การดูแลเมื่อคนป่วยเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การดูแลเมื่อคนป่วยเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต  (อ่าน 12 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Keekayr1200gs
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13292


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2020, 09:02:30 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

เมื่อคนไข้ที่คุณรักกําลังจะจากไป เขาจะมีการเปลี่ยนในร่างกายหลายประเภทที่พิจารณาได้
โดยมากไม่ใช่อาการท่ีน่าตกใจและไม่ใช่อาการที่ต้องรักษา ไม่ต้องสะดุ้งหรือรู้สึกผิดว่าจึงควรพาไปรักษาที่โรงหมอถ้าโน่นไม่ใช่ส่ิงที่ผู้ป่วยต้องการในระยะท้ายที่สุดของเขา อาการกลุ่มนี้หมอจะมิได้รักษาเพิ่มเติมเพราะว่าไม่ใช่อาการที่จะรักษาได้แต่ว่าเป็นอาการจากไปตามธรรมชาติ ซึ่งดังเช่นว่าอาการ ถัดไปน้ี
 
อ่อนกำลังและนอนหลับเยอะขึ้น
ดูหมดแรงแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วงเวลาเป็นวัน แต่ว่าบางคนก็บางทีอาจกำเนิดเร็วเป็นชั่วโมง คนป่วยโดยมากนอนหลับอยู่บนเตียงทั้งวันและบางทีอาจจะตื่นในตอนกลางคืน บางรายบางทีก็อาจจะหลับลึกกระทั่งดูเหมือนกับว่าปลุกไม่ตื่น อาการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ใช่อาการท่ีน่าสะพรึงกลัวและไม่ทําให้คนป่วยเจ็บปวด ร่างกายอาจมีการขยับแบบอัตโนมัติได้โดยท่ีผู้เจ็บป่วยไม่รู้สึกตัว ได้แก่ ผู้กระทำํามือหรือกัดฟันกรอดๆร่วมด้วยได้
 
กรรมวิธีดูแลผู้ป่วย มีดังนี้
หาเตียงที่พักผ่อนสบายให้กับคนเจ็บยกหัวสูงบางส่วน อาจมีหมอนข้างมาช่วยเสริมข้างๆ
พลิกตัวคนป่วยทุก 6-8 ชั่วโมง โดยไม่ควรกลับตัวบ่อยครั้งกว่าน้ีเพราะว่าบางทีอาจจะทําให้คนเจ็บรําคาญ
ควรจะใส่สายสวนปัสสาวะหรือแพมเพิร์ส เพื่อสบายสำหรับเพื่อการดูแลและก็คนไข้ไม่ต้องลุกจากเตียง (สายสวนเยี่ยวไม่ทําให้คนไข้เจ็บปวดมากข้ึนและก็สบายกว่าแพมเพิร์ส)
กอดและก็สัมผัสผู้ป่วยเป็นช่วงๆได้
อนุญาตให้ตัวเองร้องไห้ได้
ไม่ต้องกลัวว่าการสนทนากันตามเดิมจะรบกวนการพักผ่อนหย่อนใจของคนไข้ สามารถสนทนากันได้ด้วยเสียงธรรมดาท่ีไม่ดังเกินความจำเป็นและไม่ต้องปรับเสียงให้เบาลงราวกับเสียงกระซุบกระซิบ
สามารถบอกแล้วก็สื่อข้อความดีๆที่ต้องการบอกกับคนไข้ได้ตลอดระยะเวลา เนื่องจากว่าหากแม้คนไข้จะอ่อนล้ามากจนถึงพูดไม่ได้ แต่ว่าคนไข้ส่วนใหญ่ยังสามารถได้ยินและก็รู้เรื่องสิ่งที่พี่น้องพูดได้ เพราะว่าหูรวมทั้งการได้ยินจะเป็นอวัยวะสุดท้ายที่คนเจ็บจะสูญเสียการทํางานไป
การกินของกินรวมทั้งการดื่มน้ําจะต่ำลง
ในระยะเวลาน้ีอาหารและก็น้ําไม่ได้ช่วยทําให้อาการของผู้ป่วยดีข้ึน และไม่ได้ช่วยยืดเวลาให้คนเจ็บมีชีวิตอยู่ได้นานข้ึน เหตุเพราะร่างกายทํางานได้ช้าลงมาก ระบบการสรุปยแล้วก็ซับของกินไม่อาจจะทํางานได้ตามปกติ
 
กรรมวิธีดูแลผู้เจ็บป่วย มีดังนี้
หากคนเจ็บขอดื่มน้ํา ให้ชูหัวคนเจ็บขึ้นและป้อนน้ําครั้งละนิดหน่อยด้วยหลอดหยดหรืออมน้ําแข็งก้อนเล็กๆ
ถ้าหากผู้เจ็บป่วยไอ ให้หยุดการป้อนน้ําทันที
การให้น้ําเกลือในช่วงน้ี ไม่ได้ช่วยทำให้อาการของคนไข้ดีข้ึน รวมทั้งบางทีอาจทําให้ผู้ป่วยยืดความเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานแสนสาหัสออกไปอีก เหตุเพราะน้ําเกลือ ประกอบด้วย น้ํา เกลือ และน้ําตาล จึงไม่มีสารอาหารพอเพียงที่จะทดแทนอาหารได้ ก็แค่หล่อเลี้ยงความทรมานระดับเดิมไว้ โดยธรรมดาบางทีอาจพิเคราะห์ให้น้ําเกลือถ้าเกิดจําเป็นจำเป็นต้องให้ยาทางเส้นโลหิตเพียงแค่นั้น
การให้อาหารในเวลานี้บางทีอาจส่งผลให้สําลักเข้าไปในระบบทางเดินหายใจรวมทั้งติดโรคในปอดได้ ซึ่งจะทําใหคนไข้เจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานสาหัสเพิ่มข้ึนหรือเสียชีวิตก่อนถึงเวลาอันควร การได้รับของกินที่น้อยลงในระยะน้ีมิได้เป็นต้นเหตุให้ผู้ป่วยอดอาหารจนถึงแก่ความตาย ผู้ป่วยถึงแก่กรรมเนื่องจากว่าโรคของผู้เจ็บป่วยเอง การให้ท่ออาหารชนิดต่างๆไม่ว่าจะทางท่อทางเดินอาหารหรือท่ออาหารทางเส้นเลือดจำเป็นที่จะต้องไตร่ตรองเป็นอย่างมากเนื่องจากมักจะทําให้ผู้ป่วยเจ็บ รําค้างญ แล้วก็อาจเป็นต้นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตก่อนเวลาดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
การดูแลโพรงปากของคนเจ็บ
ผู้ป่วยส่วนมากหายใจทางปากและมักจะดื่มน้ําได้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ทําให้ปากและก็ล้ินของผู้เจ็บป่วยแห้งมาก ซึ่งทําให้ทุกข์ทรมานสาหัสได้
 
กระบวนการดูแลคนป่วย มีดังนี้
ผสมน้ําประมาณ 1 ลิตรกับเกลือ 1⁄2 ช้อนรวมทั้งผงฟู 1 ช้อนแล้วก็ใช้ผ้าก๊อซชุบน้ําดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเช็ดถูปาก เหงือก แล้วก็ลิ้นของผู้เจ็บป่วย ไม่ต้องสะดุ้งถ้าเกิดคนป่วยกัดผ้าก๊อซขณะท่ีขัดถูในปาก ให้ขัดถูต่อไปจนกระทั่งการกัดผ้าพันแผลคลายลง
แปลงส่วนผสมน้ําเกลือและผงฟูใหม่แต่ละวัน
เช็ดปาก เหงือก และลิ้นของคนไข้ได้ทุกชั่โมงเพื่อให้เปียกชื้น
การดูแลตาของผู้เจ็บป่วย
เพราะว่าผู้เจ็บป่วยปิดตาไม่สนิททําให้กำเนิดอาการตาแห้งแสบได้
 
กระบวนการดูแลคนเจ็บ มีดังนี้
บางทีอาจใช้น้ําตาเทียมหยอดตาให้ผู้ป่วยวันละ 4 ครั้ง แม้ตาผู้ป่วยเผยอเปิดตลอดระยะเวลา
อาการปวด
โดยท่ัวไปอาการปวดของคนไข้ชอบไม่เพิ่มขึ้นในช่วงสุดท้าย เพราะเหตุว่าคนป่วยขยับตัวลดน้อยลงและนอนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในบางครั้งที่พี่น้องช่วยขยับเขยื้อนตัวผู้เจ็บป่วยบางทีอาจได้ยินเสียงราวกับคนป่วยร้องครวญ เสียงดังกล่าวมาจากการขยับตัวร่วมกับการหายใจออก ไม่ใช่มาจากอาการปวด
 
ขั้นตอนการดูแลคนไข้ มีดังนี้
พิจารณาลักษณะของการปวดโดยดูจากการหน้านิ่วย่นคิ้วแทนเสียงร้องครวญคราง อาจพินิจพิเคราะห์ให้ยาแก้ปวดเพิ่มถ้าหากมีลักษณะอาการดังที่กล่าวถึงมาแล้วบ่อยครั้ง
โดยทั่วไปควรจะลดปริมาณยาแก้ปวดลงแล้วก็บางครั้งอาจจะจำต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางการให้ยา เป็นต้นว่า จากยารับประทานมาเป็นยาฉีดหรือยาที่สามารถดูดซับใต้ล้ินได้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะผู้ป่วย
สภาวะกระวนกระวาย
มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีภายในร่างกาย เนื่องจากว่าอวัยวะต่างๆเริ่มวาย
 
กรรมวิธีการดูแลคนเจ็บ มีดังนี้
อาจใคร่ครวญให้หมอสั่งยานอนหลับอย่างอ่อนให้เพื่อให้ผู้เจ็บป่วยได้พักบ้าง ซึ่งยาเหล่านี้ไม่ได้ทําให้หลับลึกจนตาย อย่างไรก็ดี ให้พินิจตามภาวะอาการ ถ้าเกิดกระสับกระส่ายประสาทหลอนมากมาย อาจช่วยให้คนไข้ได้พักหลับมากมายข้ึน แต่ว่าถ้าอาการไม่มาก บางทีอาจไม่จําเป็นจำเป็นต้องรักษาอาการนี้ เนื่องจากผู้ป่วยหลายรายต้องการมีสติก่อนตาย ไม่ต้องการง่วงหงาวหาวนอนงงงวย ใคร่รู้สึกตัวว่าได้ร่ำลาพี่น้องๆก่อนจากไป บางรายต้องการมีจิตอันเป็นกุศลหรือท่องบทสวดมนต์ก่อนลมหายใจในที่สุด เพื่อให้เป็นการตายดีตามความศรัทธาของตน
หายใจไม่เป็นจังหวะ
บางทีอาจหายใจช้าบ้าง เร็วบ้าง ลึกบ้าง ตื้นบ้าง และอาจหยุด หายใจเป็นช่วงๆซึ่งช่วงที่หยุดหายใจนี้จะเบาๆยาวขึ้นเมื่อผู้ป่วยใกล้จะเสียชีวิต เพศผู้ป่วยเองจะไม่เคยรู้สึกทรมานกับอาการนี้เพราะเกิดขึ้นจากภาวการณ์กรดและด่างเปลี่ยนแปลงไปหลังจากอวัยวะต่างๆหยุดทํางาน
 
วิธีการดูแลผู้ป่วย มีดังนี้
ผู้ป่วยในสภาวะนี้มิได้ขาดออกซิเจน การให้ออกซิเจนก็เลยไม่จําเป็นและไม่ได้ช่วยผู้ป่วยในระยะน้ี ตรงกันข้าม การให้ออกสิเจนกลับทําให้คนเจ็บรู้สึกแห้ง เจ็บ แล้วก็อึดอัดเจ็บป่วยตัว ดังจะพิจารณาได้จากคนไข้จะเพียรพยายามดึงหน้ากากหรือท่อออกสิเจนทิ้งอยู่ตลอดเวลาท้ังๆที่ไม่รู้สึกตัว
สภาวะเสียงดังครืดคราดจากน้ําลายสอ
เมื่อใกล้ในเวลาที่คนไข้จะเสียชีวิต เครือญาติบางทีอาจได้ยินเสียงดังครืดคราดในลําคอคล้ายเสียงกรน ตอนที่ผู้ป่วยซึมลงมากและไม่ค่อยตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง เสียงนี้มีเหตุที่เกิดจากกล้ามเน้ือสำหรับเพื่อการกลืนไม่ทํางาน ล้ินตก แต่ว่าต่อมน้ําลายน้ํามูกต่างๆยังทํางานอยู่ ภาวะดังที่กล่าวถึงแล้วไม่ทําให้ฟุตบาทหายใจอุดตันจนกระทั่งแก่ความตาย
 
วิธีการดูแลผู้ป่วย มีดังนี้
ให้คนป่วยนอนตะแคงโดยมีหมอนยาวรองข้างหลังจะช่วยลดเสียงดังครืดคราดลงได้
หมออาจพิเคราะห์สั่งยาเพื่อช่วยลดอาการน้ําลายสอแม้มีลักษณะอาการน่ารําติดอยู่ญอย่างมาก
ไม่เหมาะที่จะดูดเสลดด้วยเครื่องดูด เนื่องจากว่ามิได้แก้ไขต้นเหตุรวมทั้งทําให้ผู้ป่วยเจ็บแล้วก็คลื่นไส้จากท่อที่ล้วงลงไปดูดเสมหะในลําคอ
มือเท้าเย็น ไม่สนองตอบต่อสิ่งรอบข้าง
เมื่อเวลาของคนเจ็บใกล้หมดลง ญาติบางทีอาจสังเกตได้จากมือเท้าเย็น เปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ผิวเป็นจ้ำๆตาเบิกกว้างแม้กระนั้นไม่กะพริบ ปัสสาวะน้อยลงมาก คนไข้บางรายบางทีอาจตื่นข้ึนมาในช่วงเวลาสั้นๆเหมือนอาการดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเพราะผู้เจ็บป่วยเพียรพยายามเก็บพลังงานสํารองที่มีทั้งหมดทั้งปวงมาใช้สำหรับเพื่อการร่ำลาพี่น้องคราวสุดท้ายก่อนจากไป
 
กรรมวิธีการดูแลผู้ป่วย มีดังนี้
 
ควรจะหยุดวัดความดันเลือดหรือสายวัดต่างๆรอบข้าง แกะเครื่องพันธนาการผูกมัดคนไข้ต่างๆให้ได้มากท่ีสุด เนื่องจากว่าค่าท่ีวัดได้ไม่อาจจะเชื่อถือได้รวมทั้งเป็นการก่อกวนคนเจ็บมากเพิ่มขึ้น
ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจ ใช้เวลาช่วงสุดท้ายอยู่ข้างเตียงกับคนเจ็บสูงที่สุด ก่อนที่จะดําเนินพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
แนวทางข้างต้นเป็นคําแนะนําอย่างง่ายสําหรับเครือญาติและก็ผู้ดูแลเพื่อจะได้รับมือกับอาการที่พบได้ทั่วไปในช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อย่างมีสติสัมปชัญญะรวมทั้งให้เครือญาติได้ใช้เวลาอยู่กับคนไข้อย่างมีคุณค่าก่อนจากกัน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : contestedstreets

Tags : contestedstreets,contestedstreets.org,http://contestedstreets.org



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ