Advertisement
ทะเลทรายเป็นพื้นที่แห้งแล้งของภูมิทัศน์ที่เล็กๆ น้อย ๆเกิดฝนเกิดขึ้นและจึงมีสภาพความเป็นอยู่ที่เป็นมิตรสำหรับชีวิตพืชและสัตว์ ขาดของพืช exposes พื้นผิวที่ไม่มีการป้องกันจากพื้นดินกับกระบวนการของdenudation ประมาณหนึ่งในสามของพื้นผิวดินแดนแห่งโลกคือแห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้ง ซึ่งรวมถึงบริเวณขั้วโลกส่วนใหญ่ที่เกิดการตกตะกอนเพียงเล็กน้อยและบางครั้งเรียกว่าขั้วโลกขั้วโลกหรือ "ทะเลทรายเย็น" ทะเลทรายสามารถจำแนกได้ตามปริมาณของฝนที่ตกลงมาตามอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากสาเหตุของการทำให้เป็นทะเลทรายหรือตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทะเลทรายเกิดขึ้นจากกระบวนการผุกร่อนเนื่องจากอุณหภูมิที่แปรปรวนจำนวนมากระหว่างกลางวันและกลางคืนทำให้สายพันธุ์บนก้อนหินแตกเป็นชิ้นๆ แม้ว่าฝนตกไม่ค่อยเกิดขึ้นในทะเลทรายมีฝนที่ตกลงมาเป็นครั้งคราวซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ฝนที่ตกลงมาบนโขดหินร้อนสามารถทำให้พวกมันแตกเป็นเสี่ยงๆ และเศษซากและเศษหินที่เกลื่อนไปตามพื้นทะเลทรายก็ถูกลมพัดทำลาย หยิบเรื่องนี้ขึ้นอนุภาคของทรายและฝุ่นละอองและ wafts พวกเขาสูงขึ้นในทรายหรือฝุ่นพายุ เม็ดทรายที่ถูกลมพัดกระแทกวัตถุที่เป็นของแข็งใดๆ ในเส้นทางสามารถทำให้พื้นผิวเกิดการผิดเพี้ยนได้ โขดหินราบเรียบลงและลมจะพัดเข้าสู่ทรายที่สะสมอยู่ ธัญพืชจะมีลักษณะเป็นแผ่นทรายหรือเป็นเนินทรายที่มีคลื่นสูง ทะเลทรายแห่งอื่นๆ นั้นเป็นที่ราบที่เต็มไปด้วยหินซึ่งวัสดุที่ดีทั้งหมดได้ถูกพัดพาไปและพื้นผิวประกอบด้วยโมเสคของหินที่เรียบเนียน พื้นที่เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อทะเลทรายทางเท้าและการกัดเซาะอีกเล็กน้อยเกิดขึ้น
สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88
เว็บ [url=https://lucaclub88.com/]บา คาร่าออนไลนสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ในทะเลทราย ได้แก่หินโผล่ขึ้นหินหินลับและดินเหนียวเมื่อถูกฝากด้วยน้ำที่ไหล ทะเลสาบชั่วคราวอาจเกิดขึ้นและอาจมีการทิ้งเกลือเมื่อน้ำระเหย อาจจะมีแหล่งใต้ดินของน้ำในรูปแบบของน้ำพุากชั้นหินอุ้มน้ำ ที่ไหนเหล่านี้จะพบเครื่องเทศสามารถเกิดขึ้นได้ พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายต้องการการดัดแปลงเป็นพิเศษเพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย พืชมีแนวโน้มที่จะยากและแกร่งที่มีขนาดเล็กหรือไม่มีใบทนน้ำล่อนและมักจะเงี่ยงที่จะยับยั้งherbivory พืชประจำปีบางต้นงอกออกดอกและตายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากฝนตกในขณะที่พืชยืนยาวอื่น ๆ สามารถอยู่รอดได้นานหลายปีและมีระบบรากที่ลึกสามารถสัมผัสกับความชื้นใต้ดินได้ สัตว์ต้องทำให้เย็นและหาอาหารและน้ำให้เพียงพอเพื่อความอยู่รอด หลายคนออกหากินเวลากลางคืนและอยู่ในที่ร่มหรือใต้ดินในช่วงที่อากาศร้อนจัด พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพในการอนุรักษ์น้ำดึงความต้องการส่วนใหญ่ออกจากอาหารและมุ่งเน้นไปที่ปัสสาวะสัตว์บางตัวยังคงอยู่ในสภาพพักตัวเป็นเวลานานพร้อมที่จะกลับมาทำงานอีกครั้งในช่วงที่ฝนตกหายาก พวกเขาจะทำซ้ำอย่างรวดเร็วในขณะที่เงื่อนไขเป็นที่น่าพอใจก่อนที่จะกลับไปพักตัว ผู้คนต้องดิ้นรนเพื่ออาศัยอยู่ในทะเลทรายและดินแดนกึ่งแห้งแล้งที่ล้อมรอบมานานนับพันปี คนเร่ร่อนย้ายฝูงและฝูงไปที่ที่มีสัตว์เล็มหญ้าและเครื่องเทศได้เปิดโอกาสให้ชีวิตมีความมั่นคงมากขึ้น การเพาะปลูกของภูมิภาคกึ่งแห้งแล้งกระตุ้นให้เกิดการพังทลายของดินและเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเพิ่มขึ้นเป็นทะเลทราย การทำฟาร์มทะเลทรายนั้นเป็นไปได้ด้วยความช่วยเหลือของการชลประทานและImperial Valleyในแคลิฟอร์เนียเป็นตัวอย่างว่าดินแดนที่แห้งแล้งก่อนหน้านี้สามารถผลิตได้โดยการนำเข้าน้ำจากแหล่งภายนอก เส้นทางการค้าหลายแห่งถูกสร้างขึ้นข้ามทะเลทรายโดยเฉพาะข้ามทะเลทรายซาฮาร่าและประเพณีที่ถูกนำมาใช้โดยคาราวานของอูฐแบกเกลือทองงาช้างและสินค้าอื่น ๆ ตัวเลขขนาดใหญ่ของทาสยังถูกนำตัวไปทางเหนือข้ามทะเลทรายซาฮาราบางสกัดแร่ยังใช้สถานที่ในถิ่นทุรกันดารและแสงแดดอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้มีศักยภาพสำหรับการจับภาพในปริมาณมากของพลังงานแสงอาทิตย์
