พวกเราเห็นนี้เป็นรูปปั้นเลียนแบบนะคะ รูปปั้นห้าในหกตัวที่เคยใช้ตกแต่งวิหารในขณะนี้แสดงอยู่ที่ Acropolis Museum รวมทั้งตัวที่หกอยู่ที่ British Museum ในกรุงลอนดอน ความไม่เหมือนในแต่ละส่วนของวิหารมาจากการอุทิศให้แต่ละทวยเทพ เช่น ทางทิศตะวันออกให้แก่นางงามอธีที่นา และก็ในทิศตะวันตกให้แก่ทวยเทพโพไซดอนค่ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : bestepilatorstore

ขอบคุณบทความจาก : [url]http://bestepilatorstore.com/เดิมพัน-บาคาร่า-อันดับ-1/[/url]

Tags : http://bestepilatorstore.com,bestepilatorstore