แนวทางเลือกหน้ากาก N95

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางเลือกหน้ากาก N95  (อ่าน 5 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
diorarmani2000
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11666


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2020, 08:09:31 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หน้ากาก n95 แต่ละแบบต่างกันยังไง? ทราบก่อนเลือก เพื่อร่างกายที่แข็งแรง
ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ทำให้พลเมืองต้องสวมหน้ากากปกป้องฝุ่นละออง ซึ่งมีทั้งใส่หน้ากากสีเขียวธรรมดาที่พวกเรารู้จักดี แล้วก็หน้ากาก N95 ซึ่งนับว่าเป็นหน้ากากที่ได้รับการแนะนำว่ามีประสิทธิภาพคุ้มครองปกป้องฝุ่นละออง PM 2.5 เจริญที่สุด แต่หน้ากาก N95 ก็มีนานาประการแบบ แล้วแต่ละแบบอย่างมีความต่างกันอย่างไร ไปดูวิธีเลือกหน้ากาก แต่ละแบบกัน
 
หน้ากากธรรมดา VS หน้ากาก N95
หลายท่านคงจะทราบแล้วว่าหน้ากากปกติ (Face mask) ที่พวกเราเห็นได้ทั่วๆไปตามโรงพยาบาลนั้นไม่สามารถที่จะคุ้มครองปกป้องฝุ่นผงขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่พวกเรากำลังพบเจอได้ แต่บางคนอาจยังไม่รู้จักว่าเพราะอะไรก็เลยเป็นเช่นนั้น
 
มูลเหตุที่หน้ากากปกติไม่สามารถป้องกันฝุ่นผง PM 2.5 ได้ ด้วยเหตุว่า
แผ่นกรองของหน้ากากปกติ มีความละเอียดไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองปกป้องฝุ่นละออง PM 2.5 (จากการทดสอบของหลายๆแหล่งบอกว่า สามารถป้องกันได้โดยประมาณ 60-70% เท่านั้น) ขณะที่หน้ากาก N95 ผลิตขึ้นจากเส้นใยพิเศษที่สามารถกรองฝุ่นหรือเชื้อโรคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอนได้ ทำให้คุ้มครองป้องกันฝุ่นผงขนาด PM 2.5 ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่า โดยปกป้องได้อย่างต่ำ 95%
หน้ากากปกติ ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องการฟุ้งกระจายละอองจาก “เพศผู้ใส่” อาทิเช่น ไอ จาม เชื้อโรค ไม่ให้กระจัดกระจายสู่ข้างนอก มิได้ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองปกป้องการสูดหายใจเข้า จึงมิได้ดีไซน์ให้ปกคลุมมิดชิด (สังเกตได้อย่างง่ายๆว่าเวลาพวกเราใส่หน้ากากปกติ พวกเรายังคิดว่ามีลมผ่านบริเวณรอบๆหน้ากากได้อยู่)
เวลาที่หน้ากาก N95 จะมีการดีไซน์ที่ปกคลุมมิดชิดมากกว่า ก็เลยสามารถปกป้องเชื้อโรค ฝุ่นผง สิ่งปนเปื้อนขนาดเล็ก ไม่ให้ไปสู่ร่างกายได้ แม้กระนั้นหน้ากาก N95 ก็มีให้เลือกใช้นานัปการแบบอย่าง โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ต้นแบบหลักๆดังนี้
 
Cup Shape
หน้ากากรุ่นคลาสสิกที่มีคนใช้กันค่อนข้างจะมาก หน้ากากลักษณะนี้เป็นหน้ากากที่อาจรูป ค่อนข้างจะแข็ง กระชับ แนบสนิทกับใบหน้า
 
จุดเด่น เป็น กระชับแน่นหนา สามารถคุ้มครองป้องกันฝุ่นผงละทดลอง PM 2.5 ได้แน่ๆ (แม้ใส่ถูกแนวทาง) เวลาหายใจหน้ากากจะไม่ยุบเข้าออก ไม่สัมผัสกับใบหน้าให้รู้สึกอารมณ์เสียหรือระคายเคือง
ข้อตำหนิ คือ รักษาตรากตรำ เนื่องจากว่าไม่สามารถพับเก็บได้ หน้ากากกระชับมากมาย อาจก่อให้อึดอัด ใส่ได้ไม่นาน ทำให้หายใจออกจะตรากตรำ ควรใส่เฉพาะขณะที่อยู่ที่โล่งแจ้ง จะต้องพบเจอฝุ่นละอองไม่น้อยเลยทีเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดเข้ามาด้านในอาคารแล้วควรถอดออก
2-Panel Flat-fold
ลักษณะที่คล้ายกับ Cup Shape แม้กระนั้นจะเป็นแบบครึ่งอาจจะรูป เนื้อสัมผัสจะเบากว่า
 
จุดเด่น เป็น เข้ากับรูปหน้าของเราได้มากกว่า ยืดหยุ่นและก็สวมใส่สบายกว่าแบบ Cup Shape รวมทั้งสามารถพับเก็บได้
จุดอ่อน เป็น ถ้าเกิดใส่ผิดวิธี หละหลวมเกินความจำเป็น อาจมีช่องที่ทำให้ฝุ่นละอองเล็ดลอดเข้าไปได้ แล้วก็เวลาหายใจเข้าออก บางทีอาจมีความคิดว่าหน้ากากสัมผัสกับใบหน้าบางส่วน ทำให้รู้สึกอารมณ์เสียหรือระคายเคืองได้
V-Flex
อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม (รูปพรรณสัณฐานอาจจะผิดตาสักนิด) เป็นหน้ากากที่ไม่ได้มีรูปร่างคงตัว ปกปิดมิดชิด สามารถโค้งรับไปกับใบหน้าได้
 
จุดเด่น คือ ใส่สบาย ไม่บีบรัดหน้า ที่สำคัญสามารถพับเก็บได้ นำพาสะดวก
ข้อตำหนิ เป็น ถ้าหากใส่ผิดวิธี หลวมเกินความจำเป็น อาจมีช่องที่ทำให้ฝุ่นผงเล็ดลอดเข้าไปได้ และด้วยเหตุว่าเป็นหน้ากากที่ไม่ได้มีรูปร่างคงตัว ทำให้เวลาหายใจเข้าและก็หายใจออก หน้ากากจะสัมผัสกับบริเวณใบหน้าค่อนข้างจะบ่อยครั้ง แล้วก็มีหลายๆรีวิวกล่าวว่า สำหรับผู้หญิงที่แต่งหน้าทาปากจะประสบพบเจอปัญหาเครื่องแต่งตัวเปื้อนข้างในหน้ากาก
3-Panel Flat-fold
เป็นหน้ากาก N95 อีกหนึ่งต้นแบบที่เริ่มเห็นคนใช้เยอะขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยด้านบนเป็นอุปกรณ์ที่ทำจากผ้า โค้งรับกับรูปหน้า ตรงกลางจะแบน เป็นโครงแข็ง ข้างล่าง ทำจากผ้าสำหรับคลุมไปถึงใต้คาง ช่วยสำหรับในการปกปิดไม่ให้อากาศเข้า
 
จุดเด่น คือ ปกปิดมิดชิด สวมใส่สบาย รวมทั้งเพราะว่ากึ่งกลางเป็นโครงแข็งทำให้เวลาหายใจจะไม่ยุบเข้า-ออก ไปสัมผัสกับบริเวณใบหน้า
จุดอ่อน คือ ส่วนมากมักมีแม้กระนั้นสายสำหรับรัดข้างหลัง ทำให้สวมทุกข์ยากลำบาก และก็ถ้าเกิดใส่ผิดวิธีอาจทำให้ฝุ่นเล็ดลอดเข้าไปได้
อีกทั้ง 4 รูปแบบหน้ากาก N95 ที่กล่าวมานี้ ก็ยังมีแบบย่อยๆอีก นั่นคือเป็นแบบสายรัดข้างหลัง กับ แบบคล้องหู
 
แน่นอนว่าแบบสายสำหรับรัดข้างหลังจะทำให้หน้ากากแนบกระชับกับบริเวณใบหน้า คุ้มครองป้องกันฝุ่นได้ดีมากว่าแบบเกี่ยวหู แต่จุดอ่อนที่สำคัญ เป็น ใส่และถอดลำบาก แล้วก็ทำให้เกิดความอึดอัดมากกว่า
 
วาล์วระบายอากาศ มีไว้เพราะอะไร?
ถือได้ว่า Option เสริมของหน้ากาก N95 คือ บางประเภทจะมี วาล์วระบายอากาศ ติดอยู่ด้านหน้า โดยวาล์วระบายอากาศนี้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยระบายความร้อนใบหน้า ไม่ให้บริเวณใบหน้าอบ ชื้นแฉะ จนกระทั่งเกินไป โดยวาล์วจะเปิดตอนที่พวกเราหายใจออก แล้วก็ปิดขณะที่หายใจเข้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศเช่นเดิม แม้กระนั้นระบายอากาศได้ดีมากยิ่งกว่า
 
ด้วยเหตุดังกล่าว หน้ากาก N95 ที่มีวาล์วระบายอากาศ บางทีอาจจะสำหรับสาวๆที่เสริมสวย ทำให้ไม่ต้องกลัวร้อน หรือกลุ้มอกกลุ้มใจว่าเครื่องแต่งตัวจะเปรอะ รวมทั้งผู้ที่สวมแว่น เวลาหายใจเข้า-ออกก็จะไม่ประสบพบเจอกับปัญหาแว่นเป็นฝ้าอีกด้วย
 
เวลาซื้อหน้ากากอนามัย จะต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
 
เว้นเสียแต่รูปแบบของหน้ากากที่เราควรต้องเลือกไตร่ตรองแล้ว ยังมีส่วนประกอบอื่นๆที่เราละเลยไม่ได้ด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน
 
1.การได้รับการยืนยันมาตรฐาน
เคยพิจารณาไหมว่าหน้ากากบางอันก็เขียนว่า N95 บางอันก็เขียนว่า FFP2 หรือ P2 ซึ่งรหัสเหล่านี้เป็นยังไง เรามาไขปัญหากัน
 
ในความเป็นจริงแล้วรหัสเหล่านี้ เป็น สัญลักษณ์การรับรองมาตรฐานของประเทศต่างๆ
 
N95: เป็นการรับรองของประเทศอเมริกา โดยการันตีว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพสำหรับการกรอง 95% (หากเลขมากยิ่งกว่านั้น เช่น N99 คือ มีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการกรอง 99%)
FFP2: เป็นการรับรองของฝั่งยุโรป โดยยืนยันว่าหน้ากากนี้มีคุณภาพสำหรับเพื่อการกรอง 94% (ถ้าเป็น FFP3 จะหมายถึง มีคุณภาพสำหรับเพื่อการกรอง 99%)
P2: เป็นการการันตีของประเทศออสเตรเลียและก็นิวซีแลนด์ โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีคุณภาพในการกรอง 94% (ถ้าหากเป็น P3 จะหมายความว่า มีคุณภาพสำหรับการกรอง 99%)
ฉะนั้น ถ้าเกิดมองเห็นเครื่องหมายกลุ่มนี้ ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้ ด้วยเหตุว่ามีคุณภาพไม่ได้มีความแตกต่างกัน
 
2.มีอลูมินัมบริเวณสันจมูกรวมทั้งฟองน้ำรองด้านใน
ลองสังเกตดูว่าหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่จะมีอลูมินัมเส้นเล็กๆคาดอยู่บริเวณดั้ง ซึ่งเวลาสวมใส่พวกเราจำเป็นต้องกดอลูมิเนียมให้แนบไปกับจมูกเพื่อคุ้มครองปกป้องอากาศรั่วไหล แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บ เพราะว่าส่วนมากมักมีแผ่นฟองน้ำนุ่มๆรองอยู่ข้างล่างเพื่อป้องกันการระคายเคืองอยู่แล้ว
 
3.เช็คเพื่อความแน่นอนว่าหน้ากากได้มาตรฐานหรือไม่
แม้ว่าเราจะอยู่ไหมได้อยู่ในตอนอากาศตกอับ แต่ว่าเราจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเพื่อเลือกซื้อหน้ากากอนามัยและคุณภาพควรเหมาะสมกับราคาด้วย เพราะในตอนก่อนหน้านี้มีกระแสหน้ากากอนามัย N95 เลียนแบบ แม้กระนั้นก็มีอีกกระแสที่บอกว่าหน้ากาก N95 ที่กล่าวว่าปลอมนั้น บางทีอาจเป็นเพียงแค่การผลิตจากโรงงานอื่น หรือโรงงานที่รับผลิตให้แบรนด์ต่างๆนำสินค้าออกมาจำหน่ายโดยตรงเพียงแค่นั้น ซึ่งคุณภาพสำหรับในการคุ้มครองป้องกันฝุ่นผงไม่ได้แตกต่างกัน
 
แต่สำหรับผู้ใดกันที่ยังไม่แน่ใจ ต้องการเช็คเพื่อความชัวร์ ก็ทำเป็นง่ายๆคือ
 
ซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ดังเช่น ร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ
แม้หน้ากากที่ซื้อเป็นของ 3M จะสามารถเช็ค Secure Code ได้ โดยดูที่ใต้กล่อง หรือข้างกล่อง จะมี Secure Code กับ Lot Code กำหนดอยู่ ให้กดเข้าไปที่ https://safeguard.3m.com/Guest#/Validation เลือกรุ่นที่ซื้อ แล้วก็กรอกรหัส หลังจากนั้นกด Validation จะรู้ทันคราวว่าหน้ากากนั้นเป็นของ 3M จริงหรือไม่
เมื่อไรควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัย?
 
จริงๆแล้วคำแนะนำที่ดีเยี่ยมที่สุด คือ ควรเปลี่ยนหน้ากากทุกๆวัน เพราะประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันฝุ่นผงของหน้ากากจะลดลงตามอายุการใช้งาน รวมถึงยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคแล้วก็แบคทีเรียอีกด้วย
 
แต่ว่าด้วยราคาที่ออกจะสูง จะให้แปลงวันแล้ววันเล่าบางครั้งอาจจะกระทบกับเงินในกระเป๋า โดยเหตุนี้ เราอาจใช้แนวทางดูสีของหน้ากาก ว่าเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดจากสีขาวสะอาดๆเริ่มกลายเป็นสีเทา ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนได้แล้ว (โดยส่วนมากไม่สมควรใช้ซ้ำเกิน 3 วัน) หรืออีกข้อคิดเห็น คือ ถ้าเกิดเรามีลักษณะอาการไอ จาม เป็นประจำหรือต้องผ่านในสถานที่ที่มีฝุ่นมากๆก็ควรจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเป็นประจำเช่นเดียวกัน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : [url]http://hiramscott.com[/url]

Tags : http://hiramscott.com



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ