Advertisement
การคลื่นไส้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในสุนัข บางครั้งบางคราวอาจเป็นอาการที่ร้ายแรง หรือเปล่ารุนแรงก็ได้ ซึ่งโดยมากชอบเกี่ยวโยงกับทางเดินอาหาร แม้กระนั้นบางทีการอ้วกก็มีเหตุที่เกิดจากต้นสายปลายเหตุอื่นๆก็ได้
ที่มาของการเกิดการอ้วก
ไส้และกระเพาะอักเสบ (gastroenteritis)
ทางเดินอาหารอุดตัน (intestinal obstruction)
แผลหลุมในกระเพาะ (gastric ulcers)
ภูมิคุ้มกันทำลายทางเดินอาหาร (Inflammatory bowel disease)
การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา หรือปรสิต
ได้รับสารพิษ
มะเร็งบางประเภท
โรคตับ
ตับอ่อนอักเสบ
โรคไต
โรคเบาหวาน
โรคแอดดิสัน (Addison’s disease)
ภูมิแพ้อาหาร
โรคของระบบประสาทแล้วก็การเลี้ยงตัว
ผลข้างเคียงจากยาบางประเภท
ภูมิแพ้ของกิน
สิ่งที่จะต้องสังเกตุ
อย่างแรกที่สำคัญคือเจ้าของต้องแน่ใจว่าอาการนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า “คลื่นไส้” จริงๆเพราะว่ามักมีการงงงวยระหว่างการ “อ้วก” (vomit) และก็การ “ขย้อน” (regurgitation) ซึ่งอาการคล้ายกันเพียงต้นเหตุต่างกัน การขย้อนนั้นมักมีต้นเหตุจากความผิดแปลกของหลอดของกิน เป็นหลอดของกินไม่อาจจะหดตัวเอาก้อนของกินลงไปยังลำไส้ได้ เมื่อหมากินอาหารเข้าไป ก็จะคายออกมาทันที โดยรูปแบบของอาหารที่ออกมาชอบเป็นทรงท่อ (tube-like shape) อาหารยังสดใหม่ ไม่มีการเช็ดกย่อย ไม่มีร่องรอยของน้ำย่อย และไม่มีการแสดงกริยาอะไรมากมาย เวลาที่การอ้วกนั้นต้องมีกระบวนท่า เป็น เริ่มอ้วก (nausea) มักจะมองเห็นอาการ เป็นต้นว่า น้ำลายไหลยืด เดินตุปัดตุเป๋หรือใจไม่ดี เลียปาก กลืนน้ำลาย ถัดมาจะออกอาการเกร็งและก็โก่งท้อง (retching) เป็นเป็นท่าทางของการเตรียมเอาอาหารออกมา และแสดงอาการอาเจียน (expulsion) ออกมาท้ายที่สุด อาหารมักจะพบว่ามีร่องรอยของสีน้ำดี (bile stain) เป็นสีเขียวๆหรือสีของน้ำย่อยในกระเพาะซึ่งเป็นสีเหลือง หรือบางทีอาจได้กลิ่นร่วมด้วย
เมื่อสุนัขคลื่นไส้ควรจะทำอย่างไร
เมื่อเกิดการคลื่นไส้ขึ้นสิ่งที่ผู้ครอบครองควรทำเป็นสังเกตุสิ่งต่างๆเพื่อเป็นข้อมูลให้สัตวแพทย์ ดังต่อไปนี้
ความถี่สำหรับในการอาเจียน
ลักษณะของการคลื่นไส้รวมถึงของกินที่ออกมา (ได้แก่ สีน้ำดี เลือดสดหรือเลือดดำ)
ลักษณะของการป่วย (เป็นก่อนหรือหลังอาเจียนไหม)
อาการท้องเดินร่วม
อาการปวดหรือเกร็ง
ต่อจากนั้นให้งดเว้นอาหารตรงเวลา 6-8 ชั่วโมง รวมทั้งสังเกตุอาการต่อไป ถ้าอาการสุนัขยังคงปกติให้ลองกินอาหารหรือน้ำในปริมาณน้อยดูซิ แต่ว่าถ้าหากอาการธรรมดาดีหลัง 12 ชั่วโมงแล้วบางทีอาจให้ป้อนอาหารตามปกติได้ ใช้เวลาโดยประมาณ 3 วันถ้าเกิดระหว่างนี้มีการอาเจียนเกิดขึ้นอีก ชี้แนะให้พามาเจอสัตวแพทย์โดยทันที
การวิเคราะห์แบ่ง
เนื่องมาจากต้นเหตุของการอ้วกมีจำนวนไม่ใช่น้อย สัตวแพทย์จะเริ่มจากแนวทางซักความเป็นมาอย่างรอบคอบในเรื่องที่ได้กล่าวมาข้างต้นเพื่อยุติปัญหาที่เป็นไปได้น้อยออกไปก่อน แต่ว่าบางทีก็อาจจะทำการตรวจอย่างอื่นเสริมเติม ตัวอย่างเช่น การพิสูจน์เลือด เพื่อดูความเปลี่ยนไปจากปกติของตับ ตับอ่อน ไต อื่นๆอีกมากมาย หรือการตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะดูลักษณะการทำงานของไตหรือโรคเบาหวาน การตรวจอุจจาระเพื่อหาการดีดเชื้อในไส้ รวมถึงบางทีอาจตรวจลึกเยอะขึ้นเรื่อยๆต่อไป เพื่อวินิจฉัยยืนยันให้ได้
การดูแลรักษา
การดูแลรักษาอาการอาเจียนสามารถใช้ยาลดอ้วกได้ แต่แม้กระนั้นถ้าเกิดสาเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่ถูกรักษาก็มักจะไม่ช่วยให้อาการอาเจียนดียิ่งขึ้น ดังนั้นก็เลยจำเป็นที่จะต้องรักษาต้นเหตุหลักร่วมด้วยเป็นหลัก
การคุ้มครองไม่ให้เกิดการคลื่นไส้ซ้ำอีกที
การเกิดการอ้วกในบางครั้งอาจไม่สามารถป้องกันให้ไม่กลับมาเป็นอีกได้ เจ้าของควรปฏิบัติตามข้อควรตรึกตรองดังต่อไปนี้
ไม่สมควรเปลี่ยนอาหารในทันที เพราะจะก่อให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน คือไม่สมารถปรับนิสัยย่อยกับอาหารประเภทใหม่ได้ ควรเบาๆเปลี่ยนแปลงจากเปอร์เซนต์น้อยๆจนกระทั่ง 100%
ไม่ควรให้อาหารห่างมื้อจนถึงเหลือเกิน ซึ่งก็คือ ควรจะให้อาหารหมาอย่างน้อยวันละสองมื้อ เพื่อลดปัญหาของการเกิดสภาวะกรดกัดกระเพาะ
ไม่ควรให้ของเล่นเด็กที่เคี้ยวหรือกลืนได้ เพราะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดการอุดตันของทางเดินอาหาร
ไม่ควรให้กระดูก ซึ่งเมื่อหมาเคี้ยวแล้วชอบกลายเป็นของมีคม รวมทั้งเมื่อกลืนก็จะไปบาดทางเดินอาหารได้
งดเว้นให้ของเหลือซึ่งเป็นของกินคน เพราของกินของคนบางทีอาจเป็นพิษต่อหมาได้ในบางครั้ง อย่างเช่น องุ่น ลูกเกด ช็อกโกแลต หัวหอม กระเทียม เป็นต้น
ไม่ปลดปล่อยให้หมาไปเลียของเปรอะเปื้อน เพื่อลดการรับเชื้อในทางเดินของกิน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
doremihostelTags : doremihostel,doremihostel.com
