ความรักของสาวงามที่เป็นเหตุให้เธอต้องชื่นชอบหนุ่มไปจนวันตาย

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรักของสาวงามที่เป็นเหตุให้เธอต้องชื่นชอบหนุ่มไปจนวันตาย  (อ่าน 39 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Puttichai9876
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25904


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2017, 08:24:06 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


กรณิการ์ ที่ลืมตาตื่นในวันยามเช้าวันใหม่ แสงอาทิตย์ที่ส่องทะลุหน้าต่างทำให้สตรีที่พักผ่อนอยู่กระพริบตาหลายคราว ในทันทีทันใดที่เห็นภาพบรรยากาศเดิมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่ปลง ดวงตากลมโตตรวจรอบๆห้องด้วยเหตุว่าเมื่อวานนี้ตัวคุณรู้สึกเพลียๆจึงหลับไปก่อนที่ได้สำรวจรอบๆข้างในห้อง

คุณยืนขึ้นมาจากเตียงนอนพร้อมทั้งค่อยๆเดินสำรวจ นิ่วมือเรียวบางถูกเอาขึ้นมาลูบค่อยที่ตรงปลางคาง ขณะที่กำลังคิดมาก อืม..นี่มันเสมือนข้าวของเครื่องใช้ในสมัยจีนโบราณที่ฉันเคยอ่านพบตามพวกหนังสือประวัติความเป็นมา ของคนจีนเลย กรรณิการ์ พินิจพิจารณาถ้วยชาในมือ ก่อนที่จะเบนความสนใจไปยังตู้สำหรับเก็บหนังสือ เธอเลือกถือมาอ่านหนึ่งเล่มเป็นหนังสือเกี่ยวกับพลังธาตุต่างๆภาษาที่มองแปลกตาการเขียนอักษรแบบนี้ภาษจีนชัดๆการแต่งตัวที่เธอมักเห็นตามหนังกำลังภายใน แต่ที่แปลกเป็นในที่ที่นี้ไม่มีปรากฎในประวัติศาสตร์ของจีนอย่างแน่ นอน

กรรณิการเปิดมองเนื้อหาด้านในหนังสือเรื่อยๆเธอรู้สึกพอใจในสิ่งที่เขาเรียกกันว่า พลังธาตุ ใช่แล้วเธออยากฝึก แต่ดังที่หญิงรับใช้เล่าราวให้เธอได้ฟังเมื่อวานร่างนี้ไม่มีพลังอะไรเลย เฮ้อ อย่างนี้ฉันจะทำอะไรได้บ้างเนี่ย!! กรรณิการ์บ่นกับตัวเองก่อนจะเอาหนังสือเก็บเข้าชั้นวางตามเดิม พอดีกับหญิงรับใช้ที่มีนามว่าซื่อสินถืออ่างน้ำเดินเข้ามาภายใน


“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าขา”


“อืม ข้าตื่นแล้ว” กรณิการ์ตอบกลับไปกับเดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ซื่อสินวางอ่างน้ำก่อนจะมาปรนิบัติเตียนหนูน้อยของตนเอง กรรณิการ์สาวไทยที่เคยชินกับการอาบน้ำวันละสองถึงถามครั้ง เพียงพอหญิงรับใช้แจกแจงว่าให้นำผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าและบ้วนปาก พร้อมด้วยนำใบอะไรบางอย่างมาให้บดเพื่อขจัดกลิ่นแค่นั้น ก็รู้สึกงวยงงอยู่พอเหมาะพอควร


“ซื่อสินฉันต้องการอาบน้ำมากกว่า” กณิการ์พูดออกมาในระหว่างที่บ้วนปากเรียบร้อยแล้ว

“แบบนั้นคุณหนูจะอาบไหมเจ้าขาบ่าวจะให้ให้คนจัดแจงน้ำให้”


กรณิการ์ โบกไม้โบกมือ “วันนี้ยังไม่ต้องหรอก แต่นับตั้งแต่วันพรุ่งฉันจะอาบน้ำวันละสองรอบโน่นคือขณะที่ตื่นนอน กับช่วงเย็น วันนี้แค่นี้ก่อนก็ได้”


“เจ้า ค่ะคุณหนู” ซื่อสินตอบรับกับเดินไปตระเตรียมชุดเพื่อนำมาให้ท่านหนูของตัวเองทำผลัด เปลี่ยน กณิการ์เบ้หน้าน้อยกับชุดสีหวานแหววพวกนี้ จนถึงอดไม่ได้ที่จะเดินไปยังตู้ใส่เสื้อผ้า ทันทีที่สายตาเห็นสีของชุดทั้งหมดที่มีในตู้ก็รู้สึกขนลุกในทันที นี่อะไร สีชมพู สีฟ้าอ่อน สีเหลืองอ่อน สีมันหวานเกินความจำเป็น!!!


“มี ชุดสีอื่นอีกไหม” กรณิการ์ถามเสียงเรียบ ถูกถามทำสีหน้าท่าทางประหลาดใจน้อย “ชุดเหล่านี้ล้วนเป็นคุณที่คุณหนูชื่นชอบทั้งนั้นเลยนะเจ้าค่ะ”


“แต่ว่า ฉันว่ามันหวานเกินไป” กรรณิการ์บอกพร้อมกับเลือกสีที่จะใส่ด้านในวันนี้เอง ในที่สุดก็เลยจบด้วยสีฟ้าอ่อน ที่มันดูหวานน้อยกว่าชุดอื่นๆซื่อสินช่วยคุณหนูเปลี่ยนเสื้อผ้า กรรณิการ์ถึงจะรู้สึกอายที่จะจำเป็นต้องแก้ผ้าซึ่งๆหน้าบุคคลอื่น แต่ว่าจะให้ทำเช่นไรในเมื่อคุณใส่ชุดพวกนี้ไม่เป็น กรณิการ์เดินมานั่งยังโต๊ะเครื่องแป้ง ซื่อสินกำลังจะลงมือทำให้หมดจดผิวแล้วก็แต่งหน้าให้คุณหนู ก็จำเป็นต้องหยุดชะงักเพราะเหตุว่าคุณหนูพูดว่าจะทำเอง

กณิการ์ ทาแป้งเพียงนิดหน่อย แต้มชาดสีแดงก่อนที่จะเกลี่ยให้สีของมันอ่อนลง ตัวของคุณเดิมทีเป็นรังเกียจแต่ว่าหน้าด้านอยู่แล้ว คุณชอบอ้อนแอ้นเบา แลดูอย่างเป็นธรรมชาติ “ซื่อสินฉันต้องการจะตัดชุดใหม่ แถวนี้มีร้านเสื้อผ้าบ้างหรือเปล่า?”


“มีเจ้าค่ะ”


เมื่อ ได้รับคำตอบไม่รอคอยช้ากรณิการ์จึงบอกให้หญิงรับใช้ของคุณ พาคุณไปร้านค้าเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน ภายหลังที่กินอาหารมื้อเช้าตรู่เสร็จเรียบร้อย เพราะว่าถ้าเกิดยังขืนให้เธอใส่ชุดสีหวานๆพวกนี้ถัดไป เธอคงทนอยู่กับความเบื่อไม่ได้ คนรับใช้ภายในจวนเห็นหนูน้อยปรากฎตัวในเช้าวันนี้ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากว่าปกติอาการของคุณเดินก็ดูสวยสดงดงามอยู่แล้ว แต่วันนี้มันกลับรู้สึกบางสิ่งบางอย่าง ความหน้าเกรมขาม?


“อุ้ย!! ดูนั่นนะซิหนูน้อยหลินล่ะ” สตรีนางหนึ่งกล่าวออกมา


“นี่ๆเรารู้มาว่า เมื่อวานนี้องค์ชายสี่ไปหานางที่จวนด้วยนะ” สตรีนางที่สองพูดจาจีบปากจีบคอ


“ข้า ว่า ตัวหนูน้อยหลินคงถูกยกเลิกการหมั้นหมายแน่ๆ” เสียงนินทาแล้วก็หัวเราคิกๆคักๆ ของบรรดาเหล่าแมลงวัน น่าฟังของกรณิการ์เป็นระยะ แม้กระนั้นตัวเธอก็มิได้พึงพอใจ จะไปต่อปากต่อคำกับพวกเด็กน้อยให้ได้อะไรขึ้นมา เมื่อมาถึงร้านตัดชุด กณิการ์ก้ได้เลือกผ้า สีม่วง สีน้ำเงิน สีเขียว ใจจริงคุณอยากได้สีดำด้วย แต่คนใช้ของเธอดันห้ามเอาไว้


“คุณหนูหลิน ก็มาที่ร้านเสื้อผ้าเช่นเดียวกันหรือ??”


กรรณิการ์เบือนหน้าไปตามเสียง ก้พบกับบริเวณใบหน้างามของสตรี ที่ไปพบตัวเธอเมื่อวานนี้ “อ้อ..นึกว่าคนไหนกันแน่ที่แท้แม่นางจวงนี่นี่เอง”


“ข้า มีนามว่าจวงลี่มี หาใช่จวงนี่นี่ หนูน้อยหลินอาจจะขี้หลงขี้ลืมแล้วมัง” จวงลี่มี่เอ่ยพร้อมทั้งยกแขนเสือขึ้นปิดปากนิดหน่อย ก่อนจะหัวเราะน้อยๆออกมา อิริยาบถที่จวงลี่มี่เพียรพยายามทำให้มอง อ่อนหวาน กรณิการ์มีความรู้สึกว่ามันปลอมเกินความจำเป็น


“อ๋อ อย่างนั้นเอง พอดีฉันจำแม้กระนั้นชื่อของคนที่หลักๆแค่นั้น ขอประทานโทษแม่นางจวง” กรรณิการยกยิ้มเล้กน้อย ถ้าแปลกันตรงๆก็คือ ตัวคุณไม่มีคุณค่าให้ฉันตั้งใจ ดังนั้นอะไรเกี่ยวกับตัวคุณ ฉันไม่เคยที่จะจำ


จวง ลี่มี่หน้าเสียนิดหน่อย ก่อนจะมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าว กณิการ์เมื่อมีความเห็นว่าคนรับใช้ของตัวเองจ่ายเงินเสร็จเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็เลยได้เดินออกมาจากร้านโดยไม่สนใจสตรีที่ยืนอยู่ตรงนั้น กรณิการ์เดินหันหลังกลับออกมาโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุว่า จวงลี่มี่เสกพลังธาตุในมือ ก่อนที่จะขว้างมาโดนแผ่นข้างหลังของกณิการ์เข้าเต็มๆร่างบางกระเด็น กระทั่งหัวไปกระแทกกับขอบโต๊ะ ซื่อซินรีบเข้าไปประคับประคองคุณหนูของตน จวงลี่มี่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยกระซุบกระซิบคำพูดที่เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน “เป็นเพียงแค่ขยะไม่มีคุณค่า อย่าประพฤติตัวโอหังให้มันเท่าไรนักหนูน้อยหลิน”


กณิการ์ ที่ในขณะนี้กำลังมึนกับความทรงจำต่างๆที่ไหลเข้ามาภายในหัว ไม่ได้ยินคำบอกเล่าที่ถูกแคลุกลนตนเองแม้แต่น้อย ความทรงจำต่างๆเกี่ยวกับครอบครัว บิดา และก็พี่ชาย รวมไปถึง แม่ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว คนใช้ในจวนที่รอจะนำเรื่องภายใน ไปนินทาให้กับคนอื่นยอมรับฟังเสมอ คำดูถูกถากถางต่างที่ทุกคนมีให้ รวมถึงความรักข้างเดียวที่ร่างนี้ มีต่อองค์ชายสี่ กรรณิการ์ประมวลผลทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่รับทราบอย่างเร็ว


“หนูน้อยไหวไหมเจ้าค่ะ” กรรณิการ์คืนสติเมื่อได้ยินเสียงเรียกของหญิงรับใช้ พร้อมทั้งน้ำตาที่คลอน้อยบริเวณดวงตา


“ฉันช่างเถอะ กลับจวนกันเหอะ” กณิการ์บอกสาวใช้ ซื่อสินยกแขนเสื้อขึ้นมาเฉือนน้ำตา ก่อนที่จะเบาๆพะยุงหนูน้อยของตนเองกลับจวน


เสียง เยาะเย้ยของมนุษย์ที่อยู่ในสถานะการณ์ สีหน้าท่าทางที่บ่งถึงความสะใจ กณิการ์รับรู้มันทั้งปวง รวมทั้งได้จำมันเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม ที่แห่งนี้ตัดสินคนด้วยพลังของธาตุสินะ ความสามารถถึงจะสะดุดตาแค่ไหน ถ้าไม่มีซึ่งพลังธาตุก็ยังคงเป็นขยะไม่มีทางได้รับเกียรติ หรือได้รับการเชิดชูอะไรก็ตามทั้งนั้น

คน กลุ่มนี้ไม่มีคุณค่าให้คุณเอาใจใส่ ที่สำคัญกว่าที่ผู้ที่รักแล้วก็เป็นห่วงคุณอย่างแท้จริง เรื่องที่เกิดขึ้นคุณไม่รู้เรื่องว่ามันคือเรื่องบ้าอะไร แต่ว่าตัวคุณที่เป็นถึงนักธุรกิจสาวไฟแรง คำดูกถูกคือแรงกระตุ้นของคุณ และก็เมื่อวันไหนที่คุณก้าวไปถึงจุดสุดยอดวันนั้น จะเป็นวันที่คุณได้จะได้กลับเหยียบคนที่กล้ามาดูถูกเธอในวันนี้


“ข้า ขออยู่คนเดียว” กรณิการ์บอกซื่อสิน ในเมื่อได้รับความทรงจำของคนภายในร่างนี้มาแล้ว สรรพนามที่ใช้เรียกคนอื่นจึงเปลี่ยนไป แต่ความสำนึกต่างๆยังคงเป็นของเธอเอง


กรรณิการ์ เดินตรงไปยังตู้หนังสือที่คุณได้เดินไปดูแล้วเมื่อเช้านี้ ในเวลานี้เธอตัดสินใจที่จะอ่านและก็เรียนรู้แบบเรียนเหล่านี้อย่างเอาจริงเอาจัง ทุกการบรรลุเป้าหมายจำเป็นต้องไขว่คว้ามาด้วยตัวเอง อดีตกาลขอร่างนี้บางทีอาจจะมองโง่ แล้วก็เฉลี่ยวฉลาดน้อยไปสักหน่อย แม้กระนั้นช่วงนี้มันได้แปรไปแล้ว ดวงตากลมโตเปิดอ่านหนังสือเรียนในมือ ไปทีละหน้า ทีละหน้า จนถึงหน้าในที่สุด ดวงตากลมโตก็ปิดลงเพื่อพักสายตา แต่ว่าด้านในสมองยังคงประมาลผลวิชาความรู้ทั้งหมดทุกอย่าง เรื่องพลังธาตุคุณจะเริ่มที่ไหนดีล่ะ


จู่ๆกรรณิการ์ก็คิดว่าตัวเองเหมือนจะถูกดึงไปไหนสักแห่ง โธ่เอ้ยย ทำไมวันนี้มันถึงมีแต่เรื่อง!!!!! คุณบ่นออกมา เมื่อรู้สึกอย่างกับตนเองได้จมลงในน้ำวน
บทความจาก https://goo.gl/q5byNI

Tags : หลินซูเหยา,สตรี,ผู้หญิง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ