สัตววัตถุ งูเห่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ งูเห่า  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2017, 12:16:02 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


งูเห่[/b]
งูเห่าเป็นงูที่มีพิษขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Naja naja kaouthia Lesson
มีชื่อสามัญว่า Thai cobra หรือ common cobra หรือ Siamwse cobra
จัดอยู่ในวงศ์ Elapidae งูเห่าหม้อ หรือ งูเห่าไทยก็เรียก
งูเห่าไทยที่โตสุดกำลังมีความยาวราว ๑๓๐ ซม. วัดขนาดผ่านศูนย์กลางของลำตัวราว ๕ เซนติเมตร มีลวดลายสีสันไม่เหมือนกันออกไปในแต่ละตัว สีที่พบได้บ่อยเป็นสีเทนดำ  นอกเหนือจากนั้นอาจมีสีน้ำตาลเข้ม เขียวหมอง หรืออมเขียว มักมีสีเดียวกันตลอดทั้งลำตัว ลวดลายบนตัวมีความหลากหลายมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นลวดลายที่คอหรือ “ดอกจัน”งูเห่าไทยที่พบบ่อยมีดอกจันเป็นวงกลมวงเดียว ก็เลยมีชื่อเรียกในภาษษอังกฤษว่า monocellate cobra  บางจำพวกมีดอกจันวงกลมตัดกัน ๒ วงเหมือนแว่น เรียกงูเห่าแว่น  บางชนิดมีดอกจันรูโกหกอกส้านหรือลายตาอ้อย เรียกงูเห่าดอกส้าน  บางชนิดมีลายดอกจันเป็นรูปอานม้า ก็เรียกงูเห่าอานม้า งูเห่าพ้นพิษ งูเห่าอีกกรุ๊ปหนึ่ง เรียกงูเห่าพ้นพิษ (spitting  cobra) ที่พบในประเทศไทยมี ๓ จำพวก  ได้แก่
๑.งูเห่าด่างพ่นพิษ (black and white spitting cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja naja siamensis Nutphand
ประเภทย่อยนี้มีลักษณะคล้ายงูเห่าไทย  แม้กระนั้นขนาดเล็กกว่า  ลำตัวยาวราว ๘๐  ซม.  ว่องไว  ปราดเปรี่ยว  แล้วก็ดุกว่างูเห่าไทย  พ่นพิษได้ไกลราว ๒ เมตร  ลำตัวมีสีไม่แน่นอน  สีด่างถึงขาว  ดอกจันรูปตัวยู (U)  ในภาษาอังกฤษ  บางที่เรียก  งูเห่าโรคเรื้อน  พบบ่อยในภาคตะวันตกและก็ตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองไทย  ตัวอย่างเช่นที่จังหวัดกาญจนบุรี  จังหวัดอ่างทอง  สุพรรณ  รวมทั้งตาก  นอกเหนือจากนี้ยังบางทีอาจเจอทางภาคทิศตะวันออกด้วย  ดังเช่นว่า  เมืองจันท์  จังหวัดชลบุรี  งูที่พบรอบๆนี้มักไม่มีลายด่างขาว
๒.งูเห่าทองพ่นพิษ (going  spitting  cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja naja sumatranus Var
งูประเภทย่อยนี้มีลำตัวยาวราว  ๙๐  ซม.  มีสีเหลืองปลอดตลอดตัว  บางตัวอาจมีสีเหลืองอมเขียว  ไม่มีลายสีอื่นๆ ไม่มีดอกจันบนข้างหลังคอแล้วก็ท้องสีขาว  ภาคใต้พูดได้ว่างูเห่าปลวก  งูประเภทนี้มีน้ย  พบเฉพาะทางภาคใต้ของเมืองไทย  ดังเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  จังหวัดสุราษฎร์ธานี  จังหวัดพัทลุง  แล้วก็สตูล
๓.งูเห่าอีสานพ่นพิษ (isan  spitting  cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja naja isanensis (Nutphand)
งูจำพวกย่อยนี้ลำตัวเล็กมากยิ่งกว่าชนิดย่อยอื่นๆ ยาวราว ๖๐-๗๐ เซนติเมตร  ดุ  คล่องแคล่ว  ปราดเปรี่ยว  พ่นพิษเก่งมากมาย  มีสีเขียวอมเทา  เขียวอมน้ำตาล  หรือเขียวหม่นหมองทั้งตัว  ไม่มีลายกระจ่างแจ้ง  มักไม่มีดอกจัน  แม้กระนั้นบางตัวอาจมีดอกจันรูปตัวยู(U) ในภาษาอังกฤษแจ้งชัดกว่างูเห่าด่างพ่นพิษ  พบบ่อยทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไทย  บางถิ่นเรียก งูเห่าเป่าตา
งูเห่าอีกชนิดหนึ่ง  พบมากที่จังหวัดสุพรรณบุรี  ชนิดนี้ลำตัวมีสีนวลและไม่มีดอกจัน เรียกงูเห่าสีนวล
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja  kaouthia  suphandensis (Nutphand)

ผลดีทางยา
สมุนไพร แพทย์แผนไทยรู้จักใช้รอยเปื้อนงูเห่า กระดูกงูเห่า ดีงูเห่า แล้วก็น้ำมันงูเห่า นอกเหนือจากนี้หมอตามต่างจังหวัดยังใช้งูเห่าหมดทั้งตัวย่างไฟกระทั่งแห้งกรอบ  ดองสุรากินแก้เมื่อย  แก้ปวดหลัง  รวมทั้งแก้ซูบซีดในสตรีหลังคลอดบุตร  และก็ใช้หัวงูเห่าสุมไฟให้เป็นถ่าน  ปรุงเป็นยาแก้ชาชักในเด็ก  ลดความอ้วน  ว่ามีรสเย็นและก็เมา
๑.คราบงูเห่า  เป็นคราบที่งูเห่าลอกทิ้งไว้ ในพระตำราปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่งที่เข้า “รอยเปื้อนงูเห่า” เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ ภาคหนึ่งยาทาตัวกุมาร   กันสรรพโรคทั้งมวล  แลจะไม่สบายอภิฆาฎดีแล้ว  โอปักกะไม่กาพาธก็ดีแล้ว ท่าน ให้เอาใบมะขวิด คราบเปื้อนงูเห่า หอมแดง สาบอีแร้งสาบกา ขนเม่น ไพลดำ ไพลเหลือง บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำนมโค  ทาตัวกุมาร  ชำระมลทินโทษทั้งปวงดีนัก
๒.กระดูกงูเห่า  มีรสเมา  ร้อน  แก้พิษเลือดลม  แก้จุกเสียด  แก้ษนัย  แก้เมื่อย  แก้ชางต้นตานขโมย  รวมทั้งปรุงเป็นยาแก้แผลเนื้อร้ายต่างๆ ในพระคู่มือจินดาร์ให้ยาอีกขนานหนึ่งเข้า “กระดูกงูเห่า”  เป็นเครื่องยาด้วย  ดังต่อไปนี้ ยาใช้ภายนอกท้องแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ   ขนานนี้ท่านให้เอาใบหนาด ๑ ใบคนทีส[/b] ๑ ใบลูกประคำไก่ ๑ ใบผักเค็ด ๑ ใบผักเศษไม้ผี ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เม็ดในสะบ้ามอญ ๑ มดยอบ ๑ กำยานผี ๑ ตรีกะฎุก ๑ สานส้ม ๑ โปตัสเซี่ยมไนเตรดขาว ๑ บอแร็ก ๑[url=http://www.disthai.com/16484907/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B3] กระชายกระทื[/b] ๑ [url=http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5]ไพล ๑ หอม ๑ กระเทีย[/b] ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/]ขมิ้นอ้อ[/b] ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูกงูเห่า ๑ กระดูกห่าน ๑ กระดูกเลียงผา ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%8C/]มหาหิงคุ์ยาดำ ๑ รงทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้  ทำเปนจูณ  บดทำแท่ง  ละลายน้ำมะกรูดทาท้อง  แก้ท้องรุ้งท้องมาร  แก้มารกระไษยลม  แก้ไส้พองเอาเสมอภาค  ท้องใหญ่  ท้องเฟ้อท้องเขียว  อุจจาระฉี่มิออก  ลมทักขิณคุณ  ลมประวาตคุณ  หายสิ้น
๓.ดีงูเห่า มีรสขม  ร้อน  ผสมยาหยอดตาแก้ตาฝ้า  ตาฝ้า  ตาแฉะ  ตาต้อ  และก็บดเป็นกระสายยาช่วยให้ฤทธิ์ยาแล่นเร็ว  ในพระคัมภีร์ปฐมจินดาร์  ให้ยาขนานหนึ่งเข้า “ดีงูเห่[/b]”  เป็นเครื่องยาด้วย  ดังต่อไปนี้ ยาชื่ออินทรบรรจบคู่กัน  ขนานนี้ท่านให้เอา[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%94/]ชะม[/b] ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99/]พิมเส[/b]๑ จันทน์ทั้งสอง๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2/]กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ ว่านกลีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ผลมะขามป้อม ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กระเทียม ๑ ดีงูเหลือ[/b] ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง  เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนแดง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เทียนสัตตบุษย์ ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ผลจันทน์ดอกจันทน[/b] ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/]กานพลูกระวาน ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รวมยา ๒๓ สิ่งนี้  ทำเปนจุณ  แล้วจึงเอา ดีงูเห่า ๑ ดีจระเข้ ๑ ดีตะพาบ ๑ ดีปลาช่อน ๑ ดีปลาไหล ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง  แช่เอาน้ำเปนกระสาย  บดปั้นแท่งไว้  ละลายน้ำดอกไม้รับประทาน  แก้หมดหนทาง  ถ้าหากมิฟัง  ละลายเหล้ากินแก้สรรพตาลทรางทั้งหมด  แลแก้ชักเท้ากำมือกำ  หายดีนัก
๔.น้ำมันงูเห่า  เตรียมได้โดยการเอาเปลวมันในตัวงูเห่าใส่ขวด ตากแดดจัดๆ จนกระทั่งเปลวมันละลาย  ใส่เกลือไว้ก้นขวดน้อยเพื่อกันเหม็นเน่า  ในหนังสือเรียนพระยารักษาโรค  พระนารายณ์มียาขี้ผึ้งขนานหนึ่งว่า “น้ำมันงูเห่า” เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ สีปากบี้พระเส้น  ให้เอาชะมดทั้งยัง ๒ ไพล พิมเสน โกฏเชียง  กรุงเฉมา  ดีงูงูเหลือม  จันทน์อีกทั้ง ๒ กฤษณา  กระลำพัก สิ่งละเฟื้อง  โกฏสอ โกฏเฉมา โกฏจุลาลำภา  โกฏกัยี่ห้อ  โกฏสิงคี  โกฏหัวบัว  มัชะกิยพระสรัสวดี  กระวาน  กานพลู  ลูกจันทน์  ดอกจันทน์  เทียนดำ  เทียนขาว พริกหอม พริกหาง พริกล่อน  ดีปลี ลูกกราย  ฝิ่น  ขี้ผึ้ง สิ่งละสลึง  กะเทียม  หอมแดง  ขมิ้นอ้อย  ๒ สลึง  ทำเป็นจุณ  ละลายน้ำมะนาว ๑๐ ใบ  น้ำมันงาทนาน ๑  น้ำมันหมูหลิ่ง น้ำมันเสือ น้ำมันจระเข้  น้ำมันงูเห่า น้ำมันงูเหลือม  พอสมควร  หุงให้อาจจะแต่ว่าน้ำมัน  ก็เลยเอาชันรำโรง ชันห้อย ชันระนัง ใส่ลงพอสมควร  กวนไปดีแล้วจึงเอาทาแพรทาผ้าถวาย ทรงปิดไว้ ที่พระเส้นอันแข็งนั้นหย่อน

Tags : สมุนไพร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ