Advertisement
เมื่อโรงหนังออนไลน์จะอยู่ในบ้าน ดูหนังชนโรงอย่างถูกตามกฎหมายในคุณภาพเดียวกัน จุดสร้างข้อคิดเห็นต่างของผู้กำกับระดับหัวแถว
เทคโนโลยีในวงการภาพยนตร์ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ่อยๆไม่ว่าจะเป็นในกระบวนการผลิต จำหน่าย หรือการรับชม ย้อนไปในปี 2011 คนทำหนัง 32 คน อย่าง ไมเคิล เบย์, แคธรีน บิเกโลว์, เจมส์ คาเมรอน, ไมเคิล มานน์, ท็อดด์ ฟิลลิปส์, แอนตวน ฟูควา, โรเบิร์ท เซเม็คคิส รวมทั้งกิแยร์โม เดล โตโร เคยร่วมเซ็นชื่อในจดหมายเปิดผนึกฮอลลีวูด เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลิกแผนการให้บริการภาพยนตร์ตามสั่ง (Video on Demand หรือ VOD) แบบพรีเมียม ซึ่งจะทำให้ได้เห็นหนังที่ฉายในโรงภาพยนตร์ ถูกส่งไปให้มองตามบ้านได้หลังจากเปิดตัวเพียงแค่ 60 วัน ในราคาเพียงแต่ 29.95 เหรียญ โดยพวกเขากล่าวถึงว่ารูปแบบทางธุรกิจอย่างงี้ ไม่มั่นคงและไม่สร้างประสบการณ์สำหรับเพื่อการชมภาพยนตร์ แล้วยังเชื่อเพราะ “อะไรที่ขายเพื่อดูด้วยราคาแค่ 30 เหรียญในวันนี้ จะกลายเป็นของลดราคาเหลือเพียง 9.99 เหรียญในเวลาไม่กี่ปี” ซึ่งทำให้เงินหลายๆพันล้านเหรียญสูญหายไป บรรดาโรงหนังออนไลน์ทั้งหลายจำเป็นต้องปิดตัวลง
ในปี 2011 ยูนิเวอร์แซลอุตสาหะลองวิธีการบางอย่างกับหนังออนไลน์เรื่อง Tower Heist ของเบน สติลเลอร์ ด้วยการให้สั่งไปดูถึงหน้าบ้านได้ในราคา 59.99 เหรียญ หลัง
ดูหนังใหม่เข้าโรงเพียงแค่ 3 สัปดาห์ แต่ว่าทางโรงหนังวินิจฉัยนจิตใจจะไม่ฉายดูหนังใหม่เรื่องนี้ ถ้าเกิดสตูดิโอยังเดินหน้าตามแผน ทำให้โปรเจ็คท์ต้องพับลงไป แต่มันก็ทำให้ความนึกคิดที่จะขายดูหนังชนโรงตามสั่งแบบพรีเมียมเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
และก็คนที่ยื่นมือเข้ามาทำให้ความนึกคิดที่ว่า ส่งประกายอีกครั้งก็ไม่ใช่คนไหนกัน ฌอน ปาร์เกอร์ ผู้ที่เคยสร้างเว็บไซต์แชร์เพลงแน็ปสเตอร์ แล้วก็ร่วมลงทุนสร้างเฟซบุ๊คในยุคแรกๆที่จัดตั้งขึ้นบริษัทใหม่ ที่ชื่อว่า เดอะ สครีนิง รูม (The Screening Room) ซึ่งมีคอนเส็ปท์คล้ายๆกับความพยายามที่เคยเกิดมาแล้ว แต่เวลานี้มากับความเอาจริงเอาจัง เอาจริงเอาจังยิ่งกว่า เมื่อเขาไปเจรจากับบรรดาสตูดิโอต่างๆในฮอลลีวูด เพื่อเสนอแผนงานสำหรับในการขายภาพยนตร์แบบสตรีมมิง ที่ผู้ใช้งานควรต้องซื้อกล่องในราคา 150 เหรียญก่อน แล้วก็กล่องนี้ก็จะทำให้พวกเขาเข้าถึงภาพยนตร์หัวข้อต่างๆเพื่อเช่าชมในวันเดียวกับที่หนังออนไลน์เข้าโรงฉายในราคาเรื่องละ 50 เหรียญ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งสองผ่าย สตูดิโอและก็ผู้ชม โดยทางเดอะ สครีนิง รูมจะให้สตูดิโอ 20 เหรียญจากค่าเช่าดูในราคา50 เหรียญ
นอกจากนั้นผู้ชมที่เช่าดูหนังชนโรงไปดู ก็จะได้บัตรชมภาพยนตร์ฟรี 2 ที่นั่ง เพื่อจะให้บรรดาผู้ครอบครองโรงหนังกระปรี้กระเปร่ากับบริการนี้ ที่ยังสร้างช่องทางให้ผู้ชมกลับมาในโรงหนังอีกรอบ
โดยบริษัทที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจังก็มี ยูนิเวอร์แซล, ฟ็อกซ์ แล้วก็โซนี นอกนั้นก็มีข่าวว่าทางเดอะ สครีนิง รูม ก็กำลังจะปิดการเจรจากับสถานีเอเอ็มซีสำเร็จ และถ้าหากพวกเขาทำสำเร็จจากที่ตั้งอกตั้งใจก็จะมีผลให้แปลงเป็นโครงข่ายภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยทันที แต่ว่าเอาเข้าจริงๆการให้บริการแบบงี้มันมีเหตุผลไหม?
ถ้าเกิดคุณลงเงินเป็นร้อยๆล้านเหรียญกั
ดูหนังชนโรง[/url]สักเรื่อง มันจะมีคุณค่าบางสิ่งในตัวภาพยนตร์ ที่พร้อมกันไปกับสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์สำหรับการชมภาพยนตร์ กับหนังของมาร์เวลเรื่องถัดไป หรือ Star Wars สิ่งเหล่านี้จะหายไป ถ้าเกิดคุณสั่งหนังมาชมผ่านจอทีวีด้านในภาย ไหนจะมีเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ทางเดอะ สครีนิง รูมจะย้ำว่า พวกเขามีเทคโนโลยีที่จัดการกับหัวข้อนี้ได้ แต่ว่ามันก็คงจะใช้เวลาไม่นานหรอกสำหรับพวกแฮ็คเกอร์ทั้งหลาย ที่จะหาทางเจาะเข้ามา
สำหรับผู้บริโภค นี่เป็นบริการที่น่าสนใจ ผู้ที่มีกล่อง แอปเปิล โทรทัศน์, เอ็กซ์บ็อกซ์, โครมแคสท์ หรือกระทั่งแล็ปท็อป การจ่ายเงินให้กับกล่องอะไรอีกสักกล่องไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วก็สำหรับคนที่มีครอบครัว ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าชมภาพยนตร์ที่บ้านในราคา 50 เหรียญ เป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าสมเหตุสมผล และดูเข้าท่ากว่าการพาเด็กๆไปที่โรงหนังจ่ายค่าตั๋วคนละ 12- 15 เหรียญ บวกกับค่าโน่น-โน่น-นี่ ไม่ว่าจะเป็นค่าของกิน, ค่าของว่าง และก็ค่าจอดรถยนต์ แล้วกับก๊วนเพื่อนฝูงๆมันก็มากกว่า ยิ่งกว่าขึ้นไปอีก ด้วยเหตุว่าพวกเขาบางทีอาจจะจ่ายแค่คนละ 5-10 เหรียญ แล้วไปสุมกันอยู่ที่บ้านของใครสักคนที่มีระบบระเบียบโฮมเธียเตอร์เริ่ดๆ
ในทางกลับกัน ตลอดเวลากว่าร้อยปีที่ล่วงเลยไป การไปดูภาพยนตร์ในโรงหนัง เป็นการไปสัมผัสกับความยอดเยี่ยมของ
ดูหนังชนโรงบนหน้าจอใหญ่ๆและให้ให้รางวัลกับคนทำงาน และยังเป็นอย่างกับการมีประสบการณ์ร่วมทางสังคม การค่อยๆทำลายสิ่งต่างๆเหล่านั้น จะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมในอนาคตแน่ๆถึงแม้ในช่วงเวลานี้บางทีอาจจะยังอาจจะบอกไม่ได้แจ่มแจ้งว่าจะมีอะไรบ้างก็ตาม
แล้วกับการเป็นงานศิลปะ ภาพยนตร์สมควรถูกฉายในโรงภาพยนตร์ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์สำหรับในการดูภาพยนตร์
กับแนวทางของเดอะ สครีนิง รูม คนจำนวนไม่น้อยบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่า บรรดาคนทำหนังคงคัดค้านกับความคิดนี้ แต่ว่าเอาเข้าในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นอย่างงั้นเสมอไป และไม่ใช่ทุกคน
มีรายงานข่าวสารว่า บรรดาคนมีชื่อเสียงขาใหญ่อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก, ปีเตอร์ แจ็คสัน, เจเจ เอบรามส์, ไบรอัน เกรเซอร์, มาร์ติน สกอร์เซซี, รอน โฮเวิร์ด และอีกหลายๆคน ต่างให้การสนับสนุนเดอะ สครีนีง รูม แล้วก็มีบางบุคคลที่ส่งเงินส่วนตัวเข้า เพื่อร่วมลงทุนแล้วด้วยซ้ำ งานนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ที่ได้เห็นคนทำดูหนังใหม่ให้การช่วยเหลือกับโปรเจ็คท์ที่จะทำลายประสบการณ์การชมภาพยนตร์ของผู้ชม และเปลี่ยนการไปชมภาพยนตร์ในโรงหนังให้แปลงเป็นขณะพิเศษ แม้กระนั้นก็อีกนั่นแหละ มีผู้ผลิตภาพยนตร์ปริมาณหนึ่งที่ไม่เคยสนเลยว่า หนังของพวกเขาจะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์หรือเปล่า ซึ่งตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ดูหนังชนโรงในกลุ่มนี้ก็คือ หนังออนไลน์เล็กๆที่การหาโรงฉายไม่ง่ายเทียบเท่าการที่โรงภาพยนตร์เพียรพยายามดึงคนมาดูหนังใหม่เหล่านี้ และก็บางทีอาจจะเลือกฉาย
หนังออนไลน์ใหญ่ๆที่ทำเงินทำทองให้ได้มากกว่าแทน
ทางเครือข่าวสารโรงภาพยนตร์ ยังไม่มีการแสดงความเห็นในเรื่องนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ว่าทางสถานีเอเอ็มซี ได้แสดงความพึงพอใจมาแล้วด้วยการพูดจากับเดอะ สครีนิง รูม บางโอกาสพวกเขาบางทีอาจจะเชื่อว่า คนดูยินดีที่จะจ่ายเงินก้อนหนึ่งแล้วอยู่กับบ้านเพื่อชม Batman v Superman: Dawn Of Justice มากกว่าจะไปที่โรงหนัง รวมทั้ง/หรือ บางครั้งพวกเขาก็แค่อาจจะอยากดูหนังผ่านเน็ต มิได้ต้องการประสบการณ์อะไรมากกว่านั้น แล้วก็หากภาพรวมของการดูภาพยนตร์แปรไปจริงๆโรงหนังออนไลน์อาจจะต้องพบกับภาวการณ์เหงาหงอยไปอีกนานยาวนานหลายปี โดยที่ไม่มีอัตราการเจริญเติบโตบ่งบอกถึง
จากเรื่อง เมื่อโรงหนังออนไลน์จะอยู่ในบ้าน ดูหนังชนโรงอย่างถูกกฎหมายในคุณภาพเดียวกัน โดย คุณลุงทอย คอลัมน์ สข้าปพิเศษ วารสารเอนเตอร์เทนฉบับที่ 1205 ปักษ์แรก ม.ย. 2559
หนังออนไลน์ ดูหนังใหม่ ดูหนังชนโรง :
https://www.2youhd.net/category/ ... %E0%B8%AB%E0%B8%A1/Tags : หนังออนไลน์,ดูหนังชนโรง
