ถิ่นกำเนิดสมุนไพรกวาวเครือขาวและลักษณะทั่วไปที่น่ารู้

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถิ่นกำเนิดสมุนไพรกวาวเครือขาวและลักษณะทั่วไปที่น่ารู้  (อ่าน 61 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2017, 07:43:29 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


กวาวเครือขาว
ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือขาว
ชื่ออื่นๆ / ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ , จานเครือ (อีสาน) ,ตานเครือ , ทองเครือ , จอมทอง , (ใต้) ตานจอมทอง (ชุมพร) โพ้ต้น ( กาญจนบุรี) .โพะตะกู
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pueraia candollei Graham ex Benth. Var mirifica
ชื่อวงศ์  Leguminosae-Papilionoideae
ถิ่นกำเนิ[/url]    [/b]
กวาวเครือขาวเป็นพืชที่ขึ้นแถวบริเวณป่าเบญจพรรณ พบจากทั่วไปตั้งแต่ อินเดีย กลุ่มประเทศอินโดจีน  มาเลเซีย  อินโดนีเซีย  จีน  ญี่ปุ่น  และ ไทย ส่วนในประเทศไทย   พบกระจากในป่าเบญจพรรณในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่จะพบเห็นมากในภาคเหนือของไทย  โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอินทรีย์สารสูงตามชายป่า  ดินที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 5.5 ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 300 – 800 เมตร  ในสภาพธรรมชาติมีการกระจาดพันธุ์ด้วยเมล็ด  โดยทั้งนี้พบว่าจะมีการออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมและติดฝักในเดือนเมษายน  สามารถเจอกวาวเครือขาวพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่โดยเฉพาะต้นสักในจังหวัดกาญจนบุรี  ตาก ลำปาง  เชียงใหม่  ในบริเวณที่เป็นป่าไผ่ในจังหวัดกาญจนบุรี  สระบุรี  ลพบุรี  ชัยภูมิ  เจอว่ามีกวาวเครือขาวกระจากพันธุ์อยู่ได้ดีเช่นกัน
ลักษณะทั่วไปกวาวเครือขาว
กวาวเครือขาวเมื่อก่อนถูกให้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Butea superba Roxb. เป็นพืชตระกูลถั่ว ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ลักษณะเป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่  ผลัดใบ เลื้อยพาดพันบนต้นไม้ชื้น
            ลำต้นเกลี้ยง อาจยาวถึง 5 เมตร ใบเป็นในประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ (Pinnately trifoliate) เรียงสลับกันปลายใบมีลักษณะรูปไข่ปลายแหลม  เนื้อใบด้านบนเกลี้ยงด้านล่างมีขนสั้นๆ ประปรายเส้นแขนงใบข้างละ 5 – 7 เส้น  ใบย่อยด้านข้างโคนมีลักษณะเบี้ยว หูใบรูปไข่ มีเยื่อก้านใบเห็นเด่นชัด  ใบประดับมีลักษณะเป็นเกล็ดมีขนาดเล็กมาก
            ดอกออกในระยะผลัดใบ เป็นช่อยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ดอกจะออกตามซอกกิ่ง  ข่อดอกเป็นข่อเดี่ยวและช่อแยกแขนงออกปลายกิ่ง  ดอกมีกลีบประดับรองรับ ดอกย่อยเป็นรูปถั่วเป็นดอกสมบูรณ์เพศมีทั้งเพศผู้และเพศเมียในดอกเดียวกัน ลักษณะทรงดอกเป็นแบบ Zygomorphic แบบที่เรียกว่า Papilionacaceous form ดอกประกอบด้วยกลีบดอก 5 กลีบ ที่มีขนาดและรูปร่างไม่เหมือนกัน กลีบที่อยู่นอกสุดมีขนาดใหญ่สุด เรียกว่ากลีบ Standard กลีบที่ประกบอยู่ทางด้านข้างทั้งสอง มีรูปร่างเหมือนกัน คืองอนโค้งคล้ายปีกนกเรียกว่า กลีบ wing กลีบที่อยู่ด้านในสุด 2 กลีบ จะเชื่อมรวมกันเป็นกระพุ้งคล้ายท้องเรือ เรียกว่า กลีบ (keel) เป็นกลีบที่ห่อเกสรไว้ มีก้านชูอับเรณูติดกัน ดอกมีสีฟ้าอมม่วงถึงสีน้ำเงิน 2 – 3 ดอกต่อช่อ มีเกสรตัวผู้ 10 อัน รังไข่ยาวเป็นแบบ superior ภายในมี 1 ห้องมีเม็ดไข่อยู่ภายใน
            ฝักมีลักษณะ แบน เมื่อแก่มีสีออกน้ำตาล ผิวมีขนสั้นๆ ประปรายถึงเกลี้ยง ฝักมีความกว้างประมาณ 7 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร มีเมล็ด 3 – 5 เมล็ดต่อฝัก เมล็ดมีรูป กลมมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 2 – 4 เซนติเมตร เมล็ดแก่จะมีลายสีเขียวปนม่วง หรือ สีน้ำตาลปนม่วง
            หัวเป็นหัวใต้ดินเหมือนหัวมันแกว (Tiberous root) จะมีฤทธิ์ทางยามากในขณะที่ผลัดใบ มีหลายขนาด หัวที่มีอายุมากมีขนาดใหญ่ อาจมีน้ำหนักมากถึง 20 กิโลกรัม ที่เปลือก เมื่อเอามีดปาดจะมียางสีขาวเหมือนน้ำนม  เนื้อในสีขาวคล้ายมันแกว  เนื้อจะเปราะ มีเส้นมาก รสเย็นเบื่อเมา หัวที่ยังเล็ก เนื้อในจะละเอียด มีน้ำมาก
 

Tags : กวาวเครือขาว



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ