ให้เช่ารถตู้ราคาไม่แพงราคาถูก ปลอดภัย คุ้มครองปกป้องความสูญเสีย

[suChompunuch]

Advertisement

ให้เช่ารถตู�

บ้านเรา พรบ.จราจรทางบก 2522 ได้มีการประกาศแล้วก็บังคับใช้ให้ติดตั้งแล้วก็คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับคนขับรวมทั้งผู้โดยสารตอนต่อไปตั้งแต่ พุทธศักราช 2538 หรือกว่า 22 ปีก่อน แม้จะมีแรงต้านในระยะต้น แม้กระนั้นก็ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจนถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำนวนของผู้ใช้รถยนต์ ข้อมูลตรวจสอบปัจจุบัน(2557) โดยมูลนิธิไทยโรดส์ เจออัตราการคะเนสายรัดเอวตอนต่อไป เฉลี่ย 2 ใน 3 หรือปริมาณร้อยละ 60 กว่าๆแม้ว่าจะยังไม่ 100% แม้กระนั้นแต่กระนั้น ก็พบว่ามีคนขับรถยนต์และก็ผู้โดยสารเยอะๆมาย ที่รอดชีวิตเพราะว่าคาดเข็มขัดนิรภัย(เข็มขัดนิรภัยสามารถลดความร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้ถึง 34-40 % เทียบกับการไม่คาดเข็มขัด)
 
การเสี่ยงสำหรับในการเดินทางของรถโดยสารสาธารณะของเมืองไทย

เกิดเรื่องน่าประหลาดที่ ผู้โดยสารรถเมล์สาธารณะไม่ทราบถึงข้อมูลทั้งเรื่องการเสี่ยงอันตรายสำหรับในการเดินทาง สถิติอุบัติเหตุ หรือแม้แต่ ผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทรับผิดชอบโดยตรงจะเร่งสนับสนุนรวมทั้งจัดการกับปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเดินทางโดยรถประจำทางสาธารณะโดยตลอด ดังเช่น การต่อว่าดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถประจำทางสาธารณะทุกหมวดหมู่รวมทั้งบังคับให้ผู้โดยสารจำเป็นต้องคาดเข็มขัดตลอดการเดินทาง, การต่อว่าดตั้งระบบ GPS ในรถประจำทางสาธารณะทุกคัน เป็นต้น แม้กระนั้นเนื่องด้วยมีผู้ประกอบกิจการที่ไม่มีคุณภาพเยอะมากๆเข้ามาอยู่ในระบบ ประกอบกับการบังคับใช้ข้อบังคับและจำนวนบุคลากรข้าราชการน้อยเกินไปที่จะใช้ควบคุมส่งผลให้มีช่องว่างของปัญหาจนกระทั่งสร้างการเสี่ยงอันตรายให้เกิดกับผู้โดยสาร ซึ่งมีอยู่ 4 ส่วนประกอบเช่น

พนักงานขับรถ โดยมูลเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากความเมื่อยล้า และความประพฤติการขับที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ดังเช่น การขับรถยนต์เร็ว การขาดประสบการณ์และความถนัดสำหรับในการขับรถ รวมทั้งระบบผลประโยชน์ต่างๆแก่พนักงานขับรถ
ยานพาหนะ ที่ขาดการกำหนด “มาตรฐานตามแบบสากล”และก็ระบบการทดลองความแข็งแรงด้านองค์ประกอบแล้วก็การยึดเกาะเก้าอี้ รวมถึงระบบการควบคุมมาตรฐานรถที่นำมาให้บริการผู้โดยสาร
ผู้ประกอบการ ไม่จัดแจงระบบความปลอดภัยและไม่มีแผนรองรับการเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุ ที่ไม่มีเงินทุน มีรถเฉลี่ย 1-2 คันและไม่มีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเอง รวมทั้ง ไม่มีระบบตรววจสอบสำหรับการซ่อมบำรุง
สภาพทาง โดยในประเทศไทยมีทางเสี่ยงอันตรายและไม่เหมาะกับรถเมล์โดยยิ่งไปกว่านั้นรถยนต์สองชั้น มากถึง 85 ทาง ทั้งยังยังขาดระบบวิธีการทำ Road Safety Audit ถนนทุกเส้นในประเทศไทยนำมาซึ่งการทำให้ถนนมิได้มาตรฐานและไม่มีความปลอดภัยสำหรับในการใช้งาน
ระบบประกันภัยแล้วก็การทดแทนแก้ไขอุบัติเหตุจากรถเมล์สาธารณะในประเทศไทย

จากความเสี่ยงทั้งยังภาวะคนขับรถที่ไม่มีความพร้อม ภาวะรถที่ไม่ปลอดภัย การดูและใส่ใจของผู้ประกอบธุรกิจภาวะทาง ส่งผลให้การเกิดอุบัติเหตุทางถนนหนทางของรถเมล์สาธารณะซึ่งหลายๆเหตุการณ์สามารถคุ้มครองป้องกันได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเกิดอุบัติเหตุจนถึงมีผู้โดยสารบาดเจ็บรวมทั้งเสียชีวิตปัญหาเป็น เมืองไทยมีระบบระเบียบสำหรับการให้ความให้การช่วยเหลือเพื่อทดแทนเยียวยามากมายน้อยเท่าใดและเหมาะสมกับการสิ้นไปที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ จึงควรทำความเข้าใจระบบการชดเชยเยียวยาในปัจจุบันโดยสามารถที่จะทำการแบ่งออกได้เป็น 2 แบบอย่าง เช่น



คาดเข็มขัดนิรภัย เฉพาะตอนหน้าก็คงจะพอเพียงไหม ?

ผู้โดยสารหลังจากนั้น จะมีความเชื่ออยู่แล้วว่า .. นั่งหลังไม่ได้ถูกแรงปะทะเมื่อมีการชนราวกับผู้ที่นั่งตอนต่อไป แถมยังมีเบาะไว้คอยกันอีกด้วย ถ้าหากเป็นแท๊กซี่ก็นั่งไม่นานสักครู่ก็ลงแล้ว ในส่วนรถปิกอัพ ที่ปกติจะขึ้นทะเบียนเป็นรถส่วนตัวสองที่นั่ง ก็มีเข็มขัดเฉพาะตอนหน้า (ไม่มีเข็มขัดนิรภัยสำหรับ space cap) แต่ว่าในชีวิตจริงจะมีผู้โดยสารนั่งใน space cap อยู่จนถึงปกติประกอบกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ อีกทั้งรถตู้ขึ้นรถแล้วก็แท๊กซี่ สายรัดเอวผู้โดยสารภายหลัง จะถูกพับเก็บไว้หรือไม่ก็ซุกอยู่ใต้เบาะ ทำให้ยุ่งยากสำหรับในการประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นลงในระยะทางสั้นๆ

ทั้งปวงนี้ ล้วนนำมาซึ่งการทำให้ มัธยม44 ที่ประกาศบังคับใช้ในครั้งนี้ทำให้เกิดแรงต้านทานพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรถสาธารณะอย่างกรณีแท๊กซี่และก็ปิกอัพ
จากความเชื่อว่านั่งข้างหลังไม่เป็นอันตรายถึงแม้ไม่ต้องคาดเข็มขัด .. อันที่จริง รถที่วิ่งด้วยความเร็ว 60 กม/ชั่วโมง จะทำให้ทุกคนบนรถยนต์พุ่งไปด้านหน้าและเมื่อมีการปะทะคนหรือวัตถุในตัวรถยนต์ แรงปะทะจะเสมอกันกับการ “ตกอาคาร 5 ชั้น” ทำให้คนที่ไม่คาดเข็มขัด ทะลุกระจกออกมาได้เลย หรือไม่ก็ชนเก้าอี้หรือคนตอนหน้าให้ได้รับบาดเจ็บไปด้วย

เพื่อนบ้านอย่าง “มาเลเชีย” ก็มีการบังคับใช้เข็มขัดหลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีกลาย แต่ว่าที่น่าสนใจคือ ผลประเมินจาก MIROS (Malaysia Institute of Road Safety) พบว่าสามารถช่วยลดการตายของผู้โดยสารภายหลังได้ถึง 70%

เมื่อปีกว่าๆเรื่องเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารตอนหลังถูกเอ๋ยถึงกันมากมายในอเมริกา จากการสูญเสียJohn Nash เจ้าของรางวัลโนเบิลไพรส์ ที่สิ้นชีวิตบนรถแท๊กซี่เพราะว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยสื่อมวลชนและก็ประชากรหันมารณรงค์ให้เพิ่มการเข้มงวดและใช้เข็มขัดนิรภัยกับผู้โดยสารต่อมา เนื่องจากว่ามีข้อมูลที่กล่าวว่าผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีถึง 55% ที่ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย ยิ่งไปกว่านี้ยังมีถึง 22 เมืองที่มิได้มีข้อบังคับบังคับใช้การคาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์แท๊กซี่

บ้านเราแม้ยังไม่มีข้อมูลที่แยกคนที่นั่งตอนต่อไปแล้วก็ส่วนท้าย แม้กระนั้นในช่วงเทศกาล (ปีใหม่-สงกรานต์) ที่ผ่านๆมาจะพบว่า คนที่เสียชีวิตจากรถส่วนตัว จะมีรูปร่างที่ใช้เข็มขัดนิรภัยเพียง1 ใน 4 แปลว่าจำนวนมาก (3 ใน 4 หรือปริมาณร้อยละ 75) ของผู้เสียชีวิตไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

วิธีขึ้นรถรถตู้ให้ไม่มีอันตราย

รถตู้รับจ้าง
รถตู้รับจ้างเป็นรถยนต์โดยสารประจำทางอย่างหนึ่งที่สะดวก ไม่ต้องจอดรถยนต์ทุกป้ายเสมือนอย่างรถเมล์ แล้วก็สามารถทำเวลาได้อย่างเร็ว แต่ว่ารถตู้ก็เป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพปฏิบัติงานได้สบาย ด้วยเหตุว่ามีผ้าม่านบังสายตาบุคคลภายนอก ภายในกว้างใหญ่เอื้อต่อการก่อเหตุ แล้วก็สามารถเปลี่ยนที่หลบหนีได้อย่างรวดเร็ว


ควรเป็นรถตู้ถูกต้องตามกฎหมายเพียงแค่นั้น
คุณควรต้องเลือกรถตู้ที่อยู่ในทางประจำ และวิ่งบนเส้นทางที่ไม่เปลี่ยวกระทั่งเกินความจำเป็น เนื่องจากรถตู้ที่วิ่งในเส้นทางประจำ จะก่อให้คุณเดาได้ว่าอีกนานมากแค่ไหนกำลังจะถึงจุดมุ่งหมาย หรือว่ารถวิ่งออกนอกเส้นทางหรือเปล่า เป็นการสร้างความปลอดภัยในตนเองระดับหนึ่ง ต่างกับรถตู้ผีที่วิ่งรับผู้โดยสารพาเข้าทางลัดแปลกๆอยู่เสมอ


อย่าอยู่บนรถตู้ผู้เดียว
จำไว้ว่าคุณอย่าขึ้นรถตู้เป็นคนแรกหรือลงเป็นคนสุดท้าย ทางที่ดีคุณควรจะรอให้มีคนขึ้นรถตู้สัก 2-3 คนก่อนจะขึ้นไปนั่งรอผู้เดียว หรือเลือกลงจากรถตู้ในป้ายใหญ่ๆอย่ายินยอมคนขับตู้ที่อ้างถึงว่าจะไปส่งที่บ้านให้ เนื่องจากจะไปเส้นทางนั้นเช่นกันตอบไม่ยอมรับถึงแม้เขาจะดูเป็นคนดีหรือสุภาพขนาดไหนก็ตาม


แล่นนอกทางรีบถาม
การนั่งรถยนต์สาธารณะไม่ใช่การนั่งรถชมวิว คุณจำเป็นต้องสังเกตว่ารถออกนอกเส้นทางตั้งแต่เมื่อไร แต่ถามหรือทัดทานคนขับว่าจะไปทางไหน ถ้าหากให้คำตอบที่ทำให้ท่านยังไม่แน่ใจนักให้ผู้ขับจอดในที่ชุมชนแล้ววางแผนหารถต่อ ไปเองดียิ่งกว่าที่จะนั่งเสี่ยงโดยให้รถตู้พาไปไหนก็ไม่รู้เรื่อง


ผู้ขับเปลี่ยนเป็นผู้ร้าย
ถ้าเวลาผ่านไปคนขับฉีกหน้ากากออกกลายเป็ยคนร้ายที่มุ่งต่อชีวิตรวมทั้งทรัพย์สินคุณ ให้รีบเปิดหน้าต่างแผดเสียงขอความช่วยเหลือ และก็สร้างสถานการณ์ให้มีพิรุธเป็นจุดสนใจ เช่น ทิ้งกระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัวมาอย่างจงใจ ถ้าหากคนร้ายไม่หยุดรถยนต์ รอคอยจังหวะตอนติดไฟแดงหรือยามรถยนต์แล่นด้วยความเร็วไม่สูงนัก กระโจนเข้าบีบแตรรถยนต์ให้ดัง ถ้าประตูเปิดได้ให้เกลือกตัวลงมาแบบเก็บคองอเข่า หรือปีนหน้าต่างออกมาให้เร็วที่สุด

ขอบคุณบทความจาก : [url=http://www.vancarforday.com/][url]http://www.vancarforday.com/[/url]

Tags : รถตู้ให้เช่า,รถตู้เช่า,รถตู้พร้อมคนขับ