Advertisement
สมุนไพรมะเย[/size][/b]
มะเยา Vernicia fordii (Hemsley) Airy Shaw.บางถิ่นเรียกว่า มะเยา (เหนือ) ทังอิ๊ว (จีน)ต้นไม้ ขนาดเล็ก สูง 4-10 มัธยม เปลือกสีน้ำตาลแกมเทา. ใบ ลำพัง เรียงแบบบันไดเวียนห่างๆรูปไข่ป้อม หรือ รูปหัวใจ กว้าง 3-12 เซนติเมตร ยาว 5-15 ซม. ปลายใบแหลมเป็นติ่ง; ขอบของใบเรียบ โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ เส้นใบออกมาจากโคนใบ 5-7 เส้น และออกจากเส้นกึ่งกลางใบแบบขนนกอีก 5-7 คู่ ใบแก่ข้างบนสะอาด ข้างล่างมีขนห่างๆ; ก้านใบยาว 9-12.5 เซนติเมตร ตรงรอยต่อระหว่างก้านใบ แล้วก็แผ่นใบด้านบนมีต่อมกลมๆสีแดง 2 ต่อม. ดอก ออกเป็นช่อที่ยอด แยกเพศ แต่อยู่บนต้นเดียวกัน ธรรมดา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b] กลีบมี 5 กลีบ สีขาว แม้กระนั้นดอกเพศเมียอาจมีได้ถึง 9 กลีบ ที่ฐานกลีบมีลาย และจุดประสีเหลือง แดง บางครั้งเหลือง หรือ ม่วงอมน้ำเงิน. ดอกเพศผู้ มีเกสรผู้ 8-12 อันอับเรณูมี 2 ช่อง. ดอกเพศเมีย มีเกสรภรรยารูปไข่ ด้านในมี 3-5 ช่อง ผลรูปค่อนข้างจะกลม มีเนื้อ แก่สีเหลือง แดงคล้ำ หรือ น้ำตาลปนดำ ข้างในมี 3-10 เม็ด ส่วนใหญ่จะมี 5 เมล็ด เปลือกหุ้มเม็ดแข็ง.
นิเวศน์วิทยา: มีบ้านเกิดในประเทศจีน ขึ้นทางแถบลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ปลูกเอาไว้ในพื้นที่หลายเขตของประเทศจีน เพราะว่าเป็นไม้มีค่าด้านเศรษฐกิจ ปลูกกันบ้างทางภาคเหนือของไทย.
สรรพคุณ : ต้น ทั้งยังต้นมีคุณลักษณะเป็นยากำจัดศัตรูพืช เม็ด เมล็ดที่ยังไม่แก่จัด ผึ้งให้แห้งในร่ม ต้มกับเนื้อหมู ให้เด็กรับประทานแก้โรคขาดอาหาร และก็โรคโลหิตจางสำหรับสตรี เนื้อเมล็ดแก่สกัดให้น้ำมันมะเยา (Tung oil) ถึง 33% เพียงแค่เป็นพิษมากยิ่งกว่าน้ำมันที่ได้จากเมล็ดมะเยาประเภทอื่น เนื่องจากว่ามีกรด eleostearic จำนวนสูง แล้วก็เป็นน้ำมันพืชเพียงแค่ชนิดเดียวที่มีกรดประเภทนี้ ก็เลยทำให้แห้งเร็วเป็นพิเศษ เอาไปใช้ในทางอุตสาหกรรมหลายหมวด ใช้เป็นยาทาแก้โรคผิวหนังบางจำพวกทาแก้แผลอักเสบ ผสานกับปูนกินกับหมาก ใช้ทาแผลกันน้ำ รวมทั้งเมื่อทำให้บริสุทธิ์แล้ว ใช้กินเป็นยาระบายได้เหมือนกันกับน้ำมันละหุ่ง แต่ว่ามีข้อดีกว่าตรงที่ไม่มีกลิ่นรวมทั้งรส ไม่ทำให้อ้วกคลื่นไส้