Advertisement
อาจจะไม่มีอะไรน่าปวดหัวสำหรับเจ้าของสุนัขมากมายไปกว่าการที่นำหมาตัวใหม่เข้ามาในบ้านแล้วมีปัญหากับหมาตัวเก่าเจ้าถิ่นเดิมที่เคยอยู่มาก่อนจนกระทั่งมีเรื่องมีราวกีดกันไม่เว้นทุกวันอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ในตอนนี้เราจะมาแนะนำผู้ครอบครองมาดูวิธีแนะนำหมาตัวใหม่ให้แก่หมาตัวเก่าในบ้านเพื่อให้ทั้งสองสร้างมิตรกันแล้วก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบเงียบสุขโดยที่ไม่มีเรื่องเจ็บตัวกันนะ
ด้วยสัญชาตญาณตามธรรมชาติ เมื่อมีหมาตัวอื่นเข้ามาในบ้านที่สุนัขตัวเก่าอยู่ สุนัขตัวเก่าก็จะเกิดการหวงอาณาเขตมองว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังจะออกเดินทางมารุกล้ำพื้นที่โดยอัตโนมัติ
โดยเหตุนั้นแล้วเราก็เลยมีทริกง่ายๆสำหรับผู้ครอบครองท่านไหนที่มีน้องหมาตัวใหม่เข้ามาในบ้าน และก็เจ้าตูบตัวเก่าเจ้าถิ่นในบ้านนั้นมีลัษณะทิศทางว่าจะไม่ต้อนรับน้องหมาตัวใหม่ คุณเจ้าของทดลองเอาอย่างขั้นตอน 4 ขั้นตอนกล้วยๆดังนี้ยืนยันว่าทั้งคู่ตัวทั้งยังหน้าใหม่และเจ้าถิ่นสามารถอยู่กันได้ไม่มีปัญหาแน่ๆ
1. ให้นำสุนัขทั้งยัง 2 ตัวแยกกันอยู่กันคนละกรง หรือแบ่งแยกพื้นที่ 2 ส่วนในบ้านให้อีกทั้ง 2 ตัวไม่ได้พบกันหน้ากันก่อน
อันนี้เป็นแนวทางเพื่อลดความเครียดอีกทั้งเจ้าตูบหน้าใหม่รวมทั้งเจ้าถิ่นเดิมในการประจันหน้ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสุนัขอยู่ในกรงก็จะรู้สึกไม่เป็นอันตรายมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุว่าราวกับว่ามีเกราะกำบังอยู่ การที่ให้หมาไม่ต้องเห็นอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีข้อดีสองประการคือจะก่อให้หมาไม่ต้องตึงเครียดกับอิริยาบถและก็สายตาของอีกฝ่ายซึ่งบางทีอาจเป็นชนวนให้เหม็นหน้าหรือเหม็นขี้หน้ากันได้ และก็ประการลำดับที่สองเป็นแม้จะมองไม่เห็นหน้ากันแม้กระนั้นหมาก็ยังได้กลิ่นกันรวมทั้งเริ่มรับรู้ว่ามีสมาชิกตัวอื่นอยู่ในบ้านของพวกเราในช่วงเวลานี้แล้ว แล้วต่อจากนั้นให้ทดลองเอาผ้าที่มีไว้เพื่อห่มหรือของเด็กเล่นใส่เข้าไปในกรงของแต่ละข้างจากนั้นก็นำมาสลับกัน กลิ่นที่ติดอยู่บนผ้าที่มีไว้สำหรับห่มรวมทั้งของเล่นนั้นจะทำให้สุนัขทั้งคู่ตัวเริ่มเคยชินกันเยอะขึ้นเรื่อยๆและก็ลดระดับการตั้งแง่หรือดูอีกข้างเป็นศัตรูลดลง
2. เบาๆปล่อยให้หมาตัวใหม่เดินตรวจสอบบ้าน
เมื่อผ่านขั้นแรกมาแล้วให้ทดลองปลดปล่อยหมาตัวใหม่เดินตรวจสอบบ้านแล้วก็สมาชิกภายในบ้าน โดยในระหว่างนั้นหมาตัวเก่าควรอยู่ในการควบคุมของเจ้าของไม่ให้ไปกัดหรือทำร้ายตัวใหม่ได้ โดยอาจให้อยู่ข้างในห้องส่วนตัวที่ปิดประตูมิดชิดซักพัก ในระหว่างการให้เจ้าตูบตัวใหม่สำรวจบ้านนั้นเจ้าตูบก็จะค่อยๆทิ้งกลิ่นไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้เมื่อเราแยกสุนัขตัวใหม่กับตัวเก่าออกมาจากกันไปอยู่คนละที่อย่างเดิม กลิ่นของเจ้าตูบตัวใหม่จะผสมกับกลิ่นของน้องหมาตัวเก่าทำให้เจ้าตูบตัวเก่ารู้สึกเป็นมิตรและก็รู้จักกับอีกฝายมากขึ้นเรื่อยๆ
3. ให้เจ้าตูบตัวเก่าได้ตรวจบ้านแทนบ้าง
ขั้นตอนต่อไปเป็นสลับกับขั้นตอนที่แล้วคือให้เจ้าตูบตัวใหม่อยู่สำหรับในการควบคุมของผู้ครอบครอง แล้วปลดปล่อยให้เจ้าตูบตัวเก่าได้ลองตรวจบ้านแทนบ้าง ตามธรรมชาติเจ้าตูบตัวเก่าก็จะไปสูดดมๆตามพื้นบ้านที่มีกลิ่นของเจ้าตูบตัวใหม่ปนเปอยู่ บางทีน้องหมาตัวเก่าบางครั้งก็อาจจะงงงันหรือวิตกกังวลว่าพื้นที่ถูกละเมิดโดยสุนัขแปลกหน้า นี้ก็อาจจะเป็นหน้าที่เจ้าของที่จึงควรเอาอกเอาใจน้องหมาตัวเก่าเสียหน่อย โดยอาจกอด คลำหัว คอยอยุ่ข้างๆจนเขาเริ่มเคยชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ทีละนิดๆไปเอง
และก็ถ้าหากจะให้เห็นผลเร็ว ควรปลดปล่อยให้สุนัขตัวเก่าออกมาจากกรงวันละหลายๆครั้งเพื่อตรวจในบ้านและรู้จักกลิ่นของเจ้าตูบตัวใหม่เร็วยิ่งขึ้น โดยบางทีอาจทำสลับกันเมื่อให้เจ้าตูบตัวใหม่ไปแล้วก็ปล่อยตัวเก่ามาได้เลย ยิ่งทำบ่อยเยอะแค่ไหนเจ้าตูบก็ยิ่งคุ้นเคยกันเร็วมากขึ้นแค่นั้น
แล้วเมื่อไหร่ที่พวกเราจะทราบดีว่าน้องหมาตัวเก่าและตัวใหม่พร้อมประจันหน้ากันแล้วจริงๆอันนี้ก็มีแนวทางสังเกตง่ายๆเป็น ถ้าน้องหมาเริ่มไม่ตื่นเต้นกับการได้กลิ่นของอีกฝ่ายแล้วหรือเรียกง่ายๆว่าเริ่มเคยชินแล้วโน่นก็แปลว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะเจอหน้ากันแล้วนั่นเอง เอาล่ะ เราก็มาสู่ขั้นตอนต่อไปอันเป็นไคลแม็กซ์กันเลย
4. ประจันหน้ากัน ตาต่อตา ดวงใจต่อหัวใจ
เมื่อมีความเห็นว่าน้องหมาเก่าใหม่ทั้งสองตัวพร้อมที่จะเผชิญหน้ากันแล้วให้ทดลองนำเจ้าตูบทั้งสองตัวมาเจอหน้ากัน แต่ว่าประเดี๋ยวก่อน....อย่าพึ่งจะให้เจอะกันที่บ้านของตัวเราเองเนื่องจากว่าหมามักอ่อนไหวต่อเรื่องเขตแดนแล้วก็สถานที่ ให้ทดลองพาไปพบกันในสถานที่ที่เป็นกลางต่อทั้งสองฝ่าย ดังเช่น สวนสาธารณะใกล้ๆหรือสวนในหมู่บ้านก่อน
ทีแรกๆอาจให้สุนัขตัวเก่าได้ไปสำรวจพื้นที่พบปะสนทนาเสียก่อน โดยมีสุนัขตัวใหม่อยู่ในรอบๆใกล้ๆที่มองเห็นได้ ต่อจากนั้นก็สลับกันเป็นปล่อยให้สุนัขตัวใหม่ไปตรวจสอบในตอนที่ให้หมาตัวเก่าออกมา หมาทั้งสองตัวก็จะเริ่มรู้จักดีกลิ่นกันลักษณะเดียวกันกับที่เคยพบเหตุการณ์คล้ายคลึงกันนี้ในบริเวณบ้าน หลังจากนั้นแล้วก็ค่อยๆให้ทั้งสองลองเจอหน้ากันทีแรก ซึ่งหลังจากที่รู้จักดีกลิ่นกันมาซักระยะแล้วส่วนใหญ่ก็จะไม่มีปัญหามีเรื่องกัน แต่ก็ไม่สมควรประมาทให้สุนัขอยู่ในสายจูงแล้วก็มีคนดูแลอย่างเข้มงวดทุกหน
แต่ว่าถ้าหากผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้สึกว่าขั้นตอนที่ 4 มองยุ่งยากเกินความจำเป็น บางทีก็อาจจะสามารถปรับเป็นสวนในบ้านแทนก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจำต้องดูจากภาวะนิสัยของสุนัขเป็นหลักเพราะว่าหากหมาไม่ดุมากแล้วก็มีท่าทีเป็นมิตรบางทีอาจจะเบาๆผ่อนระเบียบปฏิบัติลงได้ แต่ถ้าเกิดหมาดุและมีท่าทางนิสัยไม่ดีต่ออีกฝ่ายมากมายบางครั้งอาจจะจำต้องเอาอย่างขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
แนวทางการแนะนำตัวเจ้าตูบตัวใหม่กับเจ้าตูบตัวเก่าด้วยกลิ่นนั้นจะก่อให้น้องหมาทั้งตัวเก่าและตัวใหม่ไม่เครียด แล้วก็เบาๆรู้จักดีกับอีกข้างโดยอัตโนมัติเนื่องจากว่าสุนัขพึ่งพาประสาทการรู้กลิ่นเป็นหลักในธรรมชาติอยู่แล้ว และเพียงแต่นี้ปัญหาชวนปวดหัวอย่างเจ้าตูบตัวเก่าเกลียดเจ้าตูบตัวใหม่แล้วมีเรื่องมีราวกันก็ไม่ใช่ปัญหากวนโอ๊ยเหล่าคุณผู้ครอบครองอีกต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
montecitoskincareblogTags : montecitoskincareblog.com,http://www.montecitoskincareblog.com