Advertisement
[b]สมุนไพร[/b][/u][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%81.jpg" alt="" border="0" />ปลาดุ[/b]
ปลาดุกเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันสันหลัง ปลาที่คนประเทศไทยเรียก ปลาดุก หรือ walking catfish นั้น อาจซึ่งก็คือปลาน้ำปลาน้ำจืดขั้นต่ำ ๒ จำพวกในตระกูล Clariidae เป็น
๑. ปลาดุกด้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias batrachus (Linnaeus)มีชื่อสามัญว่า walking catfishลางตัวที่มีสีขาวตลอด ราษฎรเรียก ดุกเผือก หรือถ้ามีสีค่อนข้างแดง ก็เรียก ดุกแดง แต่ว่าถ้าเกิดมีจุดขาวบริเวณทั่วลำตัว ก็เรียก ดุกเอ็น ปลาดุกด้านมีรูปร่างยาวเรียว ยาว ๑๖-๔๐ เซนติเมตร (ในธรรมชาติอาจยาวได้ถึง ๖๑ เซนติเมตร) รอบๆข้างๆของลำตัวมีสีเทาคละเคล้าดำหรือสีน้ำตาลผสมดำ บริเวณท้องมีสีออกจะขาว ไม่มีเกล็ด ความยาวของลำตัวราว ๖-๗.๕ เท่าของความลึกของลำตัว และก็ราว๓.๕ เท่าของความยาวท่อนหัว หัวออกจะแหลมถ้าเกิดดูทางด้านข้าง กระดูกหัวมีลักษณะขรุขระ กระดูกท้ายทอยยื่นเป็นมุมออกจะแหลม ส่วนฐานของครีบสันหลังยาวแทบตลอดส่วนหลัง ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๕-๗๗ ก้าน ไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน ๔๑-๕๘ ก้าน ครีบท้องกลม ครีบอกกลม มีก้านครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าน ปลายแหลม เป็นหยักทั้ง ๒ ข้าง ครีบหางแบน ปลายมน ไม่ต่อกับครีบข้างหลังรวมทั้งครีบตูด ตามีขนาดเล็กอยู่ข้างบนของหัว มีหนวด ๔ คู่ หนวดที่ขากรรไกรข้างล่างยาวถึงส่วนปลายก้านครีบแข็งของครีบอก หนวดขากรรไกรบนยาวถึงก้านครีบข้างหลังก้านที่ ๗-๘ หนวดที่บริเวณจมูกยาวเป็น ๑ ใน ๓ ของก้านครีบแข็งของครีบอก รวมทั้งหนวดคางยาวถึงส่วนปลายของครีบอก ภายในท่อนหัวเหนือช่องเหงือก ๒ ข้าง มีอวัยวะพิเศษที่ช่วยในการหายใจ ฟันบนเพดานปากแล้วก็ฟันบนขากรรไกรบนเป็นฟันซี่เล็กๆกระดูกซี่กรองเหงือกมี ๑๖-๑๙ อัน ปลาดุกด้านมีนิสัยดุ ว่อง รังเกียจอยู่นิ่ง ลนลาน ถูกใจดำว่ายดำผุดแล้วก็ชอบลอดไปตามพื้นโคลนตม ชอบว่ายทวนน้ำออกไปจากแหล่งอาศัยในขณะฝนตกแล้วก็น้ำไหลล้นลงสู่แหล่งน้ำแห่งใหม่ มีความทรหดอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่เรวร้ายได้
๒. ปลาดุกอุย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias microcephalus Guntherมีชื่อสามัญว่า broadhead walking catfishปลาดุกอุยเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาวเรียว ยาว ๑๕-๓๕ เซนติเมตร สีออกจะเหลือง มีจุดประตามข้างๆลำตัวราว ๙-๑๐ แถบ แม้กระนั้นเมื่อโตจะเลือนหายไป ฝาผนังท้องมีสีขาวถึงเหลืองเฉพาะบริเวณอกถึงครีบท้อง ส่วนหัวค่อนข้างทื่อ ปลายกระดูกกำดันป้านแล้วก็โค้งมนมากมาย ส่วนหัวจะลื่น มีรอยยุบตรงกลางน้อย มีหนวด ๔ คู่ โคลนหนวดเล็ก ปากไม่ป้าน ออกจะมนครีบอกมีครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าง มีลักษณะแหลมคม ยื่นยาวหรือเท่ากับครีบอ่อน ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๘-๗๒ ก้าน ปลายครีบสีเทาผสมดำแล้วก็ยาวตลอดถึงคอดหาง ครีบตูดมีก้านครีบอ่อน ๔๗-๕๒ ก้าน ครีบหางกลม ไม่ใหญ่มากนัก สีเทาคละเคล้าดำ ครีบหางไม่ใกล้กับฐานครีบข้างหลังและก็ครีบตูด ปริมาณกระดูกซี่กรองเหงือกราว ๓๒ ซี่งเมื่อดูผิวเผินทั้งยังปลาดุกด้านและปลาดุกอุยมีลำตัวสั้นป้อมกว่า ลำตัวสีดำปนเหลือง มีจุดเล็กๆสีขาวเรียงเป็นแถวตามทางขวางลำตัวหลายแถว หรืออาจมองเห็นเป็นจุดประสีขาวตามลำตัว ปลายกระดูกท้ายทอยโค้งมน ปลาดุกเป็นปลาที่เจอได้ตามคู คลอง หนอง บ่อน้ำทั่วๆไป จัดเป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของไทยประเภทหนึ่ง
ผลดีทางยา[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร หมอแผนไทยรู้จักใช้ปลาดุกผสมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พระหนังสือไกษย ให้ยาที่เข้า “ปลาดุกย่าง” อยู่ ๒ ขนาน ทั้งยัง ๒ ขนานเป็นยาแกง รับประทานเป็นยาถ่ายอย่างแรง สำหรับแก้กษัย ดังต่อไปนี้ ยาแก้ไกษยปลาดุก เอา
เปลือกราชพฤกษ์ ๑ เปลือกตาเสือ ๑ รากโคนแตง ๑ พาดไฉนนุ่น ๑
พริกไทย ๑
ขิงแห้ง ๑
กระเทียม ๑
ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑
กระวาน ๑
กานพลู ๑
ข่า ๑
กระชาย ๑ กะทือ ๑
ไพล ๑ หอม ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/]ขมิ้นอ้อ[/b] ๑ กะปิ ๑ ปลาดุกย่าง ๑ ตัว ปลาร้าปลาส้อย ๕ ตัว ยา ๒๐ สิ่งนืทำเปนแกง แล้วเอาใบมะกาที่เพสลาดนั้นมาหั่นใส่ลงเปนผัก กินให้ได้ถ้วยแกงหนึ่ง ลงจนสิ้นโทษร้าย หายยอดเยี่ยมนัก แล้วก็ยางแกงเปนยารุ ท่านให้เอาเปลือกทองหลางใบมนที่ ๒ เปลือก
[url=http://www.disthai.com/16488241/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1]มะรุ[/color] ๑ ลูกคัดเค้า ๑ เครื่องยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๗ ตัว ปลาดุกย่าง ๑ ตัว เอาใบสลอดที่รับประทานลงที่อ่อนๆนั้น ๗ ใบ หั่นเป็นผักใส่ลง ทำเปนยาเถอะ ลงเสลดเขียวเหลืองออกมา หายแล