Advertisement
สิ่งที่ผู้ออกแบบเว็บไซต์จำต้องตระเตรียมก่อนจะมีการวางแบบจริง

กรรมวิธีกา
พัฒนาเว็บไซต์[/url]
การทำเว็บไซต์ให้มีข้อมูลและก็รายละเอียดที่ครบสมบูรณ์และครอบคลุมกับความปรารถนา เว็บไซต์มีความสวยสดงดงาม อีกทั้งง่ายต่อการดูและปรับเปลี่ยนข้อมูลในวันหลังนั้น ต้องมีการวางเป้าหมายในการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี ซึ่งเพียงพอสรุปขั้นตอนได้ดังนี้เป็น
1. กำหนดจุดประสงค์ของเว็บ การออกแบบเว็บไซต์ ควรจะเริ่มจากการกำหนดจุดประสงค์ให้เห็นภาพแจ้งชัดว่าต้องการเสนอหรืออยากให้เกิดผลอะไร เมื่อรู้จุดมุ่งหมายแล้วก็จะสามารถกำหนดข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวพันได้ ตัวอย่างเช่นลักษณะใบหน้าและสีสันของเว็บเพจ
2. ระบุกรุ๊ปผู้ชมจุดมุ่งหมาย เมื่อรู้จุดหมายของการทำเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการกำหนดกรุ๊ปผู้ชมแผนการที่จะเข้าชมและใช้บริการเว็บไซต์นี้เพื่อทำเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการของคนพวกนี้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรายละเอียด โทนสี กราฟิก รวมทั้งเทคโนโลยีที่เอามาช่วยเหลือการสร้างเว็บไซต์
3. จัดแจงแหล่งข้อมูล รายละเอียดหรือข้อมูลนับเป็นสาระสำคัญของการผลิตเว็บไซต์ ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ออกแบบเว็บไซต์ก็เลยจำเป็นที่จะต้องทราบว่าจะต้องนำข้อมูลจากแหล่งใดบ้าง เพื่อข้อมูลบนเว็บไซต์สมบูรณ์ที่สุด
เนื้อหาที่ต้องมีในเว็บไซต์
การเรียนแบบอย่างจากเว็บไซต์ทั่วๆไป จะช่วยให้พวกเราเห็นว่าในเว็บไซต์ของเราต้องมีรายละเอียดอะไรบ้างอย่างไรก็ตามเนื้อหาต่างๆบนเว็บไซต์นั้นไม่มีข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานตายตัว แต่ขึ้นกับสิ่งที่จะพรีเซนเทชั่นและก็จุดแข็งที่เราอยากให้มี ซึ่งจะก่อให้รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละเว็บไซต์แตกต่างออกไป แต่ว่าสำคัญๆสำคัญแล้ว พอสรุปได้ว่าข้อมูลฐานรากที่ต้องมีในเว็บควรจะประกอบด้วย
1. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หน่วยงาน หรือคนจัดทำ (About Us) เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ครอบครองเว็บ เพื่อบอกให้ผู้ชมทราบดีว่าพวกเราเป็นใครกันแน่ มาจากไหน และก็ต้องการนำเสนออะไรตัวอย่างเช่น วัตถุประสงค์ของเว็บ ประวัติความเป็นมา สถานที่ที่ตั้งของหน่วยงาน เป็นต้น
2. รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ(Product/Service Information) เป็นข้อมูลหลักที่เราพรีเซ็นท์ในเว็บ ซึ่งถ้าเกิดเป็นเว็บไซต์ทางธุรกิจ ผู้เข้าชมอาจต้องการรู้รายละเอียดของผลิตภัณฑ์หรือบริการในเว็บไซต์ของพวกเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ แม้กระนั้นแม้เป็นเว็บที่ให้ความรู้ความเข้าใจ ส่วนนี้ก็บางทีอาจจะมีบทความ ภาพกราฟิกมัลติมีเดีย แล้วก็การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นเพื่อได้ข้อมูลอื่นๆ
3. ข่าว (News / Press Release) อาจเป็นข่าวสารที่อยากส่งถึงคนทั่วๆไปหรือสมาชิก เพื่อให้รับรู้การเคลื่อนที่เกี่ยวกับบริษัทหรือเว็บไซต์ของพวกเรา เป็นต้นว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บริการใหม่ๆโปรโมชั่นสินค้าประจำเดือน หรือกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น
4. คำถามคำตอบ (Frequently Asked Question)ปริศนาคำตอบมีความจำเป็น เพราะผู้เข้าชมเล็กน้อยอาจไม่เข้าใจข้อมูลหรือมีปัญหาที่ต้องการไต่ถามการติดต่อทางอีเมล์หรือช่องทางอื่น ถึงแม้จะทำเป็นแต่เสียเวล่ำเวลาโดยเหตุนั้นพวกเราควรคาดหมายหรือเก็บรวบรวมปริศนาที่เคยตอบไปแล้วใส่ไว้ในเว็บเพจ ซึ่งผู้เข้าชมที่สงสัยจะสามารถเปิดดุได้ทันที นอกนั้น อาจมีกระดานข่าวสารสำหรับให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รอตอบคำถาม แล้วก็อาจเปิดให้ผู้เข้าชมด้วยกันก็ได้
5. ข้อมูลในการติดต่อ (Contact Information) เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บของเราที่เกิดปัญหา หรืออยากสอบถามรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้สามารถติดต่อกับเราได้ ควรจะกำหนดอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้ไว้ ด้วย รวมทั้งอาจมีแผนที่สำหรับลูกค้าที่จะต้องการติดต่อโดยตรง
ส่วนประกอบของหน้าเว็บเพจ
โดยปกติ หน้าเว็บเพจจะแบ่งออกเป็นส่วนสำคัญๆดังนี้เป็น
1. ส่วนหัว (Page Header) อยู่ตอนข้างบนสุดของหน้าเว็บเพจ เป็นรอบๆที่สำคัญที่สุด เนื่องด้วยผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จะมองเห็นก่อนบริเวณอื่น ส่วนมากนิยมใช้วางโลโก้ ชื่อเว็บไซต์ ป้ายสำหรับโฆษณา ลิงค์สำหรับการติดต่อ หรือลิงค์ที่สำคัญแล้วก็ระบบนำทาง
2. ส่วนรายละเอียด (Page Body) อยู่ตอนกลางหน้า ใช้แสดงรายละเอียดภายในเว็บเพจซึ่งอาจประกอบไปด้วยข้อความ ภาพกราฟิก ตารางข้อมูล และอื่นๆบางโอกาสเมนูหลักหรือรายการอาหารเฉพาะกรุ๊ป บางทีอาจอยู่ในส่วนนี้ก็ได้ โดยมักวางไว้ทางด้านซ้ายมือสุด เนื่องจากผู้เข้าชมจะมองเห็นได้ง่าย
3. ส่วนท้าย (Page Footer) อยู่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บเพจจำนวนมากจะนิยมใช้วางระบบนำทางภายในเว็บแบบที่เป็นลิงค์ข้อความง่ายๆยิ่งไปกว่านี้ก็บางทีอาจจะมีชื่อของเจ้าของเว็บ ใจความแสดงลิขสิทธิ์ และอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้ดูแลเว็บไซต์
4. แถบข้าง (Side Bar) ปัจจุบันจะนิยมออกแบบข้างๆของหน้าเว็บเพจให้น่าสนใจ เพื่อใช้วางป้ายแบนเนอร์ หรือลิงค์เสนอแนะเกี่ยวกับบริการของเว็บ เป็น
Tags : เว็บรองรับมือถือ