เหตุการณ์ที่ป๊ะป๋ามาตุรงค์จำเป็นจะต้องรู้ ก่อนให้บุตรนั่งคาร์ซีทในรถ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุการณ์ที่ป๊ะป๋ามาตุรงค์จำเป็นจะต้องรู้ ก่อนให้บุตรนั่งคาร์ซีทในรถ  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jeerapunsanook
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13495


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 24, 2017, 10:40:02 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



พ่อมารดรอ่อนหัดหลายคนคงเป็นเป็นกังวล หนที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายหนคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป เป็นเหตุให้ลูกน้อยไม่สบายตัวหรือไม่เป็นภัย หรือว่ากังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท หรือว่า เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะคุ้มครองอุบัติเหตุได้จริงหรือเปล่า ซึ่งการร้อนใจนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง อาจจะส่งผลต่อหลอดเลือดของลูกจนเป็นวิกฤติได้ เพราะฉะนั้น การที่คุณตรวจสอบยศเข็มขัด ชั้นที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อกลัวด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีทำนองการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่ความเกื้อกูลต้องระวัง

1. ติดตั้งคาร์ซีท ไม่ดี ข้อแรกที่จงรู้ก่อนเลยหมายความว่า สัดส่วนของคาร์ซีทที่เราควักกระเป๋ามานั้น พอสมควรกับเบาะรถรึเปล่า กับต้องทำการประดิษฐานแยกออกเที่ยงธรรมด้วย เนื่องจากคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นฝ่ายไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรวิเคราะห์ดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่สมควร เป็นได้ล็อคได้กระชับ สมมุติมาตุเห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติใช่ไหมได้ยินเสียงแปลกๆ พอที่นำคาร์ซีทไปซ่อมหรือไม่ก็เปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้ลูกใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะเฉือนเอื้ออำนวยให้เปล่าฮะ

2. ใช้คืนสายคาดผิดแนว ไส้ศึกคาดไม่ชอบหย่อนยานไม่ก็รัดตึงเกินไป พ่อคุณแม่ทำเป็นตรวจสอบสายคาดเพราะจับสายคาดให้ตึง หลังจากนั้นใช้นิ้วจิ้มดู แม้สายบุ๋มลงมาก แสดงความสามารถว่าหลวมเกินไป เพราะว่าคาร์ซีทจำพวกหันหลัง พวกควรอยู่ที่ดีกรีไม่ใช่หรืออยู่ใต้อังสาของลูกเล็กน้อย สมมุติเป็นคาร์ซีทแบบหันหน้า สายคาดถูกต้องอยู่วรรณะเดียวกับไม่ก็เหนือกว่าไหล่ของลูกครับ

3. จ่ายลูกหลานดำรงตำแหน่งหันหน้าตื๋อเกินควร ป๋าม่าม้าหลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกถูกให้ลูกนั่งหันหลัง จนกว่าลูกจักความหนักเบา 9-10 กิโล ถึงจะให้นั่งเบือนหน้า ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผิด โดยสมาคมกุมารแพทย์แห่งอเมริกาชักนำว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ พร้อมกับผิเป็นไปได้การนั่งแบบหันหลังนั้นสถิร พร้อมทั้งถูกให้ลูกนั่งหันหลังให้นานแรงกล้าเท่าที่จะจัดทำได้ ม้าหลายคนอาจไม่สบายใจว่าถ้าหากลูกตัวใหญ่ขึ้น กล้าหาญนั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถไม่ใช่หรือต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วองคาพยพของเด็กศักยยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ พ่อแม่ไม่ควรวิตกในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าสัดส่วนคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะทุกทีก็ไม่ถนนเกินไปครับผม

 4. แยกออกลูกนั่งบูสเตอร์ซีทฉับพลันเกินเลย บูสเตอร์ซีท คือเบาะรองนั่งของเด็กสำหรับใช้คืนภายในรถ ใช้เกี่ยวกับเด็กช่วงคราว 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของของซื้อของขายบางเจ้า พินิตว่าจำต้องให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกปูน 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกน้ำหนักคิดคำนวณ 18 กม.หรืออายุ 4-5 ขวบ กับลูกทำได้นั่งโดยมีสปายคาดพาดผ่านหน้าอกได้จวบจวนการท่องเที่ยว และแพทย์ยังชี้ทางว่าสายรัดตัวหมู่ 5 จุดมั่นคงกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า ก็เพราะว่าเชี่ยวชาญคุ้มครองเด็กได้เป็นต่อปั้นเหน่งนิรภัยของบูสเตอร์ซีท เพราะว่าสายรัดตัวทำได้คุ้มกันลำตัวด้านบน ลดการเคลื่อนที่ด้วยกันการชนบนหัวกับคอลงได้ ช่วงเวลาที่ปั้นเหน่งนิรภัยปกป้อง พื้นที่กระทรวงอุตสาหกรรมและตะโพกเท่านั้น

แน่นอนอยู่ว่าพ่อแม่อยู่ยงไม่เชี่ยวชาญดูแลผลร้ายทุกอย่างที่พร้อมทำให้บาดเจ็บลูกได้ แต่ถ้าว่าการที่พ่อแม่สามารถเลือกใช้สิ่งของปกป้องรักษาทำเนียบกอบด้วยศักยภาพได้อย่างถูกแนวทาง ก็นับว่ามีชีวิตการผนวกการปกปักรักษาภัยให้ลูกเต้าได้อีกทางหนึ่งฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เปลเด็ก

เครดิตบทความจาก : [url]http://www.chiangraishopping.com/index.php/topic,611152.new.html#new[/url]

Tags : คาร์ซีทมือสอง,เป้อุ้ม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ