Advertisement
เดี๋ยวนี้ เปิดเว็บไซต์ทีไร เราชอบมองเห็นแบนเนอร์หรือโฆษณาขายสินค้ามากไม่น้อยเลยทีเดียวล่อใจให้ช้อปเต็มไปหมด ประชาสัมพันธ์กลุ่มนี้มีตั้งแต่ว่าเว็บใหญ่ระดับห้างออนไลน์ ไปจนกระทั่งกระทู้ขายของตามกระดานข่าวสาร อยากช้อปอะไร เสิร์ชแป๊บ ก็พบทุกอย่างที่อยากได้กระทั่งแทบจะไม่ต้องเดินออกไปช้อคละเคล้าอกบ้านกันแล้ว ถ้าหากเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ก็จำเป็นต้องกล่าวว่า ตลาด อี-คอมเมิร์ซไทย นั้นก้าวมาไกลกระทั่งแทบคิดไม่ถึงทีเดียว ว่าแต่ “ไกล” ที่ว่า…มันเป็นแบบไหนกันล่ะ?
แล้วก็นี่เป็น 5 สิ่งน่าดึงดูดที่คุณอาจยังไม่รู้จักเกี่ยวกับตลาด อี-คอมเมิร์ซไทยจ้ะ
เริ่มอดออมวันนี้! Dealcha! Thailand Cashback Site
1. ETDA : เอ็ดด้า รู้จักยัง?
ทราบไว้ใช่ว่า ประเทศไทยมีสำนักงานปรับปรุงธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิคส์ (สพธอ.) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Electronic Transactions Development Agency (ETDA) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงไอซีครั้ง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานมหาชน ก่อตั้งเพื่อปรับปรุง เกื้อหนุน และส่งเสริม ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิคส์ของประเทศ ตลอดจนให้ข้อมูลรวมทั้งข้อเสนอในทุกด้าน ทั้งในส่วนของผู้ประกอบกิจการ (หรือถ้าหากย่อลงมาหน่อยก็เป็นผู้ขาย) และก็รวมถึงคนซื้อด้วย ข้อมูลเชิงสถิติที่มองเห็นในบทความนี้ก็ได้มาจากการเก็บรวบรวมแล้วก็คาดการณ์ของ ETDA ด้วยด้วยเหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใดกันแน่ในตลาด อี-คอมเมิร์ซ ก็ไม่สมควรพลาดที่จะแวะเข้าไปหาข้อมูลแล้วก็ติดตามข่าวสารจาก ETDA อยู่เสมอ เพื่อให้รู้ทันบุคคลอื่น แถมหน่วยงานนี้ยังตั้ง ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์การค้าขายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ไว้ด้วยนะ คนไหนกันแน่เผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการทำธุรกรรมออนไลน์สามารถร้องทุกข์ถึงที่เหมาะ
www.etda.or.th หรือสายด่วน 02-123-1223 ได้เลยค่ะ
2. Size does matter : คนไหนว่าขนาดไม่สำคัญ
ที่เราพูดถึงตลาด อี-คอมเมิร์ซไทย ว่าใหญ่ๆเนี่ย ลองเดามองมั้ยว่าใหญ่ขนาดไหน? เม็ดเงินระดับพันล้าน? หมื่นล้าน? ขอบอกว่าผิดไปเยอะเลยจ้ะ เนื่องจากว่าคาดการณ์มูลค่าตลาด อี-คอมเมิร์ซไทย ปี 2558 มีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.11 ล้านล้านบาท! ไม่ได้พิมพ์ผิดนะ มีคำว่าล้านสองครั้งจริงๆอีกทั้งขยายตัวสม่ำเสมอคิดเป็น 3.65% จากปีก่อนอีกด้วย
ตลาดค้าปลีก อี-คอมเมิร์ซไทย นับเป็นตลาดที่ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ (SEA) โดยในปี 2557 ตลาดของไทยมีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาทเลยทีเดียว เทียบกับตลาดขนาดรองลงไปอย่างมาเลเซีย (3 แสนล้านบาท), สิงคโปร์ (1 แสนล้านบาท), เวียดนาม (1 แสนล้านบาท) จะยิ่งเห็นชัดว่าตลาดไทยใหญ่ขนาดไหน
อย่างไรก็แล้วแต่ ตลาดขายปลีกออนไลน์ที่ว่าใหญ่สุดใน SEA เมื่อเทียบกับตลาดค้าปลีกโดยรวมของทั่วประเทศ ยังคิดเป็นแค่ 1% เพียงแค่นั้น! …ยังใหญ่แล้วก็ Strong กว่านี้ได้อีกมากมาย
3. Big 3 : 3 อุตสาหกรรมที่ราคาสูงสุด
ในปี 2558 อุตสาหกรรมที่ถูกคาดหวังว่าจะมีมูลค่าสูงสุด คือ อุตสาหกรรมบ้านพัก ด้วยราคากว่า 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 38.4% ของมูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซทั้งหมด…ก็ไม่น่าสนเท่ห์ใจนะคะ เนื่องจากว่าในตอนที่เราจะท่องเที่ยวพัก การเปรียบเทียบราคารวมทั้งความคุ้มราคาของที่พัก ทั้งเรื่องเกี่ยวกับการซื้อ เช่า หรือเข้าพัก สามารถทำผ่านอินเทอร์เนตได้เร็วทันใจกว่าขับรถเร่ร่อนๆไปดูเองทีละแห่งแน่ๆยิ่งหากเป็นสถานที่เที่ยวมีชื่อเสียงด้วยแล้ว การจองผ่านเว็บไซต์ต่างๆมักจะมีดีลดีๆที่หาไม่ได้จากการวอล์คอิน (walk-in) มาให้ซื้อกันอยู่เสมอๆด้วย
ส่วนอันดับสองคือ อุตสาหกรรมด้านที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 3.5 แสนล้านบาท หรือ 20.4% ต่อด้วยชั้นสามคือ อุตสาหกรรมค้าปลีกแล้วก็ส่ง 3.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 19% จ้ะ
เริ่มอดออมวันนี้! Dealcha! Thailand Cashback Site
4. Smartphone : ยุคทองของสมาร์ทโฟน
ตลาด อี-คอมเมิร์ซไทย เติบโตได้โดยตลอดก็ด้วยอาณิสงส์จากการทำศึกราคา ที่ผู้ขายแต่ละเจ้าโหมประโคมโปรโมชั่น sale กันสะบั้นหั่นแหลก จนทำให้คนซื้อมีผลิตภัณฑ์ราคาถูกให้เลือกช้อปมากมาย แต่ว่าที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็หนีไม่พ้นโครงสร้างพื้นฐานที่มีผลโดยตรงต่อตลาด อี-คอมเมิร์ซ โน่นคือ…ความเร็วของอินเทอร์เน็ต
ในตอนไม่กี่ปีข้างหลังมานี้ ความเร็วของอินเทอร์เน็ต อีกทั้งเน็ตบ้านและเน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่มีโครงข่ายที่ดีรวมทั้งเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโจน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและก็ท่องเน็ตได้รวดเร็วทันใจและราบรื่นขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นสมาร์ทโฟนที่เดี๋ยวนี้ได้แปลงเป็นช่องทางหลักสำหรับในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไปแล้ว เนื่องจากว่าคนไทยกว่า 77% นั้นใช้เน็ตผ่านมือถือ ยังไม่นับรวมแอปพลิเคชั่นมากมาย ที่ช่วยให้เราเข้าถึงผลิตภัณฑ์แล้วก็บริการได้นับไม่ถ้วนโดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ www อีกแล้ว
นี่ก็เลยเป็นยุคทองของโทรศัพท์เคลื่อนที่ และก็ดูท่าจะอยู่ต่อไปอีกนานเสียด้วยสิ
5. Mobile Payment : เมื่อเงินสดลดความสำคัญลง
ตลาดก้าวไปด้านหน้าแล้ว ผู้บริโภคผู้ขายก็จำเป็นต้องปรับนิสัยตาม ในสมัยเริ่มแรกของตลาด อี-คอมเมิร์ซในไทย พวกเรายังจำต้องถามหาเลขบัญชีกันให้ยุ่ง กว่าจะเช็คยอดได้ ไหนจึงควรคอยธนาคารเปิด แต่ว่าเดี๋ยวนี้ การชำระค่าผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการเจริญรุ่งเรืองไปมากกระทั่งเราเกือบจะไม่ต้องแตะเงินสดกันแล้ว
ในปี 2557 แนวทางการจ่ายเงินผ่าน อี-แบงก์กิ้ง (E-Banking) เป็นวิถีทางหลักซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 54.25% ตามมาด้วยการชำระผ่านบัตรเครดิตแล้วก็เดบิต 22.39%, จ่ายเงินผ่านมือถือ 14.53% รวมทั้งกระบวนการอื่นๆคิดเป็น 8.83%
จะมองเห็นได้ว่า ทั้ง 3 ช่องทางนี้ ล้วนเป็นวิธีการชำระเงินที่ทำให้พวกเราไม่ต้องถือเงินสดอีกต่อไป อย่าว่าแต่ว่าเดินไปแบงค์เลย จนกระทั่งเดินไปตู้ ATM ก็ไม่มีความสำคัญ ดังนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหลายเจ้าก็นำหน้าไปรออยู่แล้ว ด้วยการรับชำระเงินผ่านช่องทางดังที่กล่าวมาข้างต้น ที่เพิ่มความสบายสบายแล้วก็น่าสนใจใจให้ลูกค้า ด้วยการพ่วงโปรโมชั่นลด หรือสามารถรับคะแนนสะสมเพื่อใช้แลกของขวัญต่างๆได้มากมายค่ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
highperformancesites.comTags : highperformancesites,highperformancesites.com,http://highperformancesites.com
