Advertisement
เหตุผลที่เราเขียน Blog เรื่องนี้ขึ้นมาด้วยเหตุว่ามีบุคคลที่เข้ามาอ่าน Blog ในเว็บของเราเกี่ยวกับเรื่อง 3 Tagsเป็นTitle Tag, Meta Description รวมถึง H1 Tag จำนวนมาก อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ก็ถูกใจมีปริศนาเกี่ยวกับ 3 Tags นี้ด้วยเหมือนกัน Title Tag, Meta Description รวมถึง H1 Tag เป็น Tag รากฐานสำคัญสำหรับวิธีการทำ SEO มาตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และก็ยังคงส่งผลต่อไปอีกในอนาคตแน่นอน3 Tags นี้มีชื่อกันดีอยู่แล้วในวงการ SEO ถึงแม้ว่าเท่าที่มองจากเว็บส่วนมากใหญ่แล้ว เกือบจะไม่มีเว็บไซต์ที่นำ 3 Tags นี้ไปใช้อย่างแม่นยำ พวกเราก็เลยอยากได้แชร์วิชาความรู้ที่มีเกี่ยวกับ 3 Tags ให้ทุกคนได้ทราบไปพร้อมเพียงกัน
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา Blog ของเราได้มีการเขียนชี้แจง Title Tag, Meta Description และก็ H1 Tag แบบลึกเอาไว้ให้ถี่ถ้วนแล้ว แม้กระนั้นคราวนี้จะขอเขียนบทสรุปง่ายๆแบบว่าคนที่พึ่งเริ่มพอใจ SEO หรือใครกันแน่ที่สนใจมาอ่านก็สามารถรู้เรื่องเกี่ยวกับ 3 Tags ได้ทันทีทันใด ส่วนผู้ใดที่มีความรู้มากอยู่แล้ว ต้องการจะอ่านเนื้อหาลึก ก็สามารถอ่านได้จากลิงก์ข้างล่าง
Title Tag
Title Tag เป็น 1 ในสิ่งสำคัญมากมายก่ายกองๆในแนวทางการทำ SEO บอกได้ว่า ถ้าไม่มี Keyword ใน Title Tag และอยากทำให้ SEO เสร็จนั้นเป็นได้ยากจำนวนมากๆเนื้อความที่อยู่ใน Title Tag จะแสดงในการหน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google โดยแสดงในบรรทัดแรกของแต่ละชั้น ประเด็นหลักที่แสดงจะมีขนาดตัวหนังสือใหญ่สุดสีน้ำเงิน
แม้กระนั้นไม่ได้แสดงในหน้าเว็บ โดยเหตุนี้สาระสำคัญที่ใช้ก็เลยควรเป็นเนื้อความที่ชวนให้คนอยากคลิกเข้ามาในเว็บไซต์
SERP-title tag
สิ่งสำคัญที่ควรจะรู้
Google ให้ความใส่ใจกับ Title Tag มากมายๆ
ในหน้าการแสดงผลการค้นหา Title Tag จะเด่นที่สุด
เนื้อความใน Title Tag จำเป็นจะต้องน่าดึงดูดเพราะจะก่อให้คนต้องการคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ แต่ถ้าหากไม่น่าสนใจอัตราการคลิกก็จะน้อยตามไปด้วย
ข้อควรจะปฎิบัติ
ทุกหน้าในเว็บต้องมี Title Tag หากแม้ห้ามมีมากมายก่ายกองกว้าสองอันในหน้าเดียวกัน
เนื้อความใน Title Tag ควรจะมี Keyword
เขียนเนื้อความให้น่าสนใจ น่าคลิก
เขียนเนื้อความให้มีความยาวประมาณ60 ตัวหนังสือ
ห้ามใจความใน Title Tag ซ้ำกันกับหน้าอื่นๆในเว็บไซต์ของคุณ
Meta Description
Meta Description แสดงด้านล่างในหน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google มีบทบาทชี้แจงเนื้อหาในหน้าแบบย่อๆว่าในหน้านั้นๆเกี่ยวกับอะไร ซึ่ง ณ ตอนนี้ Meta Description เกือบไม่มีผลต่อการจัดลำดับ SEO เลย หากแม้มีผลเยอะแยะต่ออัตราการคลิกเข้ามายังเว็บ ในการเขียน Meta Description จำเป็นจะต้องใช้เวลาสักนิด เพราะควรต้องสรุปย่อๆให้น่าสนใจรวมทั้งน่าคลิก ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีการเพิ่มหน้าครั้งละไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งควรต้องเพิ่มบ่อยๆบางทีอาจจะไม่ต้องใส่ Meta Description ก็ได้ หรือถ้ามี Meta Description แล้วซ้ำกับหน้าอื่นๆก้ไม่ต้องมีจะดียิ่งกว่า
SERP-meta description
สิ่งสำคัญที่น่าจะทราบ
Meta Description แสดงในหน้าการแสดงผลการค้นหาต่อจาก Title Tag รวมทั้ง URL เว็บไซต์
มีผลต่ออัตราการคลิกเข้าเว็บไซต์สูง
ไม่ค่อยมีผลต่อการจัดลำดับ
เมื่อ Keyword ที่ใช้ในการค้นหาตรงกับ Keyword ที่มีอยู่ใน Meta Description, Keyword นั้นๆจะแสดงเป็นสีแดง (หรือแสดงเป็นตัวดก)
ถ้าหากหนักมากมายที่จะคิด Meta Description ไม่ใส่ก็ได้
SERP-meta description-keyword
ข้อควรจะปฎิบัติ
เนื้อความใน Meta Description ควรมี Keyword
เขียนเนื้อความให้น่าสนใจ น่าคลิก
เขียนใจความให้มีความยาวราว 160 ตัวหนังสือ
ข่มใจความลับ Meta Description ซ้ำกันกับหน้าอื่นๆในเว็บของคุณ
H1 Tag
H ของ H1 Tag มาจาก Heading ซึ่งหมายความว่า ชื่อ / หัวเรื่อง Heading มีด้วยกันทั้งปวง 6 Tagเป็นH1-H6 ซึ่ง H1 Tag จะมีความจำเป็นเยอะที่สุด ส่วน H อื่นๆก็จะมีความสำคัญลดหลั่นกันลงไปเป็นลำดับ H1 Tag สำคัญมากแต่มีความแตกต่างจาก 2 Tags ที่ได้กล่าวมาข้างต้นตรงที่ H1 Tag จะไม่แสดงที่หน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google แม้กระนั้นจะแสดงในหน้าเว็บไซต์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวใจความที่อยู่ใน H1 Tag ก็เลยไม่ต้องน่าคลิก
สิ่งจำเป็นที่ควรจะรู้
ไม่แสดงที่หน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google
ส่งผลต่อการจัดลำดับปานกลาง
บางทีอาจจะชนกับการเขียนเว็บไซต์ ดังนั้นในการใส่ H1 Tag เลือกพื้นที่ให้เหมาะ เพื่อดูงดงาม
ในหน้าเว็บเดียวกันเนื้อความที่อยู่ใน H1 Tag สามารถดังใจความที่อยู่ใน Title Tag ได้
ข้อน่าจะปฎิบัติ
ทุกหน้าในเว็บจะต้องมี H1 แต่ห้ามมีจำนวนมากกว้าสองอันในหน้าเดียวกัน
ดวงใจความลับ H1 Tag ควรมี Keyword
เว็บไซต์ 1 หน้า ควรมี H1 Tag 1 Tag แค่นั้น
ห้าม H1 Tag ซ้ำกับหน้าอื่นในเว็บไซต์ของคุณ
เพิ่มเติมอีก
Meta Keywords มิได้เป็นเหตุในการจัดลำดับของ Google แล้ว แม้กระนั้นส่งผลกับ Search Engine อื่น เช่น Bing, Yahoo! อื่นๆอีกมากมาย แต่เนื่องจากคนไทยเกือบจะ 100 % ใช้ Google เป็นหลัก ดังนั้นชี้แนะว่าลบ ออกไปเลยดีกว่า แล้วหลังจากนั้นก็บางทีคุณอาจจะเสีย Keyword ออกไปเพราะว่าคู่อริสามารถเข้ามามองในเว็บไซต์ได้
ถ้าอยากอ่านข้อมูลอื่นๆสามารถกดลิงก์ได้ตามข้างล่าง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
seoTags : เรียนรู้ SEO,อบรม SEO