ขายดีมากเป็นกระแสในการช่วยเหลือเกื้อกูลผิวของคุณให้มีผิวขาวงามปรับสภาพผิวของคุณแ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขายดีมากเป็นกระแสในการช่วยเหลือเกื้อกูลผิวของคุณให้มีผิวขาวงามปรับสภาพผิวของคุณแ  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Puttichai9876
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25904


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2017, 06:02:53 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ครีม v2 มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีความสำคัญในการรักษาความชื้นให้ผิว ถึงแม้ว่าผิวมนุษย์เราจะผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองแต่ตอนนี้มีสินค้าสำหรับดูแลรักษาผิวพรรณมากไม่น้อยเลยทีเดียวกมายที่มีองค์ประกอบไม่เป็นมิตรกับผิว มีฤทธิ์ระคายทำให้ผิวอ่อนแอรวมทั้งผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ลดลง การบำรุงผิวโดยพิจารณาถึงส่วนประกอบของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็เลยมีความจำเป็นเช่นกัน บางบุคคลหน้ามันแล้วกลัวว่าหากว่าใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะทำให้ผิวยิ่งมันครีม v2เป็นความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกนัก เนื่องจากว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลากหลายชนิดสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับภาวะผิวได้

ต้องการมีผิวสวย โปรดอ่านนี้ก่อน

ผิวหนังชั้นนอกสุด (stratum corneum หรือชั้นคราบไคล) เป็นชั้นที่เรามองเห็นด้วยสายตา ในสายตาคนรอบข้างหรือตอนพวกเราส่งกระจก ผิวพวกเราจะมองดูแห้ง ขาดเลือดฝาด ไม่สดชื่นหรืองาม สังกัดความสมบูรณ์ของชั้นนี้เป็นหลัก อยากให้ผิวมองดูงามในสายตาผู้ชม ก็จำต้องมารีบทำให้ผิวชั้นไคลบริบูรณ์กันจ้ะ

ศัพท์ที่จะเจอในเนื้อหานี้

Epidermis : ผิวหนังชั้นนอกสุด ภาษาไทยเรียกว่าชั้นผิวหนังชั้นนอกมี 5 ชั้นย่อย
stratum corneum : ชั้นไคล เป็นชั้นย่อยชั้นนอกสุดชองชั้นหนังกำพร้า
Corneocyte : เซลล์ในชั้นไคล มีการเรียงตัวเป็นชั้นๆโดยประมาณ 25-30 ชั้น บางแบบเรียนเรียก Corneocyte ว่าhorny cell
Brick and Motar Model : แบบจำลองการเรียงตัวเป็นชั้นๆของเซลล์ Corneocyte
Keratinocyte : เป็นคำรวมๆที่ใช้เรียกเซลล์ผิวทั้งปวงของชั้นepidermis เพราะเซลล์ผิวในชั้นหนังกำพร้าจะมี keratinเป็นองค์ประกอบด้านใน ทำให้ทุกเซลล์ในชั้น Epidermis ขึ้นชื่อว่าเป็น keratinocyte ทั้งสิ้น
NMFs : ย่อมาจาก Natural moisturizing factors เป็นสารประกอบหนึ่งที่อยู่ด้านในเซลล์ Corneocyteทำหน้าที่เก็บน้ำแล้วหลังจากนั้นก็รักษาความชื้นให้ผิวหนัง ภาษาไทยเรียก NMFsว่า "น้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ"
Intercellular lipids : ชั้นไขมันกันระหว่างเซลล์Corneocyteปฏิบัติภารกิจป้องกันไม่ให้ NMFs ด้านในเซลล์ Corneocyte รั่วออกมาข้างนอก บางตำราเรียนเรียกIntercellularlipids ว่า intercellular matrix หรือ Lipidbarrier
Sebaceous gland : ต่อมไขมันที่ปฏิบัติภารกิจผลิตน้ำมัน(sebum) มาฉาบผิว
TEWL : ย่อมาจาก Transepidermal Water Loss คือการสูญเสียน้ำผิวผ่านชั้น Epidermis ยิ่ง TEWL มีค่าสูงแปลว่ายิ่งมีการสูญเสียน้ำเยอะมาก

องค์ประกอบผิวหนังชั้นคราบไคล (stratumcorneum)
ชั้น stratum corneum มีการเรียงหน้าของเซลล์corneocyte อย่างเรียบร้อยเป็นชั้นๆราว25-30 ชั้น โดยมีintercellular lipidsเป็นตัวผสานล้อม ตำราเรียนฝรั่งได้เรียกการเรียงตัวแบบงี้ว่าBrick and Motar Model ภาพการเรียงหน้าของก้อนอิฐที่ก่อด้วยปูน Brick and Motar Model
Brickมีความหมายว่าอิฐ Motarมีความหมายว่าปูนภาพจำลองการจัดเรียงตัวของเซลล์ corneocyte เป็นชั้นๆโดยมีintercellularlipids เป็นตัวประสานซึ่งมีลักษณะราวกับการเรียงตัวของอิฐที่ก่อด้วยปูนก็เลยถูกเรียกว่า Brick and Motar Model ก้อนอิฐแต่ละก้อน เปรียบเทียบได้กับเซลล์ corneocyte

ภายในเซลล์ corneocyte มี NMFs ครีม v2ปฏิบัติภารกิจรักษาระดับน้ำด้านในเซลล์
NMFs ที่สำคัญๆเป็นAmino acids, PCA รวมทั้งน้ำตาลGlucose
NMFs เป็นสารที่เซลล์ชั้นหนังกำพร้าสามารถทำขึ้นได้เองตอนที่มีการเติบโตเป็นเซลล์เต็มวัย (keratinocytedifferentiation)
แม้มีต้นเหตุใดไปรบกวนการเจริญเติบโตของเซลล์keratinocyteก็จะก่อให้ NMFs ถูกทำลดน้อยลง และก็ส่งผลถึงความชุ่มชื้นของชั้น stratumcorneum

ปูนผสาน เทียบได้กับIntercellular lipids
เป็นตัวยึดเหนี่ยวเซลล์ ให้เรียงกันอย่างแน่นหนาและเรียบร้อย
Intercellular lipids ประกอบไปด้วยสารจำพวกไขมันยกตัวอย่างเช่น ceramides 47 %, cholesterol 24%, freefatty acids 11 % และก็ cholesterol esters 18 %

ผิวสวยเริ่มความสมบูรณ์ของชั้น stratum corneum
อยากได้ให้ผิวมองดูงาม ควรหันมาดูแลผิวชั้น stratumcorneum ให้บริบูรณ์โดยการรักษาระดับ NMFs รวมทั้งintercellular lipids ให้บริบูรณ์สูงที่สุด
การที่ระดับความชุ่มชื้นในผิวพอเพียงจะช่วยทำให้

เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่นดี ถูกทำร้ายได้ยาก
เสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ถ้าหากผิวขาดความชื้นที่เหมาะเหม็งเอนไซม์กลุ่มนี้จะทำงานไม่ดีการผลัดเซลล์ผิวก็เลยรวน ผิวหน้าหมองคล้ำ ฝ้ากระ สะสม รูขุมขนตัน เป็นสิว
เกื้อให้องค์ประกอบมีความแข็งแรงรวมทั้งทำหน้าที่กรองสารที่จะผ่านเข้าออกผิวก้าวหน้าและก็บริบูรณ์ หากผิวขาดความชื้นที่เหมาะสมเซลล์ corneocyte จะลีบแบน การเรียงหน้าไม่เรียบร้อยเกิดช่องโหว่ น้ำใต้ผิวระเหยออกง่าย สิ่งปลอมปนจากด้านนอกผ่านเข้าไปได้ง่าย ทำให้ผิวหนังอักเสบ มีการติดโรค ฯลฯ
รักษาระดับ pH ของผิว : ผิวที่มี pH ผิวสมควร จะช่วยปรับNMFs ถูกสร้างล้ำหน้า
สิวขึ้นลดลง : ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ทำให้เซลล์ผิวเรียงหน้าไร้ระเบียบครีม v2 มีการหลุดลอกไม่ปกติรวมถึงไปตันตามรูขุมขนเมื่อรวมกับน้ำมันที่ระบายออกมิได้ ก็เลยมีการตันเป็นสิวตันสิวอักเสบ เมือผิวเฉอะแฉะ การผลัดเซลล์กลับมาปกติ การอุดตันเกิดลดลง สิวลดลง
รูขุมขนกระชับ : ผิวที่เปียกแฉะสมควร เซลล์ corneocyteจะมีความอ้วนอิ่มและขยายตัวแทรกกัน ทำให้รูขุมขนซึ่งอยู่ระหว่างจุดเชื่อมของเซลล์ corneocyte ถูกบีบอัดให้แคบลงผิวก็เลยมองละเอียดขึ้น โดยเหตุนี้ในคนที่ผิวแห้งมากไม่น้อยเลยทีเดียวๆเว้นเสียแต่ผิวจะมองหยาบคายแล้ว รูขุมขนก็จะกว้างขึ้นด้วย อ่านเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับที่บทความเรื่อง ตาข่ายผิวภาพเปรียบเทียบผิวหนังปกติรวมทั้งผิวหนังที่แห้งผิวธรรมดา :เซลล์เรียงหน้าชิดกัน เรียบร้อย
inter cellular matrix บริบูรณ์
เหนือผิวข้างบนมีน้ำมัน (hydro lipid film) ฉาบอยู่เพียงพอ
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้น้อยผิวแห้ง การเรียงหน้าของเซลล์ผิวไม่รัดกุม ไม่มีระเบียบ
intercllular matrix มีน้อย/ไม่มีคุณภาพ
น้ำมันฉาบผิว (hydro lipid film) น้อย
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้มาก (TEWL สูง)บักเตรี สิ่งปลอมปนไปสู่ผิวได้ง่าย ผิวก็เลยเคืองและก็อักเสบง่ายผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้นเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร?
ผิวแห้งแล้วหลังจากนั้นก็ผิวขาดความชุ่มชื้นคล้ายคลึงกันแต่ว่าต่างกันคำว่าผิวแห้งเป็นคำใช้แบ่งแยกสภาวะผิวที่ประจำตัวมา ดังเช่น คนนี้ผิวมัน คนนี้ผิวผสม คนนี้ผิวแห้ง ซึ่งใช้จำนวนน้ำมันที่สร้างขึ้นจากต่อมไขมันเป็นตัวจัดหมวดหมู่


ผิวแห้ง(dry skin)หมายถึงผิวที่ขาดน้ำมัน (sebum)ฉาบผิวข้างบนเพราะเหตุว่ามีต่อมน้ำมัน ( sebaceous gland) ใต้ผิวน้อย ก็เลยผลิตน้ำมันได้น้อย เมื่อจำนวนน้ำมันฉาบผิวน้อยก็เลยสูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย ด้วยเหตุนั้นคนที่ผิวแห้งยังคงมีความสมบูรณ์ของ intercllular matrix และมีน้ำใต้ผิวที่พอเพียง ก็แค่ขาดน้ำมันที่ผิว
ผิวมัน (oily skin)หมายถึงผิวที่มีต่อมไขมันเยอะมากทั่วทั้งหน้าแล้วก็ผลิตน้ำมันมาฉาบผิวได้มาก ผิวภายนอกก็เลยมองมัน การสูญเสียน้ำใต้ผิวก็เลยเกิดขึ้นน้อย
ผิวผสม (mix skin)เป็นผิวที่มีต่อมไขมันบริเวณt-zoneเยอะมาก, u-zone น้อยทำให้หน้ามันเฉพาะบริเวณt-zoneส่วน u-zone ปกติหรือแห้ง

ส่วน ผิวขาดความชุ่มชื้น (dehydrated skin) เป็นผิวที่มีน้ำใต้ผิวต่ำ วัดน้ำใต้ผิวได้ < 10% เหตุอาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายใน

1.ปัจจัยภายนอก

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์มากเกินความจำเป็น : ทำให้ผิวหนังชั้นนอกมีการหมุนเวียนเร็วกว่าธรรมดา ผิวหนังที่มีการหมุนเวียนเร็วจะไม่สามารถสร้าง NMFsและ intercellular lipids ได้ทัน ก็เลยเสียความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษาน้ำให้ยังคงอยู่ในผิวหนัง
การใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างที่มีคุณสมบัติกำจัดน้ำมันฉาบผิวมากจนเกินไปครีม v2 : น้ำมันฉาบผิวน้อย สูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย
รังสี UV : ได้รับรังสี UV เยอะมากๆต่อเนื่องกัน ไม่ทาครีมที่เอาไว้ป้องกันแสงแดด รังสี UV จะรบกวนการผลิต NMFs
ความชื้นกลางอากาศ : ความชื้นในอากาศต่ำลงยิ่งกว่า10% จะดึงน้ำในผิวออกสู่ภายนอก ด้วยเหตุนี้ในห้องปรับอากาศในหน้าหนาว ซึ่งมีความชื้นต่ำ สามารถพรากน้ำใต้ผิวได้ตลอดระยะเวลา

2. ปัจจัยภายใน

อายุ : อายุครั้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การผลิต NMFs รวมทั้ง sebum ลดน้อยลง
เชื้อชาติ : ชาวเอเชีย มีปริมาณ NMFs ต่ำลงมากยิ่งกว่าเชื้อชาติอื่น
โรคผิวหนัง: โรคผื่นแพ้พันธุกรรม (atopicdermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) โรคเด็กดักแด้(Ichthyosis) โรคพวกนี้จะมีการแบ่งตัวของkeratinocyte (keratinization) เร็วกว่าธรรมดาหลายเท่า รวมถึงขับมาที่เปลือกอย่างเร็วเป็นต้นว่า 4 วัน (ธรรมดาใช้เวลา 28วัน) ทำให้ผิวหนังดกเป็นปื้นในขณะขั้นตอนสร้าง NMFs , intercellular lipids ยังเกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ เซลล์ผิวหนังก็เลยขาดแรงยึดเหนี่ยวกันตามธรรมดา เซลล์ผิวก็เลยหลุดลอกออกเป็นแผ่นๆได้ง่าย เหมือนเป็นสะเก็ดหรือเกล็ดขึ้นอยู่กับความรุนแรง

ลักษณะของผิวหนังที่ขาดความชุ่มชื้น(dehydrated skin)
- ผิวไม่เรียบ มีขุยไหมมีขุยก็ได้ แต่ว่าถ้ามีขุยเป็นอาการหนักทาแป้งไม่ติด (หน้ามันมาก ทาแป้งไม่ติด หน้าแห้งไปก็ทาแป้งไม่ติดเช่นเดียวกัน)ครีม v2
- แลเห็น fine line ชัด (ริ้วเล็ก) โดยเฉพาะอย่างยิ่งใต้ตา มุมปาก
- ผิวแดงง่าย สีผิวไม่บ่อยนัก
- คันรวมทั้งกำเนิดผิวหนังอักสบ
- ระคายง่าย แพ้ง่ายครีม v2
การดูแลและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ก็เลยจะต้องทำทั้งเพิ่มความชื้นเข้าไปก่อน ด้วยการกินน้ำให้เพียงพอ รวมถึงเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จำพวก humectant
กีดกันความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออก ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทocclusive
เพิ่มความรู้ความเข้าใจในการเก็บกักน้ำใต้ผิวด้วยสินค้าที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับ NMFs รวมทั้ง Intercellular lipids
เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เป็น ช่วยอะไรบ้าง?Repairingtheskin barrier : เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวแข็งแรงขึ้นเคืองต่ำลง ไม่แพ้ง่าย
Increasing water content : เพิมจำนวนน้ำใต้ผิว
Reducing TEWL : ลดการสูญเสียน้ำผ่านออกทางผิวหนังชั้นอีพิเดอร์มิส
Restoring the lipid barriers’ ability to attract, holdandredistribute water : ซ่อม intercellular lipidsให้สามารถเก็บกักน้ำแล้วก็รักษาสมดุลน้ำใต้ผิว
สารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (มอยส์เจอร์ไรเซอร์) แบ่งออกได้เป็น 2ชนิดเป็น

1. สารช่วยเพิ่มน้ำในชั้นผิวหนัง (Humectant) สารกลุ่มนี้มีคุณลักษณะในการจับกับน้ำ (water binding)ดังเช่นว่า colloidaloatmeal, Amino acid,Hyaluronic Acid, Sodium PCA, glycerin, น้ำผึ้ง, กรดแลคติค (lactic acid), soduimlactate, propylene glycol,sorbitol, pyrolidonecarboxylic acid (PCA) , gelatin,collagen , lastin,urea

ทั้ง Sodium-PCA รวมทั้งhyaluronic acid (HA) จัดเป็นสารจำพวกglycosaminoglycans ในธรรมชาติสารนี้เจอแทรกสอดในชั้นหนังแท้ ขึ้นรถ HA จะซับน้ำได้ 1000 เท่า ก็เลยทำให้ผิวหนังเด็กเต่งตึง แต่ว่าเมื่อวัยสูงมากขึ้นสาร HA ในชั้นหนังแท้จะต่ำลงทั้งความสามารถแล้วก็ปริมาณ ผิวหนังก็เลยเหี่ยวย่น ในครีมหรือโลชันผิวแห้งก็เลยนิยมผสมสาร HA ครีมv2เพื่อช่วยซับน้ำในผิวหนังชั้นไคลเนื่องจากสารในกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มน้ำให้กับผิวได้โดยตรง ทำให้ผิวเรียบนุ่มเปียกแฉะโดยไม่เพิ่มความมันมอยส์เจอร์ไรเซอร์กลุ่ม Humectant ก็เลยเหมาะสมกับผิวมัน ผิวแห้ง และจากนั้นก็ผิวแพ้ง่าย

2. สารเพื่อคุ้มครองการระเหยของน้ำจากผิว (occlusivemoisturizers)สินค้าผิวแห้งจะผสมน้ำมันหลายแบบ เมื่อทาน้ำมันฉาบผิวการระเหยของน้ำจากชั้นผิวหนังจะลดน้อยลงน้ำมันที่ใช้มีหลายกรุ๊ป เป็น





เครดิตบทความจาก : [url]https://sites.google.com/site/v2centerthailand/[/url]

Tags : ครีม v2,ครีม V2 ดีไหม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ