Advertisement
สาวงงงันหนัก จอดรถยนต์ หน้าบ้านตัวเองแท้ๆถูกมนุษย์ป้า แจ้งตำรวจจับ 2 ครั้งติด เพื่อนบ้านเปิดเผยพฤติกรรมอีก ปลดปล่อยหมากัดคนในซอกซอย เรื่องร้องทุกข์ยาวเป็นหางว่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.2566 จากในกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์วีดีโอของเหตุการณ์เถียงกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ภายหลังมีปัญหาเรื่องการหยุดรถและถูกเพื่อนบ้านนำราวตากผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน กระทั่งเกิดการโต้แย้งกัน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังที่กล่าวมาข้างต้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดจังหวัดนนทบุรี เจอกับ นางสาวดอกมะลิ (ขอสงวนชื่อสกุล) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปวีดีโอของเหตุการณ์ปะทะคารมไว้ พูดว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาอยู่อาศัยที่ที่พักข้างหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเดือนธันวาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบจะติดท้ายตรอกถัดไปอีกข้างหลัง โดยบ้านของคู่แค้นที่อยู่ติดกำแพงด้านหลังซอกซอยได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหน้าบ้านพักของเขาจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เข้าออกน.ส.ดอกมะลิ กล่าวต่อว่าต่อขาน ก็เลยจำต้องอาศัยมาเดินออกผ่านที่หน้าบ้านของตนบ่อยๆ แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วย เนื่องจากได้ยินเสียงเล่าลือขอ
นางสาวดอกมะลิ กล่าวอีกว่า จนถึงเมื่อราววันที่ 11 กุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ ภายหลังจากตนขับขี่รถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังที่กล่าวมาข้างต้นได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งห้อยตากแดดเต็มหน้าบ้านของตนเอง ทำให้ตนไม่สามารถที่จะนำรถยนต์เข้าหยุดบนถนนหนทางหน้าบ้านได้ตามปกติ ตนก็เลยเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวแขวนผ้าออกไป กลับถูกเพื่อนบ้านรายนี้ว่ากล่าวด่าทอต่างๆนานา แต่ตนก็ข่มใจไม่พากเพียรตอบโต้อะไรกลับไปน.ส.มัลลิกา บอกว่า จนถึงช่วงวันที่ 13 มี.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถยนต์ของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดซอกซอยแล้วหยุดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกรอบ ก่อนที่จะหญิงสูงอายุในรถจะเปิดประตูรถยนต์ลงมาแล้วต่อว่าพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่าไม่มีสามัญสำนึก
นางสาวมัลลิกา กล่าวเพราะว่า จึงทำให้ลูกสาวตนที่อยู่ในสถานะการณ์ด้วยทนไม่ไหว โต้แย้งกับหญิงสูงอายุคนดังกล่าวไปว่า คนไหนกันแน่ที่ไม่มีความสำนึกยึดพื้นที่ถนนหนทางศูนย์กลางไปปลูกต้นไม้จนเข้าออกบ้านตัวเองไม่ได้จะต้องมาอาศัยออกที่หน้าบุคคลอื่นยังไม่พอ ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางหน้าบ้านคนอื่นอีก หลังจากนั้นชายสูงอายุอีกคนได้เข้ามาต่อว่าตน ถนนหนทางเป็นของส่วนกลางไม่มีโฉนด คนไหนกันแน่จะทำอะไรก็ได้ ถ้าไม่ชอบใจก็ไปขึ้นศาลกัน หลังจากนั้นชายแก่
เพื่อนบ้านคนมีชื่อเสียงกล่าวก็ถ่ายภาพรถยนต์ของตัวเองแล้วหายเข้าบ้านไป
นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่าต่อขาน ต่อไปไม่นาน จู่ๆก็มีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สายตรวจสองคนขับจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยพูดว่ามีคนโทรไปฟ้องร้องว่าบ้านตนจอดรถยนต์กีดกั้นทางเข้าออกบ้านพักคนอื่นๆ ตนก็เลยได้ชี้ให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดูว่า รถยนต์ของตนหยุดอยู่บนถนนหนทางหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตนเอง มิได้หยุดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะต้นไม้และก็วัชพืชต่างๆที่อยู่ในกระถางต่างหากที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาที่พื้นที่หน้าบ้านตนแล้วเขาใช้เป็นทางเดินเข้าออกผ่านหน้าบ้านตนแทน
น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ทำให้ตนจอดรถใกล้ไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้ท้ายรถยื่นไปล้ำหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ต่อไป เขาก็เลยยัดเยียดข้อหาว่าตนไปแกล้งเขา ทั้งๆที่เขาสามารถขยับกระถางที่เอาไว้ปลูกต้นไม้ทำทางเข้าออกได้อีกด้านหนึ่งแต่ว่าเขาก็ไม่ยอมเปิดช่องนั้นเอง เลือกที่จะเดินผ่านเข้าออกหน้าบ้านตนแทน เมื่อตำรวจมามองเห็นจึงได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยพูดจาแต่ว่าเขาไม่ยินยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายเก่าประเดี๋ยวไปจบในชั้นศาล จนกระทั่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนใจที่จะอธิบายแล้วเดินทางกลับไป
น.ส.ดอกมะลิ พูดว่า ต่อจากนั้นเพื่อนบ้านทั้งยังข้างหญิงฝ่ายชายเดินทางออกไปนอกบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยพูดว่ามีคนบอกเหตุหยุดรถขวางเข้าไป ก็เลยจำต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกลับไปราวกับที่ได้ชี้แจงกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ชุดแรก ต่อมาตนได้นำรายนามของเพื่อนบ้านในตรอกที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านหลังนี้ ที่ยังมีความประพฤติเลี้ยงสุนัขแล้วปลดปล่อยให้สุนัขไปไล่กัดคนภายในซอกซอยโดยไม่ห้ามปราม
นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่าต่อขาน รวมถึงวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นกับหน้าบ้านกระทั่งกิ่งไประกับสายไฟฟ้า เข้ายื่นร้องทุกข์กับฝ่ายนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำอธิบายหรือแนวทางแก้ไขใดๆก็ตามกลับมาให้ตนรู้เลย บุตรสาวตนจึงตัดสินใจโพสต์คลิปเพื่อขอความเห็นจากโลกโซเซียลเพื่อหาทางจัดการกับปัญหาเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาแล้วก็หัวหมอรายนี้
ต่อมาข้าราชการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจตรา ก็เลยพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องถูกร้องเรียนเข้ามาแล้วบ่อยครั้ง ทั้งพฤติกรรมที่ยึดพื้นที่บนถนนศูนย์กลางเป็นพื้นที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงสุนัขที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดคนอื่นด้วย ซึ่งประเด็นนี้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อยมิได้นอนใจ เนื่องจากติดในเรื่องกฎหมายที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเป็นของข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ปกครองดูแลกันเองอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต.เป็นผู้ดูแล
ศูนย์ดำรงธรรมจะได้เร่งรัดให้ฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านที่นี้รีบบังคับใช้กฎระเบียบของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไปกับเจ้าของบ้านรายนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องเรียนกันจนแปลงเป็นเหตุบานปลายถัดไป
เพื่อนบ้าน
ขอบคุณบทความจาก
https://freelydays.com/12862/