Advertisement
อยากฟันสวย ยิ้มหวาน จำต้องทำยังไง? เมื่อพูดประโยคนี้มั่นใจว่าหลายๆคนต้องนึกถึงการจัดฟันแน่นอน แต่ทราบหรือเปล่า การจัดฟันไม่ใช่แค่เพื่อแฟชั่นสวยสดงดงามในกลุ่มวัยรุ่นแค่นั้น เนื้อหานี้พวกเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการจัดฟันกันค่ะ!
การจัดฟันนอกเหนือจากเพื่อฟันเรียงตัวกันสวยสดงดงามแล้ว ยังเป็นกระบวนการรักษาเพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคี้ยว เป็นต้นว่า ฟันไม่สบกันดีและส่งผลต่อการเคี้ยว หรือเพื่อแก้ปัญหาการจัดเรียงกันของฟันที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อรูปหน้าเพื่อบริเวณใบหน้ากลับมาได้รูปอีกครั้ง ด้วยเหตุนั้นเพื่อการรักษาที่ปลอดภัย คนที่ปรารถนาจัดฟันจะต้องปรึกษาหมอฟันและก็สถานที่ทันตกรรมที่ได้มาตรฐานเพื่อประเมินแนวทางจัดฟันที่เหมาะสม
โดยทั่วไปการจัดฟันจะทำได้หลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กจนโต ขึ้นกับการความผิดแปลกของฟันที่เกิดขึ้น แต่ว่าที่เราเคยชินกันจะเป็นการจัดฟันแท้แล้วก็การจัดฟันส่วนใหญ่จะใช้สิ่งที่เรียกว่า “Bracket” ซึ่งเป็นเครื่องมือติดแน่นที่ผิวฟัน (อาจจำเป็นต้องมีการถอนฟันหรือใช้เครื่องมืออื่นร่วมด้วยขึ้นกับการประเมินของหมอฟัน) ส่วนระยะเวลาสำหรับเพื่อการจัดฟันจะแตกต่างกันไปตามปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสบฟันของแต่ละคน โดยปกติหมอฟันจะมีการนัดคนไข้เสมอๆในทุกๆเดือนเพื่อกระทำปรับเครื่องมือ และส่วนมากจะใช้เวลารวมๆราวๆ 1ปีครึ่ง-2ปี หรือ 3-4ปี สำหรับเคสที่ยากมาก
แล้วการจัดฟันจะเจ็บไหมนะ? สำหรับคนที่จัดฟันสิ่งที่จำเป็นต้องพบเป็นประจำทุกเดือนคือ อาการปวดตึงฟัน เกิดจากการที่ฟันได้รับแรงดึงจากเครื่องมือจัดฟันซึ่งเป็นกลไกในการที่จะทำให้ฟันเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม โดยคนส่วนใหญ่จะมีลักษณะอาการตึงฟันต่อเนื่องราว 2-4 วันหลังจากมีการปรับอุปกรณ์ก่อนที่จะลักษณะของการปวดจะค่อยๆหายไป รวมทั้งระดับความเจ็บจะแตกต่างกันไปขึ้นกับแต่ละคน
แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่ได้อยากต้องการจัดฟันแบบโลหะที่จำต้องติด Bracket ที่ผิวฟัน ในตอนนี้ก็มีการจัดฟันหนทางใหม่อย่าง “การจัดฟันใส” ซึ่งใช้อุปกรณ์จัดฟันแบบถอดได้ที่ทำจากพลาสติก จะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ถูกวางแบบเป็นเฉพาะสำหรับคนไข้รายนั้นๆโดยคนไข้จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ตามแผนการรักษาทุกๆ1-2 สัปดาห์หรือตามที่หมอฟันเจ้าของเคสระบุ แต่ว่าการจัดฟันลักษณะนี้ควรต้องใส่อุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอทุกวี่วันและก็นาน 20-22 ชั่วโมงต่อวันเพื่อฟันเคลื่อนตามกลยุทธ์รักษา อาศัยวินัยและความรับผิดชอบสูงมาก
ท้ายที่สุดหากถามคำถามว่า