โรคไลม์ (Lyme) ในสุนัข โรคร้ายจากเห็บ: ปัจจัย อาการ การดูแลรักษา

[suChompunuch]

Advertisement

โรคไลม์ (Lyme) จากตัวเห็บ
 โรคอันตรายในสุนัขที่มีเห็บกวางเป็นตัวนำโรค อาการของโรคในสุนัข เช่น จับไข้ เบื่ออาหาร ตัวเกร็งแข็ง และก็อื่นๆเรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโรคนี้รวมทั้งหาวิธีการป้องกันและรักษาได้จากเนื้อหานี้
 
 Lyme Borreliosis ในสุนัข
 โรคไลม์เป็นโรคที่มีเห็บเป็นตัวนำโรค โดยมีสาเหตุของโรคคือแบคทีเรียรูปร่างเกลียว (spirochete) ในกลุ่ม Borrelia burgdorferi อาการที่พบได้เป็นหลักเป็นขาเจ็บเหตุเพราะการอักเสบในข้อต่อ อาการอื่นๆซึ่งสามารถเจอได้ ได้แก่ เบื่อข้าว และซึม อาการแทรกอื่นๆซึ่งสามารถพบได้ ได้แก่ ไตเสียหาย และที่พบได้น้อยคือโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจแล้วก็ระบบประสาทโรคไตมีลัษณะทิศทางที่จะพบได้ทั่วไปในสุนัขพันธุ์ Labrador retrievers, Golden retrievers, Shetland sheepdogs และก็ Berneses Mountain dogs จากการทดลองพบว่าสุนัขอายุน้อยมีแนวโน้มที่จะไวต่อโรคไลม์มากกว่าสุนัขแก่ เจอรายงานการแพร่ของโรคในสุนัขทั่วประเทศอเมริกาและก็ยุโรปแต่ความชุกของโรคสูงในแถบตะวันตกตอนกลางของอเมริกา มหาสมุทรแอตแลนติกและรอบๆริมฝั่งของสมุทรแปซิฟิก
 
 ลักษณะของโรคในหมา
 หมาส่วนมากออกอาการเจ็บขาแบบเป็นๆหายๆเนื่องมาจากการอักเสบของข้อต่อ บางเวลาแสดงอาการเจ็บขานาน 3-4 วันและก็กลับมาเป็นอีกข้างใน 1-7 ครั้งหน้าจากลักษณะของการเจ็บขาหายไป ไม่ว่าจะเป็นขาเดิมหรือขาอื่นๆซึ่งเป็นอาการที่เรียกว่า “การเจ็บขาแบบเปลี่ยนแปลงขาไปเรื่อยๆ(shifting-leg lameness)” บางทีอาจเจอข้อต่อบวม ร้อน แล้วก็ปวดในข้อต่อเดียวหรือมากกว่านั้น
 
 หมาบางตัวบางทีอาจพัฒนาอาการของโรคไตบางทีทำให้ไตอักเสบรวมทั้งตามมาด้วยการทำงานที่แตกต่างจากปกติของหน่วยกรองข้างในไต ต่อจากนั้นสุนัขอาจมีปัญหาไตวาย โดยหมาจะแสดงอาการ ดังเช่น อ้วก ท้องร่วง ไม่มีความต้องการของกิน น้ำหนักลดน้อยลง ปัสสาวะมากขึ้นรวมทั้งกินน้ำมากและก็เจอการสั่งสมของของเหลวที่แตกต่างจากปกติ
 
 อาการอื่นที่พบได้
 เดินตัวแข็งและข้างหลังโก่ง
 ความรู้สึกไวต่อการสัมผัส
 หายใจไม่สะดวก
 เป็นไข้ ไม่มีความต้องการอาหาร แล้วก็ซึม
 ต่อมน้ำเหลืองโตในบริเวณที่ใกล้กับรอบๆที่ถูกเห็บกัด
 พบรายงานหัวใจดำเนินงานผิดปกติ แม้กระนั้นพบได้น้อยมาก
 ปัญหาเรื่องระบบประสาท (เจอน้อยมาก)
 สาเหตุของโรค
 แบคทีเรีย Borrelia burgodorferi เป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคไลม์แพร่ขยายโดยตัวเห็บแข็งในกวาง (Ixodes sp.) การได้รับเชื้อมักเกิดภายหลังจากถูกเห็บที่มีเชื้อเกาะดูดเลือดบนตัวหมาราว 2-3 วัน
 
 การวิเคราะห์โรค
 สัตวแพทย์จะทำซักประวัติความเป็นมาสุขภาพของสุนัขให้ละเอียด รวมทั้งอาการ และเรื่องต่างๆที่เกี่ยวโยงกับโรคความเป็นมาจะช่วยทำให้สัตวแพทย์ทราบดีว่าอวัยวะใดได้รับผลกระทบบ้างอาจมีการตรวจเลือดทั้งการตรวจนับเม็ดเลือดรวมทั้งการตรวจค่าต่างๆในเลือดตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะ ตรวจอุจจาระ เอ็กซเรย์ และก็ทดลองที่เฉพาะเจาะจงต่อโรคไลม์ (อาทิเช่นการตรวจทางซีรัมวิทยา) และก็ยังสามารถกระทำการตรวจพินิจพิจารณาของเหลวจากข้อต่อที่มีปัญหาได้
 
 ปัญหาข้อต่ออักเสบกำเนิดได้จากหลายกรณีซึ่งสัตวแพทย์จำเป็นที่จะต้องกระทำการแยกโรคไลม์ออกจากโรคอื่นๆที่ก่อเรื่องข้อต่ออักเสบ ได้แก่ การบาดเจ็บ โรคข้อต่อเสื่อม หรือ Osteochondrosis dissecans (OCD; เป็นโรคที่พบได้ในลูกสุนัขชนิดใหญ่ที่โตเร็ว) โรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาข้อต่ออักเสบได้การถ่ายรูปรังสีเอ็กซเรย์ในข้อต่อที่มีปัญหาจะช่วยให้สัตวแพทย์สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติของกระดูกได้
 
 การดูแลรักษา
 ภายหลังได้รับการวินิจฉัยแล้วสุนัขจะได้รับการดูแลรักษาและก็จะต้องพักในโรงหมอ เมื่อมีปัญหาสุขภาพย่ำแย่ (เป็นต้นว่า โรคไตรุนแรง) ยาdoxycycline เป็นยาปฏิชีวนะทั่วๆไปที่สัตวแพทย์มักจ่ายเพื่อรักษาโรค แม้กระนั้นยาอื่นๆก็มีให้ใช้และได้ประสิทธิภาพที่ดีเหมือนกัน ระยะเวลาการรักษาที่สัตวแพทย์ชี้แนะเป็น 4 อาทิตย์ แม้กระนั้นบางทีอาจจำต้องยืดการดูแลรักษาออกไปสำหรับการกรณี สัตวแพทย์จะทำการจ่ายยาลดการอักเสบ (ยาพารา) แม้จำเป็นต้องยาปฏิชีวนะไม่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคได้หมด อาการบางทีอาจหายไปและบางทีอาจกลับมาเป็นอีกได้ ควรจะระวังการพัฒนาของโรคไตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 
 การจัดการ
 ลักษณะการเจ็บขาจากข้อต่ออักเสบควรดีขึ้นภายใน 3-5 คราวหน้าจากหมาได้รับยาปฏิชีวนะ แม้อาการแย่ลงภายในช่วงระยะเวลา 5 วัน ควรจะพาสุนัขไปให้สัตวแพทย์ตรวจซ้ำ
 
 การคุ้มครองป้องกัน
 ถ้าหากเป็นไปได้ ควรเลี่ยงไม่ให้หมาเข้าไปเดินในที่ที่มีเห็บโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เจ้าของควรจะตรวจตรารอบๆขนและก็ผิวหนังของหมา และก็กระทำกำจัดเห็บจากตัวสุนัข สัตวแพทย์สามารถชี้แนะสินค้าสำหรับกำจัดเห็บหมัดอีกทั้งในแบบสเปรย์ปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่คอ รวมทั้งยาหยอดข้างหลัง ควรใช้สินค้าเหล่านี้ข้างในการดูแลของสัตวแพทย์แล้วก็เอาอย่างคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด มีวัคซีนสำหรับโรคนี้แต่ยังมีข้อโต้แย้งบางอย่างสำหรับเพื่อการทำวัคซีนอยู่ ด้วยเหตุดังกล่าวควรจะหารือสัตวแพทย์ก่อนที่จะทำวัคซีนโรคนี้ให้กับหมาของคุณ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : junespringtechnologies

Tags : junespringtechnologies.com,http://junespringtechnologies.com