ลดอุบัติเหตุ เจ็บ ตาย จากการขับขี่

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลดอุบัติเหตุ เจ็บ ตาย จากการขับขี่  (อ่าน 275 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Borpitmaha
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2013, 08:54:53 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement




ลดอุบัติเหตุ เจ็บ ตาย จากการขับขี่
อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญ และช่วยกันรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลง  ขณะที่ผู้ขับขี่เองยังคงใช้รถบนท้องถนนอย่างประมาท ทั้งไม่สวมหมวกนิรภัย  ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หากผู้ขับขี่ไม่ใส่ใจในการดูแลชีวิตของตนเองให้มากขึ้น

ปัญหาบนท้องถนนเหล่านี้ ผลักดันให้ คณะทำงานสนับสนุนการดำเนินการงานป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุจราจรทางถนนใน ระดับจังหวัด  (สอจร.) ร่วมกับ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และภาคีป้องกันอุบัติเหตุ เปิดข้อมูลการประเมินตนเอง และจัดอันดับ 76 จังหวัด ที่มีความปลอดภัยทางถนนยอดเยี่ยมกับจังหวัดที่ยังมีความเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ยังมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ “พลังเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน” มีการแบ่งห้องประชุมต่างๆ 5 ห้องด้วยกัน มีห้องท้องถิ่น ห้องสถานศึกษา ห้องบังคับใช้กฎหมาย ห้อง MIS และห้องสถานประกอบการรถสาธารณะ กิจกรรมในครั้งนี้แต่ละห้องจะมีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างกว้างขวาง

หนึ่งในห้องบังคับใช้กฎหมายที่ร่วมประชุมครั้งนี้ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรโรจน์ รองตำรวจภูธร จังหวัดระนองเปิดเผยถึงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุว่า ตำรวจภูธร จังหวัดระนอง มุ่งเน้นในเรื่องของลดอุบัติเหตุให้มีจำนวนเป็นศูนย์ จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ในแต่ละเดือนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น  5 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถมอเตอร์ไซต์ ปัญหามาจากขับรถเร็ว แต่ถ้าผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยตัวเลขการตายก็จะไม่สูง


พ.ต.อ.วันไชย  ชี้แจงต่อว่า สาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุอยู่ที่ผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภัย ตำรวจภูธร จังหวัดระนอง จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% เป็นการรณรงค์นำร่องใน 2 เขตพื้นที่ คือ โรงพักเมืองระนองกับโรงพักสามน้ำ จากสถิติผู้ขับขี่ไม่สวมหมวก 40% และผู้ซ้อนท้าย 1% เลยมีการประชาสัมพันธ์ 3 เดือน แต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย จึงใช้มาตราการต่อไป คือให้ทุกองค์กรขับเคลื่อนไปด้วยกัน อย่างเช่น ช่วยกันสวมหมวกนิรภัยให้ประชาชนเห็น นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยง ทางโค้งต่างๆ อีกด้วย

ทั้งนี้นอกจากห้องบังคับใช้กฎหมายแล้ว ห้องสถานศึกษายังมีส่วนสำคัญในการช่วยกันหาทางออกของอุบัติเหตุ โดยใช้กลยุทธ์เพิ่มหลักสูตรการเรียนรู้อุบัติเหตุบนถนนให้กับเด็ก ไพศาล ลาภจรัสแสงโรจน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 3 จังหวัดลำปาง เล่าว่า ทางโรงเรียนมองว่าการเกิดอุบัติเหตุในสถาณศึกษาเป็นภัยมืด เกิดขึ้นบ่อยมาก ทางโรงเรียนจึงใช้วิธีสอนเด็กในวิชาเรียน เกี่ยวกับการตระหนักถึงพิษภัยบนท้องถนน เพราะโรงเรียนหรือภาคส่วนต่างๆได้ดำเนินการมาพอสมควรในเรื่องของการรณรงค์ อย่างเช่น ศึกษาเกี่ยวกับการลดอุบัติเหตุ รณรงค์ใช้รถบนถนน ซึ่งการแก้ไขเหล่านี้เป็นช่วงหรือกระแสมากกว่า เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

“การแทรกด้วยหลักสูตรในห้องเรียนสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนมากกว่า ถึงแม้ผู้บริหารหรือใครย้ายไป ถ้าจัดเป็นแผนกิจกรรมในชั้นเรียน อยู่ในหลักสูตรแผนการเรียน ก็จะอยู่ในโรงเรียนเหมือนเดิม ทั้งนี้โรงเรียนเทศบาล 3 จังหวัดลำปางมีแผนดำเนินโครงการนี้กับเด็กตั้งแต่ ชั้นอนุบาล ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพราะปลูกฝังด้วยการเรียน สร้างการรับรู้ ระมัดระวัง รวมไปถึงสร้างความถนัดให้กับเด็กอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งเมื่อใช้แผนดังกล่าวช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาอุบัติเหตุไม่เกิดกับนักเรียนเลย เด็กจะสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่ และระมัดระวังมากขึ้น และที่สำคัญสถิติการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนมีจำนวนที่มากขึ้นด้วย” ผู้อำนวยการสถานศึกษา กล่าวทิ้งท้าย

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเราขับขี่ด้วยความไม่ประมาท และไม่ระมัดระวัง หันมาใส่ใจเรื่องนี้ให้กันมากขึ้นนะค่ะ

 
ที่มา : http://bangkokrides.com/article/article18.html






 



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ