Advertisement
1
เป็นแหล่งท่องเที่ยวขั้นแรกที่นักเดินทางทุกคนที่เดินทางไปเมียนมาร์จะต้องเข้าไปเยี่ยมชมรวมทั้งสักการะ เจดีย์ชเวดากองที่แปลว่า พระเจดีย์ทองคำแห่งเมืองตะเกิง เป็นพระเจดีย์ทองคำที่ทำขึ้นบนเนินเขาที่ชื่อว่า Thienguttara Hill หรือ Singuttara Hill เจดีย์นี้จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความเด่นมากในย่างกุ้ง โดยขนาดของเจดีย์ชเวดากองนี้มีความสูงทั้งหมดทั้งปวงราวๆ 48 เมตร มีความกว้างคร่าวๆ 105 เมตร
ขอกล่าวถึงตำนานสำหรับเพื่อการก่อสร้างเจดีย์ชเวดากองเป็น มีพ่อค้าชาวมอญ 2 คนหมายถึงตปุสสะรวมทั้งภัลลิกะ ที่เกิดความเชื่อถือในคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการที่ได้ไปเข้าเฝ้ามอบข้าวสัตตูรวมทั้งมอบตัวเป็นปฐมอุบาสก เมื่อจะจากมาก็บอกขอให้พระพุทธองค์ประทานสิ่งใดเป็นอนุสรณ์สำหรับบูชาแทนท่าน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยได้ประทานเส้นพระเส้นผมธาตุ 8 เส้นของท่านให้
2
ประวัติความเป็นมาของมหาเจดีย์องค์สำคัญนี้ ที่มีผู้ค้นคว้าแล้วก็บันทึกไว้อย่างน่าอ่านก็คือ ข้อมูลจากหนังสือ “เมียนมาร์” ในชุด “หน้าต่างสู่โลกกว้าง”
ตามตำนานกว่า 2,500 ปี ของเจดีย์แห่งนี้กล่าวไว้ว่าเป็นที่ใส่พระเกศธาตุแปดเส้นของพระ พระพุทธเจ้า แล้วก็พระบริโภคเจดีย์ของพระอดีตพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกทั้งสามองค์ องค์สถูปห่อหุ้มด้วยทองคำทั้งหมดทั้งปวง 8,688 แท่ง แต่ละแท่งมีค่ามากกว่า 400 ยูเอสดอลลาร์ ปลายยอดเจดีย์ประดับประดาด้วยเพชร 5,448 เม็ด ทับทิม นิล รวมทั้งบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดโตอยู่กึ่งกลาง เพื่อรับลำแสงแรกรวมทั้งลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ประดับอยู่ด้านบนเหนือฉัตรขนาด 10 เมตร ซึ่งทำขึ้นบนไม้หุ้มห่อทองเจ็ดเส้น เสริมแต่งด้วยกระดิ่งทอง 1,065 ลูก รวมทั้งกระดิ่งเงิน 420 ลูก รอบองค์สถูปรายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างกว่า 100 หลัง มีอีกทั้งเจดีย์บริวาร วิหารด้าน วิหารราย และศาลาอำนวยการ
3
ผู้สืบราชบัลลังก์ต่อจาก พระผู้เป็นเจ้าเบียนยาอ่าว คือ พระนางฉิ่นซอปู้ หรือ นางพญาตะละเจ้าท้าว ได้ทรงสร้างลานแล้วก็กำแพงล้อมองค์สถูป รวมทั้งพระราชทานทองคำเท่าน้ำหนักพระองค์เอง 40 โล ให้นำไปตีเป็นแผ่นทองหุ้มเจดีย์ เป็นตัวอย่างให้กษัตริย์รุ่นลูกๆทรงปฏิบัติตนปฏิบัติตาม ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพายุลมฝนในตอนมรสุมนั้นโหมกระหน่ำ จนทำให้แผ่นทองคำพังหลุดตกลงมาอยู่เป็นประจำพระเจ้าธรรมเซดี ผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระนางก็ได้ทรงบริจาคทองหนักเป็นสี่เท่าของน้ำหนัก ท่านเอง เพื่อบูรณะซ่อมบำรุงพระเจดีย์
ในปี พุทธศักราช2028 พระเจ้าธรรมเซดีทรงสร้างศิลาจารึกสามหลังเอาไว้บนบันไดด้านตะวันออกของ เจดีย์ชเวดากอง ชี้แจงเรื่องราวของเจดีย์เป็นภาษามอญ เมียนมาร์ และก็บาลี จารึกนั้นยังคงมีให้เห็นอยู่จนกระทั่งขณะนี้
เจดีย์ชเวดากองตกอยู่ภายใต้การยึดครองของอังกฤษนานถึง 77 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2395-2472 แต่ชาวพม่าก็ยังสามารถเข้ามาสักการะเจดีย์ได้
ในปี พ.ศ.2414 พระเจ้าไม่นป่าดง แห่งมัณฑะเลย์ ทรงส่งฉัตรฝังเพชรอันใหม่มาถวายเป็นพุทธบูชา มีการจัดงานสังสรรค์แล้วก็มีชาวประเทศพม่ากว่าแสนคนมาท่องเที่ยวดูงาน ท่านก็เลยทรงถือโอกาสนี้มุ่งหมายเรื่องเอกราชของประเทศพม่า สร้างความรู้สึกว่าไม่ชอบใจให้กับอังกฤษเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าก็ไม่บางทีอาจทำอะไรได้
เมื่อใดก็ตามที่เจดีย์ที่นี้พังเสียหายก็จะได้รับการบูรณะให้สวยสดงดงาม ก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม
เจดีย์ชเวดากองสัญลักษณ์ของประเทศพม่าตั้งแยู่บนเนินเขาเชียงกุตตระ สามารถแลเห็นได้จากทุกมุมเมือง เพราะว่าสูงเด่นเป็นสง่า ข้อสำคัญไม่มีตึกหรืออาคารสูงมาตั้งบดบังได้ ทัวร์เมียนมาร์
เว้นเสียแต่สถูปทองที่ส่องแพรวพราวไปทั่วแล้ว ยังมีส่วนประกอบโดยรวมอีก ตั้งแต่ประตูทางขึ้นสู่บันไดทั้ง 4 ทิศที่ใหญ่มาก ตัวหลังคาระเบียงวัดที่ทอดขึ้นสู่ฐานขององค์เจดีย์ก็มีลวดลายสลักเสลาราวกับ วังลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ
เจดีย์ชเวดากองเปิดให้ชมทุกวี่วันตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. การเปิดให้เข้าชมเป็นช้าวงเวลายาวขนาดนี้ ก็เพื่อผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปก่อนตอนเช้าและก็กลับออกมาหลังตะวันยอ แสงสว่าง จะได้มีเวลาดูสุดกำลัง
รอบๆโดยรอบของทางเข้าด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่เจดีย์ชเวดากองที่ผู้คนนิยมใช้กัน มีบันไดทั้งหมดทั้งปวง 104 ขั้น ทอดขึ้นสู่บริเวณลานของเจดีย์
ทัวร์พม่า[/b][/u]
ตามสองข้างทางบันได เต็มไปด้วยร้านรวงที่ได้รับอนุญาตจากทางวัดให้เข้ามาตั้งแผงขายของให้กับผู้ ผู้ที่มาสักการะบูชาด้วยความเลื่อมใส สินค้าจำนวนมากจะเกี่ยวกับการทำบุญรวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกวางขายด้วย
Tags : ทัวร์พม่า,ทัวร์พม่า
