Advertisement
ไม่ว่าใครก็อยากเป็นคนหัวไวกันทั้งนั้น อ่านหนังสือวันละหลายชั่วโมงก็แล้ว แต่ว่าทำไมเกรดถึงยังไม่พุ่ง คะแนนยังอยู่เท่าเดิม แถมบางโอกาสก็ลืมรายละเอียดที่พึ่งอ่านไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว สาเหตุที่เป็นที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะอ่านหนังสือผิดแนวทางมาตลอดอย่างไรล่ะ ลองดู วิธีการอ่านหนังสือ ในบทความนี้ ที่จะช่วยให้การสอบครั้งหน้าคะแนนพุ่งกระฉูดกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย แบบเรียน
ติดตามเราได้ตามเว็บไซต์
หนังสือเรียน https://www.digitalreadings.com - 5 แนวทางการอ่านหนังสือ ที่ใครๆก็ทำได้!
อ่านทบทวนทุกครั้งหลังจบการศึกษา
การจะมีผลให้มีนิสัยชอบอ่านหนังสือนั้น ควรจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อน ดังเช่นการทบทวนสิ่งที่เรียนในทันทีหลังจากจบคาบ บางบุคคลเวลาเรียนเสร็จแล้วก็เก็บของลุกออกมาจากห้องโดยทันที ทำให้มิได้ทบทวนสิ่งที่เรียนให้เข้าใจเพิ่มมากขึ้น หนังสือ
แบบเรียน 
ลองเปรียบการอ่านหนังสือก่อนสอบหนึ่งวันเต็ม กับการทบทวนบทเรียนห้านาทีหลังสำเร็จการศึกษามองสิ ว่าอยากทำแบบไหนมากกว่ากัน การทบทวนบทเรียนนอกจากจะทำให้จำแม่นยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นเหตุให้รู้ดีว่าเรามีอะไรไม่รู้เรื่องในบทเรียนนี้อยู่บ้าง จะได้นำเนื้อหาที่ไม่เข้าใจไปถามอาจารย์นอกรอบ หนังสือเรียน
- ห้ามอ่านหนังสือจนดื่นดึก
อย่าเสียแรงอ่านหนังสือจนถึงดึกมากเลย เนื่องจากว่าพวกเราจะต้องทนง่วงหงาวหาวนอน อ่านหนังสือให้มันเสร็จๆได้รีบไปนอน การอ่านหนังสือแบบนั้นนอกเหนือจากการที่จะไม่ช่วยทำให้นึกออกแล้วยังเป็นเหตุให้เสียสุขภาพด้วย แนวทางที่ควรจะทำคือ ถ้าหากง่วงก็ไปนอน รีบนอนตั้งแต่ค่ำ แล้วชดเชยด้วยการตื่นให้เช้าขึ้น
ตอนเวลาเช้าตรู่เป็นตอนขณะที่จิตใจปลอดโปร่งที่สุด การอ่านหนังสือช่วงเช้าหนึ่งชั่วโมง มีประสิทธิภาพพอๆกับการอ่านหนังสือสองชั่วโมงตอนค่ำ ด้วยเหตุดังกล่าวการอ่านหนังสือแบบตลอดวันตลอดคืนจึงเป็นวิธีที่ผิด แม้คิดจะเรียนให้เก่งต้องนอนแต่ว่าหัวค่ำ และก็ตื่นมาอ่านหนังสือช่วงเวลาเช้าตรู่
- อ่านแล้วทดสอบด้วย
วิธีเรียนจำพวกอ่านทวนเป็นที่นิยมมากมาย แม้กระนั้นการอ่านเฉยๆไม่ใช่แนวทางที่มีคุณภาพนัก คนภายในยุคนี้ถูกใจใช้วิธีอ่านๆท่องๆไปเรื่อยแต่ว่าอยากให้ลองทดลองตัวเองบ่อยมากด้วย อย่างเช่น
ถ้าหากท่องศัพท์ก็ควรจะท่องและทดลองสอบเป็นระยะ อย่าแค่ท่องจำเฉยๆ เพราะการทดลองจะช่วยทำให้พวกเราทราบว่าพลาดหรือเปล่ารู้เรื่องตรงไหน จะได้ทบทวนและก็ทำความเข้าใจเสริมเติมก่อนจะทดสอบซ้ำ ย้อนขั้นตอนการเดิมไปเรื่อยวิธีการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องน่าเบื่อ เพราะแทบจะไม่ได้ใช้สมองเลย การทราบว่าเราไม่เข้าใจที่ไหนนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของการเล่าเรียนที่มีคุณภาพ
- อ่านแล้วเขียนไปด้วย
แนะนำให้ทุกคนตระเตรียมปากกาใส่กระเป๋าเอาไว้ 3 สีร่วมกันคือสีน้ำเงิน สีแดง และสีดำ หากซื้อแบบมี 3 สีในแท่งเดียวก็จะดีมาก เพราะว่าเป็นการย่นเวลาด้วย และสามารถแบ่งอีกทั้ง 3 สีออกเป็น 3 หน้าที่ดังนี้
ปากกาแดง : ใช้กับรายละเอียดสำคัญ เขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่
ปากกาดำ : เขียนเมื่อเจอรายละเอียดที่ไม่รู้เรื่อง
ปากกาน้ำเงิน : ไว้จดเนื้อหาทั่วๆไป
เมื่อถึงเวลาสอบ เพียงแค่เปิดสมุดโน้ตแล้วอ่านเฉพาะสีแดงก็ช่วยเพิ่มคะแนนได้แล้ว ส่วนสีดำก็อ่านเพื่อทำความเข้าใจจุดบกพร่องอีกครั้งหนึ่งให้แม่นยำยิ่งขึ้น
- อ่าน พูด เขียน -
เริ่มจากอ่านก่อน อย่าเพิ่งจะเขียน เนื้อหานั้นควรยาวพอที่จะเขียนได้สักหนึ่งหน้ากระดาษ หรือครึ่งหน้ากระดาษก็ได้ ถ้าเกิดปริมาณเยอะเกินไปจะเบื่อเสียก่อน หลังจากเลือกเนื้อหาที่อยากได้ฝึกฝนได้รวมทั้งมากระทำตาม 4 ข้อนี้กันเลย
1. อ่านหนังสืออย่างตั้งใจ ขีดเส้นใต้ข้อความสำคัญ
2. อธิบายปากเปล่าถึงสิ่งที่อ่านให้ผู้อื่นฟัง ห้ามดูหนังสือ
3. เขียนรายละเอียดนั้นลงกระดาษ ห้ามดูหนังสือ
4. ถ้าเกิดยังจำไม่ได้ ให้กลับไปทำข้อ 1-3 ใหม่อีกครั้ง
วิธีอ่าน พูด และเขียน จะมีผลให้เราได้ใช้ตา ปาก หู มือ แล้วก็สมองทั้งสองก้อน ประสิทธิภาพของการท่องวิธีนี้จึงเห็นผลมากยิ่งกว่าแนวทางอื่น
แหล่งที่มา บทความ
หนังสือเรียน https://www.digitalreadings.comTags : หนังสือเรียน,แบบเรียน
