วิธีการลงทุนสไตล์ พนักงานประจำ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการลงทุนสไตล์ พนักงานประจำ  (อ่าน 28 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Saiswatka
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22027


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 01:51:55 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ชีวิตคนเราเงินเดือนที่มีรายได้จำกัด แม้จะมั่นใจได้ว่าจะมีเงินเข้ามาทุกๆเดือน แต่ว่าก็ไม่มีอะไรจะยืนยันได้ว่าอาชีพที่ทำอยู่นั้นจะจีรังยั่งยืน เมื่อมีเงินเก็บสักก้อน ก็รู้สึกว่าจะนำไปลงทุนกับอะไรดีให้มันงอกงาม เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต พวกเรามาดูกันดีกว่าว่ามีการลงทุนแบบไหนบ้างที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน
 
 การลงทุน
 เมื่อพูดถึงการลงทุน แน่นอนว่าคุณจะต้องมีเงินเก็บออมอยู่บ้างแล้วสักส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งเป็น คุณสามารถจัดระบบรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนได้อย่างแจ่มแจ้ง ดังเช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่ากิน ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ฯ และส่วนที่เหลือเป็นเงินออม หรือบางบุคคลบางทีอาจตั้งเป้าเงินออมแต่ละเดือนไว้เลยก็ได้ยกตัวอย่างเช่น 10% ของรายได้ แม้ส่วนไหนไม่พอใช้ก็จำต้องออมเอา ซึ่งเมื่อได้เงินออมมาและจากนั้นก็ต้องการจะนำมาลงทุนเพื่อเงินเพิ่มพูน บางบุคคลบางทีอาจไปลงทุนในธุรกิจที่น่าดึงดูด เล่นหุ้นออนไลน์หรือลงทุนค้าขายหาเงินเสริม แต่ว่าก็มีคนไม่ใช่น้อยที่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่กล้าที่จะเสี่ยงมากสักเท่าไรนัก จึงอยากจะหาการลงทุนที่ให้เงินปฏิบัติงานแล้วก็มีคนช่วยดูแลแนะนำให้ อย่างการเล่นหุ้น หรือซื้อกองทุนรวมต่างๆมาดูกันเลยดีกว่าว่ามีการลงทุนแบบไหนที่ใช่สำหรับพนักงานประจำบ้าง
 
 1. ฝากประจำ / กองทุนรวมตลาดเงินตราหรือตราสารหนี้ระยะสั้น
 การลงทุนลักษณะนี้มีการเสี่ยงต่ำ เหมาะกับคนที่พึ่งเริ่มออมเงิน แล้วก็ยังไม่มีความรู้ในการลงทุนเท่าไรนัก เหมือนการฝากประจำทุกๆเดือนเสมอกันเป็นการสร้างระเบียบทางการเงินไปในตัว กรรมวิธีก็ง่ายดายมากเพียงแต่ตัดบัญชีธนาคาร (บัญชีค่าจ้างรายเดือน) ในทุกๆเดือน เพื่อสะสมไปเรื่อยๆ โดยมี 2 กรุ๊ปที่ต้องการจะชี้แนะ นั่นเป็น เงินฝากประจำปลอดภาษี กับ กองทุนรวมตลาดเงินตราหรือตราสารหนี้ระยะสั้น ได้แก่ เงินฝากประจำ KRUNGTHAI ZERO TAX MAX รวมทั้งกองทุนกรุงไทยสะสมสมบัติพัสถาน (KTSS) ฯลฯ
 
 2. กองทุนสำรองดำรงชีวิต / กบข.
 ตัวนี้เป็นการลงทุนที่พนักงานประจำทุกจึงควรทำ! สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีสวัสดิการ “กองทุนสำรองดำรงชีพ” ไว้ให้ เพื่อให้พนักงานออมเงินและก็จะมีผู้จัดการกองทุนนำไปลงทุนให้เพิ่มพูนให้ โดยกองทุนกลุ่มนี้มีเพื่อให้คุณมีคิดเงินไว้ใช้ในยามเกษียณนั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคุณสามารถเลือกสะสมเข้ากองทุนสำรองดำรงชีวิตได้ตั้งแต่ 2-15% (ส่วนนายจะสมทบมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของบริษัทนั้นๆ) ซึ่งเสนอแนะว่าให้ตัด % ที่มากที่สุดเท่าที่จ่ายไหว เพื่อเป็นการสร้างระเบียบในการออมเงิน เพราะเหตุว่าเงินก้อนนี้คุณหมดสิทธิ์ใช้แน่นอนเพราะจะโดนตัดเข้ากองทุนก่อนเงินเดือนออก
 
 3. สหกรณ์ออมทรัพย์
 แม้ที่ทำงานของคุณมีสหกรณ์ออมทรัพย์ วิธีการสำหรับเลือกซื้อสะสมหุ้นของสหกรณ์ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่น่าดึงดูด โดยผลตอบแทนที่ได้รับนั้นจะมาจากเงินโบนัสในแต่ละปี ซึ่งอัตราผลตอบแทนนั้นดีมากยิ่งกว่าเงินฝากธนาคารและก็กองทุนรวมตราสารหนี้แน่ๆ สิ่งที่แต่ว่าจะต้องรอตรวจตราการจัดการงานและการจัดการสหกรณ์ของสถานที่สำหรับทำงานด้วยว่า ดีมากแค่ไหน มีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า เพื่อจะได้ลงทุนโดยสวัสดิภาพเพราะว่าถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงพอสมควร
 
 4. กองทุนรวม
 สำหรับในการซื้อกองทุนรวมจะขอเน้นไปที่กองทุนที่มีการเสี่ยงมากเพิ่มขึ้นกว่ากองทุนรวมในข้อแรกพวกกองทุนรวมตลาดเงินตราหรือตราสารหนี้ระยะสั้น เนื่องจากแบบนั้นเสี่ยงน้อยแต่ผลตอบแทนก็น้อยเหมือนกัน แต่ข้อนี้จะพูดถึงกองทุนรวมที่มีการเสี่ยงตั้งแต่ระดับที่ 4 ขึ้นไป ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้แล้วก็ผลตอบแทนที่ปรารถนาของแต่ละคนประกอบกัน ซึ่งกองทุนรวมที่ต้องการแนะนำตัวอย่างเช่น
 
 กองทุนรวม เป็นอย่างไร
 กองทุนรวมก็คือการนำเงินของนักลงทุนมารวมกัน เพื่อเอาเงินพวกนั้นไปลงทุนใน ทรัพย์สิน หรือตราสารต่างๆเมื่อกำเนิด ผลกำไรสะสม หรือ ขาดทุน ก็จะมาเฉลี่ยชำระคืนตามสัดส่วนให้กับนักลงทุน
 
 นักลงทุนควรจะรู้ – 8 ระดับการเสี่ยงกองทุนรวมแต่ละประเภท
 1. กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี โดยจะลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง หรือตราสารด้านการเงินในประเทศ ที่แก่สั้นไม่เกิน 1 ปี เป็นกองทุนที่มีการเสี่ยงน้อยที่สุด แล้วก็มีโอกาสผิดนัด ใช้หนี้ใช้สินน้อย
 2. กองทุนรวมตลาดเงินต่างถิ่น เป็นการนำเงินจากกองทุนประเภทแรกไปลงทุนในตลาดเมืองนอกบางส่วน ทำให้มีการเสี่ยงมากขึ้น แต่ว่าเหตุเพราะยังคงเน้นย้ำลงทุนในตราสารระยะสั้น ทำให้มีความเสี่ยงในระดับที่ต่ำ
 3. กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล ช่วงเวลามากยิ่งกว่า 1 ปี การเสี่ยงมากขึ้นจากช่วงอายุของพันธบัตรที่มีความมากมายหลากหลาย จึงคือเรื่องของ Maturity Risk หรือการครบกำหนดอายุของตราสาร
 4. กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือ หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ แล้วก็หุ้นกู้เอกชน มีดอกเบี้ยสูง แต่การเสี่ยงก็สูงตาม ซึ่งความเสี่ยง Credit Rating หรือการจัดอันดับความน่าไว้ใจเข้ามาเกี่ยวโยงด้วย
 5. กองทุนรวมผสมระหว่างตราสารหนี้ กับ ตราสารทุน (หุ้น) มีการเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนที่รับการเสี่ยงได้ระดับปานกลาง
 6. กองทุนรวมตราสารทุน ซึ่งมีความเสี่ยงใกล้เคียงกับการลงทุนในหุ้นโดยตรง ซึ่งเป็นกองทุนที่มีการเสี่ยงในระดับที่สูง
 7. กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม ย้ำการลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Sector Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนหุ้นทั่วไป เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเฉพาะใน Sector ที่กำหนดเอาไว้เพียงแค่นั้น
 8. กองทุนรวมทางเลือก อาทิเช่น ทอง น้ำมัน หรือสินทรัพย์เสี่ยง ที่มีความซับซ้อน ซึ่งนักลงทุนควรจะมีความรู้ความเข้าใจในตลาดทุน
 
 KTSTPLUS-A – กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส – Class A
 ระดับความเสี่ยงกองทุน 4
 เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายเน้นย้ำการลงทุนในหลักทรัพย์หรือเงินที่เสนอขายทั้งยังใน รวมทั้งต่างถิ่น โดยจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝากหรือตราสารเท่ากันเงินฝาก และก็/หรือตราสารทางด้านการเงิน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนที่มีนโยบายสอดคล้องกับกองทุนฯ โดยกองทุนบางทีอาจพิจารณาการนำเงินไปลงทุนในเมืองนอกได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายที่จะจัดแจงลงทุนเพื่อให้ Portfolio Duration เฉลี่ยของตราสารทั้งหมดทั้งปวงของกองทุนไม่เกิน 1 ปี โดยประมาณ
 
 ไม่มีปันผล ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุนแล้วก็แนวทางการขายคืนหน่วยลงทุน สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านระบบ KTAM SMART TRADE ได้ทางออนไลน์ ช่วงเวลาการรับเงินเมื่อขายหุ้นคืนกองทุนคือ 24 ชั่วโมง
 ▪ ค่าธรรมเนียมการจัดการไม่เกิน 2.00% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลตอบแทนไม่เกิน 0.07% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนไม่เกิน 0.50% ต่อปี1
 
 RMF1 – กองทุนเปิดกรุงไทยผสมเพื่อการดำรงชีพ (RMF 1)
 ระดับความเสี่ยงกองทุน 5
 เป็นกองทุนรวมที่กระจายเงินลงทุนไปลงทุนในตราสารที่ทุน ตราสารแห่งหนี้ เงินออมหรือทรัพย์สินอื่น โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ในแต่ละขณะตามที่ที่ทำการ ก.ล.ต.ระบุหรือมีความคิดเห็นถูกใจให้ลงทุนได้
 ไม่มีปันผล กำหนดอย่างต่ำในการซื้อหน่วยลงทุนและก็วิธีขายคืนหน่วยลงทุนที่ 500 บาทสามารถจำหน่ายผ่านระบบ KTAM SMART TRADE ได้ทางออนไลน์ ระยะเวลาการรับเงินเมื่อขายหุ้นคืนกองทุนเป็น 3 วัน
 ▪ ค่าธรรมเนียมการจัดการไม่เกิน 1.50% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ไม่เกิน 0.0725% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนไม่เกิน 0.12% ต่อปี1
 
 KTLF – กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว
 ระดับการเสี่ยงกองทุน 6
 เป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญที่ลงทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีปัจจัยเบื้องต้นดีรวมทั้งหรือตราสารที่ทุน ซึ่งผลตอบแทนของตราสารดังที่กล่าวผ่านมาแล้วอ้างอิงกับผลตอบแทนของหุ้นหรือหุ้นกรุ๊ปของบริษัทจดทะเบียน แต่ไม่รวมการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสินค้าอ้างอิงเป็นหุ้น/ดัชนีตลาดหุ้นของบริษัทลงทะเบียน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าปริมาณร้อยละ 65 ของค่าเงินสุทธิของกองทุนรวม รวมทั้งลงทุนในตราสารแห่งหนี้และ/หรือเงินฝากตราสารครึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายสิ่งหลายอย่างจากที่ที่ทำการ ก.ล.ต. กำหนด ดังนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แล้วก็ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)
 
 มีเงินปันผลให้ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ระบุขั้นต่ำสำหรับในการซื้อหน่วยลงทุนและก็แนวทางการขายคืนหน่วยลงทุนที่ 500 บาทสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านระบบ KTAM SMART TRADE ได้ทางออนไลน์ ช่วงเวลาการรับเงินเมื่อขายหุ้นคืนกองทุนเป็น 3 วัน
 ▪ ค่าธรรมเนียมการจัดการไม่เกิน 1.50% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ไม่เกิน 0.08% ต่อปี1
 ▪ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุนไม่เกิน 0.12% ต่อปี1
 
 กองทุนรวม 2018
 มีกองทุนมากมายพร้อมให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนแก่คุณ
 ไม่ว่าจะซื้อ ขาย หรือเปลี่ยนกองทุน ก็ทำเป็นอย่างง่าย สะดวก และเร็ว ทันทุกเหตุการณ์ด้านการลงทุน ที่สามารถมั่นอกมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย กับบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนกองทุนผ่านช่องทางต่างๆ
 
 นักลงทุนควรจะทราบ – 5 ขั้นตอนลดความเสี่ยงก่อนลงทุน
 1. หาข้อมูลเพิ่มเติมที่ “ห้องเรียนนักลงทุนของ set.or.th” อย่าลงทุนตามกระแส
 2. เช็ค Fund Fact Sheet เพื่อดูกรยละเอียดกองทุนทุกหน
 3. กองทุนรวมเกรด A ควรมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ
 4. ทำความเข้าใจการจัดการความเสี่ยง
 5. จำเป็นต้องทราบดีว่าคนใดกันเป็นคนดูแลกองทุน
 
 คุณทราบไหม! วันนี้ KTB มีบริการ iBangking หรือ Mobile Banking ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ซึ่งจะมาเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกๆธุรกรรมการคลังของคุณ ง่ายๆผ่านมือถือ รวมถึงในประเด็นการลงทุนด้วย มาสรุปสิ่งที่ แอปฯ Krungthai NEXT ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องธุรกรรมการเงินดังนี้
 เช็กข้อมูลบัญชีธนาคาร ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินเข้า-ออก
 บริการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
 บริการเติมเงินมือถือรวมทั้งจ่ายบิลต่างๆ
 ชำระเงินกู้ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อ SME หรืออื่นๆ
 เช็กอัตราแลกเปลี่ยน แล้วก็แลกเงินต่างแดนถึง 10 สกุลเงินผ่านแอปฯ
 ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
 การลงทุนเป็นเรื่องที่ไม่ยาก จองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์
 Video Call ข้าราชการธนาคารให้ทำธุรกรรมทางด้านการเงินให้
 
 เพราะชีวิตมนุษย์เงินเดือนมองผิวเผินอาจดูเหมือนจะมั่นคง แต่อันที่จริงแล้วอนาคตข้างหน้านั้นไม่มีใครจะทราบได้ การรู้จักเก็บออมแล้วนำเงินมาลงทุนในลักษณะต่างๆนอกจากจะทำให้เงินของคุณเพิ่มพูนเพื่อเป็นประกันของชีวิตยามปลดเกษียณแล้ว ยังช่วยฝึกฝนวินัยสำหรับในการใช้เงินอีกด้วย ซึ่งผู้ใดกันแน่ถูกใจการลงทุนในรูปแบบไหนจะกองทุนรวม สหกรณ์ หรือฝากประจำ ก็ทดลองทำความเข้าใจกันไป อาจเริ่มจากการซื้อกองทุนที่มีการเสี่ยงต่ำ แล้วค่อยไล่ระดับเมื่อเข้าใจการซื้อหุ้นและการลงทุนมากขึ้นก็ได้ หรือถ้าหากมีข้อสงสัยต้องการข้อแนะนำหัวข้อการลงทุนหรือซื้อกองทุนรวม สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน ) โทร 0-2686-6100 ได้เลย

Tags : italy-museum,http://italy-museum.org



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ