Advertisement
[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]หากใครที่ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมทางการสหรัฐฯ จะต้องแบนสินค้าจาก [/color]
[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color]Huawei[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color][color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] ด้วย เราก็ต้องขอเท้าความย้อนกลับไปก่อนว่าในความเป็นจริงแล้วจีนและสหรัฐฯ นั้นมีปัญหาเรื่องการค้ากันมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงแบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน อย่าง [/color]
[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color]หัวเว่ย[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color][color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] ก็ติดร่างแหนี้ตามไปด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา [/color][color=#292b2c; font-family: arial, helvetica, sans-serif;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c; font-family: "arial" , "helvetica" , sans-serif]ประธานาธิบดี
'Donald Trump' ออกคำสั่งทางการบริหาร (Executive Order) โดยมีเนื้อหาครอบคลุมว่า [/color][color=#292b2c; font-family: arial, helvetica, sans-serif;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c; font-family: "arial" , "helvetica" , sans-serif]ห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันใช้อุปกรณ์สื่อสารของต่างชาติที่ "อาจ" เป็นภัยความมั่นคง อีกทั้ง Huawei ก็ถูกขึ้นบัญชีดำทางการค้า หรือ
Trade Blacklist เป็นที่เรียบร้อยแล
[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color]Google[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]'[/color][color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] พันธมิตรรายใหญ่ที่ทำธุรกิจกับ Huawei มาอย่างยาวนานก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวกับคำสั่งนี้แล้ว ซึ่งจะจำเป็นที่จะต้องทำตามและได้ระงับส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Hardware , Software และการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบให้กับผู้ใช้งานในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึง User ที่อยู่นอกประเทศจีนด้วย ทำให
[url=https://it-news2019.blogspot.com/search/label/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c;]โทรศัพท์มือถื[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] Huawei จะถูกจำกัดสิทธิ์ในการใช้งานระบบปฏิบัติการ [/color]'Android'[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] ไม่สามารถเข้าใช้งานบริการของ [/color]'กูเกิล'[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] ได้ อาทิ [/color]Chrome , Gmail , YouTube , Google Play Store[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c] และอื่น
AOSP (Android Open Source Project
) ที่เปิดเป็นโอเพนซอร์สให้สามารถนำเอาโค๊ดไปดัดแปลงเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันของตัวเองได้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ หากคำสั่งนี้ยังไม่มีผลต่อระบบปฏิบัติการและบริการต่างๆ ของ Google ทุกอย่างก็จะยังคงใช้งานได้ตามปกติ แต่หากเมื่อไหร่ที่คำสั่งนี้ได้รับการปฏิบัติ ก็มีแนวโน้มว่าแอปฯ และบริการต่างๆ จากกูเกิลจะหายไปจากเครื่อง ยกเว้นชาวจีนทั้งหลายที่ใช้โทรศัพท์มือถือ Huawei ทุกวันนี้ล้วนแต่ใช้ Application เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น เนื่องจากจีนเองก็ไม่ให้ใช้ Google เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ส่วนโทรศัพท์มือถือหัวเว่ยรุ่นเรือธงที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต อย่าง
Mate 30 Series ในช่วงปลายปีก็คงจะต้องติดตามว่าหัวเว่ยจะมีแผนรับมือกับการเหตุการ์ณนี้ต่อไปยังไง หรือกำหนดการเปิดตัวจะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ ส่วนผู้ใช้งานในประเทศไทยก็ขอให้รออัปเดตจากทาง Huawei ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
[color=#292b2c;" data-blogger-escaped-style="color: #292b2c]ที่มา : https://it-news2019.blogspot.com/2019/05/usa-banned-huawei.html[/color] คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
รีวิวมือถือTags : โทรศัพท์มือถือ samsung, แอปพลิเคชั่น