สัตววัตถุ ตะพาบน้ำ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ตะพาบน้ำ  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
plawan1608
Full Member
***

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 158


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2017, 05:00:50 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%9A.jpg" alt="" border="0" />
ตะพาบน้[/b]
ตะพาบ (mud turtle หรือ soft-shelled turtle) เป็นสัตว์คลานจำพวกหนึ่งจัดอยู่ในสกุล Trionychidae มีลักษณะเหมือนเหมือนเต่าน้ำจืด ต่างกันตรงที่กระดองบน (carapace) แล้วก็กระดองข้างล่าง (pastron) ไม่มีกระดูกเป็นแผ่นใหญ่ๆแม้กระนั้นมีหนังห่อแทน มีนิ้วยาว ตีนด้านหน้ามีแผ่นพังผืดกว้าง ใช้สำหรับพุ้ยน้ำ มีเล็บเพียงแค่ ๒-๓เล็บ คอหดในกระดองได้มิด แต่สามารถยืดคอออกได้ยาวมากมายเมื่อจะงับเหยื่อหรือกัดศัตรู ตะพาบทุกชนิดเป็นสัตว์น้ำจืดชืด พบได้ทั่วไปอยู่ตามห้วย บ่อน้ำ หนอง และตาม แม่น้ำลำคลอง ตะพาบสามารถขุดรูเป็นโพรงสำหรับอาศัย และยืดคอขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ หรือยืดคอออกไปฮุบกุ้งปลาที่ว่ายน้ำผ่าน โดยที่ตัวไม่ต้องออกมาจากโพรงเมื่อน้ำในบึงหนองแห้งลงในฤดูแล้ง ตะพาบจะทำโพรงอยู่ใต้ดินได้นาน จนตราบเท่าฝนตกจึงออกมาจากโพรงแล้วก็เริ่มหาสัตว์น้ำต่างๆรับประทานเป็นของกิน ตะพาบรับประทานอีกทั้งกุ้งและปลาใหม่ๆรวมทั้งเนื้อสัตว์ที่เปื่อยยุ่ย สามารถว่ายน้ำไปหากินไกลๆสำหรับในการใช้มือจับตะพาบนั้นจับได้เฉพาะตรงที่ขอบกระดองตรงหน้าของโคนขาหลัง ถ้าหากจับไม่ถูกตำแหน่งตะพาบซึ่งมีคอยาวจะยืดคอออกมาเหลียวกัดมือได้
ตะพาบในประเทศไทย
ตะพาบน้ำที่พบในประเทศไทยมีอย่างน้อง ๖ จำพวก เป็น
๑.ตะพาบปกติ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amyda cartilaginea (Boddart)
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
จำพวกนี้กระดองบนค่อนข้างแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม เมื่อโตเต็มกำลังกระดองบนบางทีอาจยาวได้ถึง ๘๓ ซม. ขอบด้านหน้าของกระดองบนเป็นปุ่มตะปุ่มตะป่ำ ขอบกระดองล่างไม่มีสีเด่น ปากค่อนข้างจะแหลม ที่หนังบนข้างหลังเป็นริ้วเล็กๆนูนขึ้นมาทั่วทั้งข้างหลัง ตัวอ่อนมีสีเขียวขี้ม้าแกมเทา บางตัวมีจุดเหลืองๆหรือจุดดำๆขอบเหลือง หัวมีจุดเหลืองๆเป็นจุดใหญ่ทางข้างๆ พอใช้แก่ จุดเหลืองบนหลังมักหายไป จุดที่หัวก็ลางเลือนไป ที่ใต้ท้องของตัวผู้มีสีขาว แม้กระนั้นที่ใต้ท้องของตัวเมียเป็นสีเทา ตะพาบชนิดนี้มีมากมาย เจอทั่วไปในแม่น้ำลำคลอง หนอง สระ ในภาคกลางของประเทศไทย บางทีอาจพบตามลำน้ำและห้วยที่ตีนเขา ยิ่งไปกว่านี้ยังเจอในภาคใต้ของประเทศพม่า ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย แล้วก็ตามหมู่เกาะมลายู
๒.ตะพาบน้ำหัวทู่ หรือ ตะพาบหัวกบ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelochelys bibroni Owen
ชนิดนี้กระดองบนออกจะแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบข้างหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตเต็มกำลังมีขนาดใหญ่ กระดองบนอาจยาวได้ถึง ๑๒๐ เซนติเมตร จมูกสั้น หัวค่อนข้างแบนแล้วก็เล็กเมื่อเทียบกับลำตัว ความยาวของหัวกะโหลกหัวใกล้เคียงกับความกว้าง ปากไม่แหลม ขาหน้าสั้น ตีนกว้าง กระดองหลังมีสีเขียวขี้ม้าอมเทามีรูยุบเล็กๆทั่วๆไป มีจุดเหลืองๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป กระดองล่างสีขาว ในประเทศไทยเจออยู่ทางด้านใตน นอกจากนี้ยังเจอที่ประเทศ ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และภาคใต้ของจีน
๓.ตะพาบน้ำหลังลายกะรัง หรือ ตะพาบน้ำม่านลาย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chitra chitra Gray
ชนิดนี้กระดองบนค่อนข้างแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบข้างหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตสุดกำลังมีขนาดใหญ่ กระดองบนอาจยาวได้ถึง ๑๒๒ ซม. เป็นชนิดที่มีตัวโตที่สุดของเมืองไทยแล้วก็ของโลก จมูกสั้น หัวค่อนข้างจะแบนรวมทั้งเล็ก ความยาวของหัวกะโหลกหัวเป็น ๒ เท่าของความกว้าง มีลวดลายบนหนังข้างบน เมื่อยังอายุน้อย กระดองบนมีสีเขียวอมเทา มีจุดลายดำเปื้อนๆเพียงพอมีอายุเพิ่มมากขึ้น บริเวณคอแล้วก็กระดองบนจะมีลวดลายสีเหลืองหรือสีน้ำตาลราวกับหินกะรังแต่ว่าพอตัวแก่มาก ลายสีนี้กลับจางลงไปอีก เจอรอบๆที่ลุ่มแม่น้ำแม่กลองในประเทศไทยลุ่มน้ำอิระวดีในประเทศเมียนมาร์ ลุ่มแม่น้ำคงคาและแม่น้ำสินธุในประเทศอินเดีย
๔.ตะพาบน้ำขี้เกียจมาก หรือ ตะพาบน้ำแก้มแดง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dogania subplana Geoffrey
ประเภทนี้กระดองบนค่อนข้างแบน ยาว ขอบสองข้างค่อนข้างขนานกัน สีเขียวหมองแกมน้ำตาล ไม่กลมอย่างตะพาบน้ำจำพวกอื่นๆขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบด้านหน้าของกระดองบนเรียบเมื่อโตสุดกำลังกระดองบนยาวได้ถึง ๒๖ เซนติเมตร หัวออกจะใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว ปากแหลม กระดองข้างล่างไม่มีจุดสีดำแจ่มแจ้ง ที่ข้างคอและแก้มมีสีแดงอ่อนๆเจอได้ตามแหล่งน้ำลำน้ำบนที่สูงทางภาคตะวันตกรวมทั้งภาคใต้ของประเทศไทยยิ่งไปกว่านั้นยังอาจพบในประเทศประเทศพม่ามาเลเซีย รวมทั้งประเทศฟิลิปปินส์
๕.ตะพาบน้ำไต้หวัน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelodiscus sinensis sinensis Wiegmann
ประเภทนี้กระดองบนค่อนข้างแบนขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบข้างหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตสุดกำลังกระดองบนยาวได้ถึง ๒๕ เซนติเมตร กระดองบนมีสีเขียวขี้ม้าหรือสีน้ำตาล กระดองข้างล่างมีจุดสีดำแจ่มกระจ่าง และมีสีส้มในระยะก่อนวัยเจริญพันธุ์ ที่รอบตามีเส้นเล็กๆเป็นรัศมีเป็นตะพาบน้ำพันธุ์ท้องถิ่นของจีน เอามาเลี้ยงเป็นสัตว์อาสิน บางส่วนหลุดมาขยายพันธุ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
๖.ตะพาบน้ำหับ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lissemys punctate scutata (Peters)
เป็นตะพาบที่พบใหม่และมีขนาดเล็กที่สุดของประเทศไทย เมื่อโตสุดกำลังกระดองหลังบางทีอาจยาวได้ถึง  ๑๖  เซนติเมตร  กระดองหลังโค้ง นูน สีเขียวหมองหรือสีน้ำตาล  สามารถหับหรือปิดกระดองได้ทั้งผอง พบหนแรกบริเวณชายแดนไทยพม่า แถบจังหวัดตาก  เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง มีจำนวนน้อยรวมทั้งหายาก
ผลดีทางยา
ตะพาบที่เจอในยาไทยมักเป็นตะพาบน้ำธรรมดา หมอแผนไทยใช้ดีตะพาบน้ำ เป็นเครื่องยา ตำราเรียนยาคุณประโยชน์โบราณว่า ดีตะพาบมีรสขม  คาวมีสรรพคุณแก้ไข้สันนิบาต แก้พิษรอยแดง แก้โรคตา  รวมทั้งแก้ลมกองละเอียด  (ลมวิงเวียน   หน้ามืดลายตา) ในแบบเรียนพระยาพระนารายณ์มียาขนานหนึ่งเข้า “ดีตะพาบน้ำ” เป็นเครื่องยาด้วยดังนี้น้ำมันภาลาธิไตล ให้เอารากหญ้าขัดหมอน รากขี้เหล็ก รากปะคำไก่ รากปะคำกระบือ รากเลี่ยน รากรักขาว รากลำโพงอีกทั้ง ๒ รากชุมเห็ด รากฝักส้มป่อย ขมิ้นอ้อย ขิง ข่า ยาทั้งนี้ควรจะต้มให้ต้ม ควรตำให้ตำ เอาน้ำสิ่งละทนาน   น้ำมันพรรณผักกาด  น้ำมันพิมเสน น้ำมันละหุ่ง น้ำมันงา สิ่งละทนาน หุงให้คงแม้กระนั้นน้ำมัน แล้วจึงเอา ดีตะพาบ  ดีงูงูเหลือม พริกหอม พริกหาง พริกล่อน  ฝิ่น  สิ่งละสลึง เทียนอีกทั้ง ๕  สิ่งละบาท ๑ บดปรุงลงในน้ำมันไว้ ๓ วัน จึงทาแลนวดแก้พระเส้นอันทพฤกให้หย่อนยาน  แลฟกบวม เป็นขั้วเป็นหน่วยแข็งอยู่นั้นให้ละลายออกเป็นปรกติแลฯ
พระคู่มือปฐมจินดาร์ให้ยาแก้ซางเด็กขนานหนึ่งที่เขา  “ดีตะพาบน้ำ” เป็นเครื่องยาด้วยดังนี้
ขนานหนึ่ง ท่านให้เอากรามแรด ๑  กรามช้าง ๑  งาช้าง  นอแร[/b] ๑  เขี้ยวเสือ ๑  เขี้ยวไอ้เข้  ๑  เขี้ยวหมู  ๑  กระดูกงูทับทาง ๑ โกฏทั้ง  ๕  ขมิ้นอ้อย  ๑ [url=http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5]ไพ[/b] ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/]ดีตะพาบน้ำ ๑  ดีงูเหลือม ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99/]พิมเส[/b] ๑  รวมยา  ๑๘  สิ่งนี้เอาส่วนเสมอกัน ตำเป็นผุยผงบดปั้นแท่งไว้  ละลายน้ำสุรา รับประทานแก้ทรางทั้งปวง  หาย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ