Advertisement
สารสกัดจาก mango มะม่วงแอฟริกัน
ผลงานวิจัย African Mango กับการลดน้ำหนัก
[/color][/b]
[/color]
การค้นพบใหม่ล่าสุดโดย Dr. Gulius Oben หัวหน้าภาควิชาโภชนาการมหาวิทยาลัยในประเทศคาเมอรูน ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าชนพื้นเมืองในแอฟริกาตะวันตกนั้นมีรูปร่างค่อนข้างจะผอมบาง แถมยังมีสุขภาพดีและแทบจะไม่พบโรคเบาหวานในชนพื้นเมืองเหล่านี้
ดร.จูเลียส จึงได้ทำการค้นพบและติดตามพฤติกรรมกการรับประทานอาหารของชนกลุ่มนี้ แล้วก็พบว่าเม็ดมะม่วงสายพันธุ์พิเศษที่เรียกว่า Bush mango หรือWild mango หรือมะม่วงป่า ซึ่งคนเผ่าพื้นเมืองรับประทานกันเป็นอาหารประจำวันโดยเฉลี่ย 10 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยนำเจ้ามะม่วงป่ามาผสมอยู่ในซุปข้น แล้วก็พบว่าเจ้ามะม่วงสายพันธุ์พิเศษนี้ล่ะที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยลดน้ำหนักสลายไขมันส่วนเกิน[/color]
เจ้ามะม่วงป่าสายพันธุ์พิเศษนี้มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Irvingia Gavonensis โดยการค้นพบของนักวิจัยในปี ค.ศ. 2005 และได้เสนอผลงานวิจัยตีพิมพืโดยแบ่งกลุ่มอาสารสมัครที่เข้าโปรแกรมลดน้ำหนักให้รับประทานอาหารเสริมสารสกัดเม็ดจาก มะม่วงป่าพันธุ์ Irvingia ครั้งละ 100 มก.วันละ 3 เวลา จะได้วันละ 300 มก. และมีการตรวจวัดน้ำหนัก สัดส่วนของไขมัน สัดส่วนของเอวต่อสะโพก ความดันโลหิต ระดับของน้ำตาล ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด โดยที่อาสาสมัครที่เข้าการวิจัยนี้รับประทานอาหารวันละ 1,800 แคลอรี่ ตลอด 30 วัน พบว่ากลุ่มที่ได้รับประทานอาหารเสริมสารสกัดจากเม็ดมะม่วง ป่านี้ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 11.5 ปอนด์หรือราวๆ 5 กิโลกรัม ในขณะที่กลุ่มที่ได้ยาหลอก (Placebo) ลดน้ำหนักได้เพียง 2.9 ปอนด์หรือประมาณกิโลนิดๆ เท่านั้นเอง ที่สำคัญคือกลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมสามารถลดความดันโลหิตสูงได้ด้วย ทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลทั้งหมดได้ 25% และลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย LDL ได้ 30% ในขณะที่ลดน้ำตาลในเลือด ได้ถึง 25% ด้วย ที่สำคัญยังสามารถลดโปรตีนที่เรียกว่า C-reactive protein ได้มากถึง 50% เจ้า C-creative protein แสดงถึงการ อักเสบในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาโรคเรื้อรัง เช่นความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดอักเสบ ซึ่งการอักเสบเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อวัยวะต่างๆ เสื่อมและเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บ
[/color]
งานวิจัยยังพบว่าเม็ดมะม่วงป่า Irvingia นี้สามารถช่วยสลายเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายโดยไปลดเอนไซม์ที่เร่งปฏิกิริยาการเก็บสะสมน้ำตาลเป็นไขมันไม่ให้มีการเก็บ ไขมันจึงถูกสลายตัวและขับถ่ายออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ใช้สารสกัดจากมะม่วงป่าควบคู่กับสมุนไพรพื้นบ้านของเอเชียแถบอินเดียและศรีลังกาที่เรียกว่า Cissus Quadangularis ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษากระดูกที่แตกหักทำให้กระดูกแข็งแรง ในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ แผลจากริดสีดวงทวาร และเป็นยาแก้ปวดที่ดี ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล
ตัวร้าย LDL และยังช่วยปรับสมดุลหรือลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้โรคเบาหวานด้วย งานวิจัยล่าสุดพบว่าสมุนไพรชนิดนี้ยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยลดน้ำหนัก โดยพบว่ากลุ่มคนไข้ที่ได้รับประทานสารสกัดจากสมุนไพร Cissus นี้วันละ 300 มก. น้ำหนักตัวลดได้อย่างมากมาย บางคนสามารถลดมวลสารของร่างกาย Body Mass Index (BMI) ได้มากถึง 5.4%
งานวิจัยของ African mango ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน นิตยสาร slimming
[/color]
African Mango (Irvingia gabonensis) – ช่วยจำกัดการเสียหายของแป้งในอาหาร,ลด ผลกระทบจากการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันในร่างกาย และสามารถทำงานได้สองหน้าที่พร้อมกัน คือลดการย่อยและการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรตอย่างง่ายและเสริมสร้างเมตาบอลิซึม ของร่างกาย เพิ่มการเผาผลาญอาหารเพื่อที่จะจำกัดการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันสะสม Irvingia Gabonesis (มะม่วง แอฟริกัน) เป็นไม้ยืนต้นเกิดในแอฟริกาตะวันตก ผลไม้ของพืชชนิดนี้ได้นำมาใช้ในการทำยา ในอดีต ผลไม้ชนิดนี้กินเพื่อช่วยในการย่อยและเพิ่มพลังงาน ล่าสุดมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเส้นใยผลไม้ชนิดนี้จะช่วยขจัดคอเลสเตอรอลออ กจากร่างกายและเมล็ดของแอฟริกันแมงโก้จะช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน และส่งเสริมการสลายของไขมันได้เป็นอย่างดี
สรุปประโยชน์ของ African Mango 1.ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
2.ช่วยลดความเมื่อยล้า
3.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4.ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์ leptinที่ช่วยเร่งอัตราการสลายไขมัน สกัดจากพืชธรรมชาติ ปลอดภั
http://xn--12cl1f1fh7b.com/[/url]
Tags : แมงโก้, Mango, MangoTe
