ความไม่เหมือนของการสอน seo แล้วก็การสอน sem มีความต่างกันอย่างไรในวิธีการทำธุรกิ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความไม่เหมือนของการสอน seo แล้วก็การสอน sem มีความต่างกันอย่างไรในวิธีการทำธุรกิ  (อ่าน 10 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Narongrit999
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21927


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: เมษายน 07, 2017, 11:44:10 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ภายหลังที่มีผมได้ชี้แจงศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจถามคำถามเกี่ยวกับแวดวงนี้เข้ามาพอเหมาะพอควรครับผม ซึ่งน่าจะมีเหตุมาจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังครึกครื้นมากในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทสัญชาติไทยแล้วก็กลุ่มบริษัทต่างประเทศ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวประเด็นการโฆษณาเว็บไซท์รวมทั้งหนทางวิธีขายทางด้านอิเล็กทรอนิกส์กันอีกครั้ง



ดังนั้น ฉบับนี้ผมจึงอยากะขออนุญาติพูดถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักครั้ง โดยถือโอกาสอธิบายลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนมักจะงงเต็กกันเสมอๆเวลาผมมีโอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้าขอรับ มันก็คือคำว่า “SEO” รวมทั้ง “SEM”



สำหรับท่านที่เคยมีความสนใจประเด็นการตลาดออนไลน์นั้น บางทีอาจจะเคยได้ฟังคำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งถ้าจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อบอกความหมายถูกนั้น จริงๆต้องจัดคำพูดใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับ Search Engine”



คำว่า “Search Engine” นี้หมายความว่าเว็บไซท์ที่ใช้สำหรับเพื่อการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ที่ได้รับความนิยมสุดในขณะนี้มันก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมด้อยกว่าลงมาคือ “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของประเทศเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย



ในโลกที่มีเว็บไซท์เป็นอันมาก กรรมวิธีที่ Search Engine เหล่านี้ใช้สำหรับเพื่อการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างแล้วก็แต่ละเว็บไซท์มีข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อสามารถแสดงผลลัพธ์การค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น คือการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั่วโลกโดยอัตโนมัติ เพื่อกระทำการอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีรายละเอียดอะไร รวมทั้งแต่ละเว็บไซท์นั้นควรจะได้รับความสำคัญแค่ไหน ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท



ทั้งนี้ เนื่องมาจากในขณะนี้นั้น วิธีการหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าดึงดูดที่ยอดนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”เหล่านี้ ฉะนั้น “SEO” นั้นจึงซึ่งก็คือการปรับเนื้อหาและส่วนประกอบเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านรายละเอียดพวกเราได้ง่าย และทำให้เว็บไซท์เราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนทำการ “Search” เนื้อหาที่พวกเราคิดว่าตรงกับเนื้อหาเว็บไซท์เรานั่นเอง



แน่ๆว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในมากมายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆก็ตามทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บแต่ละแห่งนั้นอยากที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตนเองให้ติดอันดับสูงๆกระทั่งกำเนิดเป็นวงการผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆมากมายก่ายกอง เพื่อคนสามารถศึกษาและทำการค้นพบเว็บไซท์ตนเองได้เมื่อเขากระทำการ “Search”โดยใช้คำบอกเล่า (“keywords”) ที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่าเป็นต้นว่า ถ้าเราเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ พวกเราก็น่าจะอยากได้ให้เว็บไซท์ของเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เฟอร์นิเจอร์”หรือ “ร้านค้าขายเครื่องเรือน” เป็นต้น



ทั้งนี้วิธีการทำ SEO หลักๆมีสองแบบ แบบที่หนึ่งเป็นการมีองค์ประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับการวางแบบเนื้อหาเว็บไซท์ และก็การทำโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างพิถีพิถันซึ่งก็เปรียบเสมือนการทำหนังสือหรือนิตยสารที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำเนื้อหา แล้วเมื่อเผยแพร่บนเว็บไซท์ก็สามารถปล่อยให้ Search Engine พิจารณาต่อเอง



ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่มักจะทำกันเป็นรายเดือนหรือต่อเนื่อง โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บไซต์ โดยจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้เชี่ยวชาญนั้น จะมีความรู้ว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรในการประมาณความสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ รวมทั้งจะใช้กลยุทธวิธีต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อเว็บไซท์เรานั้นติดอันดับสูงมากขึ้นๆรวดเร็วกว่าที่มันบางทีอาจจะจะต้องเป็นตามปกติ (แบบอย่างการ“ปั่น” ในอดีตกาลที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยบริบูรณ์เหมือนปัจจุบันนี้เป็น การที่ชาวต่างประเทศปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดอันดับที่หนึ่งเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google)



การทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยอาจจะเสียเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในตอนทำเว็บไซท์ แต่ว่าไม่ต้องเสียถัดไปเมื่อทยอยทำรายละเอียดเว็บไซต์โดยตลอด แต่ว่าแนวทางการทำ SEO แบบลำดับที่สองนั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่จำต้องทำตลอดเนื่องจากว่าคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะทำการปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดเวลา



แต่ แท้จริงแล้ว SEO นั้นมิได้เป็นกระบวนการหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงวิธีเดียว เนื่องจากตัว Search Engine แต่ละที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงโปรโมท โดยจะทำการขึ้นประชาสัมพันธ์เมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่เราได้ระบุไว้ ซึ่งการลงโฆษณาอย่างงี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง



รายจ่ายในการลงประชาสัมพันธ์นั้น จะขึ้นตามจำนวนการคลิกเข้ามาดูเว็บไซท์ของผู้เข้าชมเท่านั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นกับว่ามีคนอยากลงประชาสัมพันธ์เมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำกล่าว (keywords) เดียวกันกับที่พวกเราอยากมากมายก่ายกองแค่สักแค่ไหน ถ้าเป็นคำพูดที่กว้างๆอย่าง “เฟอร์นิเจอร์” แล้ว ค่าครองชีพก็ชอบแพง แต่หากเป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง และก็ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆด้วย



อย่างไรก็แล้วแต่ หลายๆครั้ง ผู้ครอบครองเว็บไซท์จะทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับวิธีการทำ SEO รายเดือนแทนที่จะทำ SEM เพราะว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงโปรโมทนั้นไม่น่าจะได้ผล บางทีอาจเนื่องจากตัวเองมีนิสัยรังเกียจคลิกคำโฆษณาชวนเชื่อ หรือจ่ายค่าSEO จนกระทั่งลืมตัวแล้วก็คิดไปว่า จริงๆแล้วเปลี่ยนแปลงงบมาจ่ายลงโฆษณาแบบ SEM อาจทำให้สามารถคุมค่าครองชีพได้มากเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นได้ เหตุเพราะค่าใช้สอยในการว่าจ้างผู้ที่มีความชำนาญทำ SEOนั้นก็ไม่ได้ถูกนัก



จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบเสมือนเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อให้เอ่ยถึงรวมทั้งชี้แนะผลิตภัณฑ์ของพวกเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แต่ถ้าหากคำพูดที่เราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วๆไปเขาคิดจริงๆก็บางทีอาจส่งผลเสียกลับมา แล้วก็ยังจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสม่ำเสมอในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเสมอเหมือนการใช้ Marketing Tools แล้วก็ MarketingChannels ปกติ เพื่อให้คนพอใจ และเกิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากยิ่งกว่า



อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดแล้วการทำ SEO และ SEMนั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบกิจการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องทางด้านการค้าหรือหนทางการประชาสัมพันธ์อย่างเอาจริงเอาจังทั้งสอง จึงเป็นเรื่องที่ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้ารวมทั้งทำความเข้าใจเสริมเติมเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกทางการเดินที่เหมาะกับธุรกิจของเราให้ได้นะครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : seo

Tags : สอน seo,seo



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ