โรคพาร์กินสัน- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคพาร์กินสัน- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jeerapunsanook
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13495


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 22, 2018, 04:44:21 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคพาร์กินสัน (Parkinson ‘s disease)


นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอีกเช่น   คนไข้อาจมีอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย (เช่น ขา หลัง) โดยเฉพาะเวลานอน หรือช่วงกลางคืน อาจปวดจนนอนไม่หลับ บางรายอาจมีอาการซึมเศร้า ความดันตก ในท่ายืน ท้องผูก มีภาวะความจำเสื่อม หรืออาจมีปัญหากินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย น้ำหนักลด ในรายที่เดินลำบาก อาจหกล้ม กระดูกหักหรือศีรษะแตก ในรายที่เป็นมาก อาจนอนบนเตียงมากจนเป็นแผลกดทับ อาจมีอาการถ่ายปัสสาวะลำบาก และมีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้ง่าย คนไข้ที่ปล่อยไว้ไม่รักษาจนมีอาการรุนแรง (กินเวลา ๓-๑๐ ปี) มักจะตายด้วยโรคปอดอักเสบแทรกซ้อนหรือภาวะเลือดเป็นพิษจากการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ

  • ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อเกิดโรคพาร์กินสัน
  • อายุ ถ้าเกิดมีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเยอะขึ้นโดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่แก่ 60 ปีขึ้นไป
  • พันธุกรรม โดยพบว่าคนไข้ประมาณ 15-20% จะมีประวัติคนภายในครอบครัวเป็นโรคพาร์กินสัน (ถ้ามีพี่น้องสายตรงเป็นโรคนี้ 1 คนจะเพิ่มจังหวะเสี่ยงต่อโรคนี้ 3 เท่า และถ้ามี 2 คนก็จะเพิ่มความเสี่ยงเป็น 10 เท่าตามลำดับ)
  • เป็นผู้ที่สัมผัสกับยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าวัชพืช ดื่มน้ำจากบ่อและอาศัยอยู่ในเขตกันดาร เนื่องจากว่ามีกล่าวว่าพบโรคนี้ได้มากในเกษตรกรที่กินน้ำจากบ่อ
  • เป็นคนที่หรูหราฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ ดังเช่น ในหญิงที่ตัดรังไข่แล้วก็มดลูก หญิงวัยทองยังไม่ครบกำหนด ซึ่งคนพวกนี้จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูง แต่ว่าหากได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนชดเชยก็บางทีก็อาจจะช่วยลดการเกิดโรคนี้ได้
  • เคยประสบอุบัติเหตุที่กระเทือนทางสมอง
  • นอกเหนือจากนั้นยังมีกล่าวว่า คนที่ขาดกรดโฟลิกจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพาร์กินสันเช่นกัน
  • กรรมวิธีการรักษาโรคพาร์กินสัน โดยธรรมดาถ้าเกิดคนไข้ปรากฏอาการแน่ชัด สามารถวินิจฉัยได้จากลักษณะของอาการรวมทั้งการตรวจร่างกายทางระบบประสาทให้ถี่ถ้วน ช่วงแรกเริ่ม อาจวิเคราะห์ยาก จำเป็นจะต้องวิเคราะห์แยกโรคก่อนเสมอผู้ที่สงสัยว่าจะมีอาการป่วยด้วยโรคพาร์คินสัน ควรจะได้รับการตรวจวินิจฉัยจากอายุรเวชผู้ที่มีความชำนาญทางด้านประสาทวิทยา หรือที่เรียกว่าประสาทหมอ

การวิเคราะห์โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) จึงจำเป็นต้องแยกโรคอื่นๆที่มีลักษณะอาการของพาร์กินสัน รวมถึงแยกอาการ หรือภาวะพาร์กินสันทุติยภูมิ (Secondary parkinsonism) ออก ไปด้วย เนื่องจากการดูแลรักษาจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีลักษณะอาการบางอย่างคล้ายกันก็ตาม
การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันจะอาศัยอาการผู้ป่วย และก็ความผิดแปลกที่หมอตรวจเจอเป็นหลัก และก็ลักษณะอาการที่ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป อายุที่เริ่มเป็น และความเป็นมาในครอบครัว ไม่มีการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการใดที่ตรวจแล้วพูดได้ว่าคนเจ็บกำลังเป็นโรคพาร์กินสันอยู่ การตรวจทางห้องทดลองจะใช้เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคอื่นๆบางโรคที่มีลักษณะของโรคพาร์กินสันรวมทั้งมีลักษณะเฉพาะของโรคนั้นๆร่วมด้วย เพื่อซึ่งจะต้องได้รับการดูแลรักษาที่แตกต่างออกไปแค่นั้น อาทิเช่น การตรวจหาระดับพิษในกระแสโลหิต การตรวจหาระดับสาร Ceruloplasmin ในเลือดเพื่อวินิจฉัยโรค Wilson’s disease การเอกซเรย์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เอมอาร์ไอ/MRI) เพื่อวินิจฉัย โรค Normal pressure hydrocephalus เป็นต้น
ในอดีตกาลหมอรู้เรื่องว่าโรคพาร์กินสันนี้มีความผิดปกติที่ไขสันหลัง แม้กระนั้นในขณะนี้เป็นที่รู้กันแน่ๆแล้วว่า พยาธิภาวะของโรคนี้กำเนิดที่บริเวณตัวสมองเองในส่วนลึกๆรอบๆก้านสมอง ซึ่งมีกรุ๊ปเซลล์ประสาทที่มีสีดำมีจำนวนเซลล์ลดลง หรือบกพร่องในหน้าที่สำหรับในการปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า โดพามีน (dopamine) ก็เลยกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการเคลื่อนไหวช้า เกร็งรวมทั้งสั่นเกิดขึ้นเป็นลำดับ โดยเหตุนั้นในปัจจุบันการดูแลรักษาโรคนี้จึงหวังมุ่งให้สมองมีระดับสารโดพามีนกลับสู่ค่าธรรมดา ซึ่งอาจทำได้โดยการกินยาการทำกายภาพบำบัด หรือผ่าตัดสมอง
การดูแลและรักษาโรคพาร์กินสันมี 3 วิธี เป็น

  • รักษาด้วยการใช้ยา ซึ่งหากว่ายาจะไม่สามารถที่จะทำให้เซลล์สมองที่ตายไปแล้วฟื้นตัวหรือกลับมางอกทดแทนเซลล์เดิมได้ แต่ก็จะมีผลให้สารเคมีโดปามีนในสมองมีจำนวนเพียงพอกับสิ่งที่มีความต้องการของร่างกายได้ สำหรับยาที่ใช้ในปัจจุบันเป็นยากลุ่ม LEVODOPA และยากลุ่ม DOPAMINE AGONIST เป็นหลัก (การใช้ยาแต่ละชนิดขึ้นกับการวิเคราะห์จากแพทย์ ตามความเหมาะสม)
  • ทำกายภาพบำบัด เป้าหมายของการรักษาก็คือ ให้คนไข้คืนกลับสู่สภาพชีวิตที่ใกล้เคียงคนปกติที่สุด สามารถเข้าสังคมได้อย่างดี เป็นสุขพร้อมด้วยกายและก็จิตใจ ซึ่งมีหลักวิธีปฏิบัติง่ายๆคือ

ก) ฝึกหัดการเดินให้เบาๆก้าวขาแต่พอดี โดยเอาส้นตีนลงเต็มฝ่าเท้า และก็แกว่งแขนไปด้วยขณะเดินเพื่อช่วยในการทรงตัวดี นอกนั้นควรจะหมั่นจัดท่าทางในอิริยาบถต่างๆให้ถูกสุขลักษณะ รองเท้าที่ใช้ควรเป็นแบบส้นเตี้ย แล้วก็พื้นจะต้องไม่ทำมาจากยาง หรือวัสดุที่เหนียวติดพื้นง่าย
ข) เมื่อถึงเวลานอน ไม่สมควรให้นอนเตียงที่สูงเกินความจำเป็น เวลาจะขึ้นเตียงจะต้องค่อยๆเอนตัวนอนลงเอียงข้างโดยใช้ศอกจนกระทั่งก่อนชูเท้าขึ้นเตียง
ค) ฝึกฝนการพูด โดยพี่น้องต้องให้ความเข้าอกรู้เรื่องค่อยๆฝึกผู้เจ็บป่วย และก็ควรทำในสถานที่ที่สงบเงียบ

  • การผ่าตัด โดยมากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย และมีอาการไม่มากนัก หรือในคนที่มีลักษณะอาการแทรกซ้อนจากยาที่ใช้มาเป็นระยะเวลานานๆดังเช่นว่า อาการสั่นที่รุนแรง หรือมีการเคลื่อนไหวแขน ขา มากมายผิดปกติจากยา ปัจจุบันมีการใช้แนวทางกระตุ้นกระแสไฟฟ้าที่สมองส่วนลึกโดยผ่าตัดฝังเอาไว้ในร่างกาย พบว่าส่งผลดี แต่รายจ่ายสูงมาก คนป่วยโรคพาร์กินสัน ควรต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้างในการพัฒนาฟื้นฟูด้านร่างกาย รวมถึงจิตใจ ด้วยเหตุดังกล่าวแม้ท่านมีคนใกล้ชิดที่เป็นโรคจำพวกนี้ จำเป็นจะต้องรีบนำมาพบหมอเพื่อรับการวิเคราะห์โรคอันจะนำมาซึ่งการดูแลรักษาที่ถูกรวมทั้งเหมาะสมถัดไป
  • การติดต่อของโรคพาร์กินสัน เหตุเพราะโรคพาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สมองเกิดการตาย และทำให้สารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายมีปริมาณลดลง ก็เลยก่อให้เกิดอาการต่างๆของโรค ซึ่งไม่สามารถที่จะติดต่อจากคนสู่คน หรือ จากสัตว์สู่คนได้ (แต่ว่าสามารถถ่ายทอดทางจำพวกบาปไปสู่ลูกหลานได้)
  • การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน คนเจ็บแล้วก็พี่น้องสามารถดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ดังนี้
  • ติดตามรักษากับแพทย์เป็นประจำ
  • รับประทานยาควบคุมอาการจากที่หมอแนะนำให้ใช้
  • ทานอาหารประเภทที่มีกากใยเพื่อช่วยลดท้องผูก
  • หมั่นฝึกหัดบริหารร่างกาย โดยการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำเป็น อย่านอนหรือนั่งนิ่งๆและก็วิธีการทำงานประจำวัน ออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและก็ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ลดเกร็งและก็ปรับการทรงตัวให้ดีขึ้น เช่น การเดิน วิ่งเหยาะๆรำไท้เก๊ก หรือเต้นแอโรบิก    ฝึกฝนเดิน ยืนยืดตัวตรง วางเท้าห่างกัน ๘-๑๐ นิ้ว นับจังหวะก้าวเท้าแกว่งแขน เสมือนเดินสวนสนามหรือเดินก้าวผ่านเส้นที่ขีดไว้ เมื่อใดที่ก้าวไม่ออกให้จังหวะกับตัวเองกระดกข้อเท้าแล้วก้าวเดิน    ฝึกหัดบอกโดยให้คนไข้เป็นข้างพูดก่อน หายใจลึกๆแล้วออกเสียงให้ดังกว่าที่ตั้งหัวใจไว้
  • รอบๆทางเท้าหรือในห้องสุขาควรจะมีราวเกาะและไม่วางของเกะกะทางเดิน
  • การแต่งตัว ควรจะใส่เสื้อผ้าที่ถอดใส่ง่าย อาทิเช่น กางเกงเอวยางยืด เสื้อติดแถบกาวแทนกระดุม
  • วงศ์ญาติ ควรที่จะเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ อย่างเช่น การเดินหกล้ม เป็นต้น

สิ่งจำเป็นก็คือ คนสนิทของผู้เจ็บป่วยแล้วก็เครือญาติ ควรจะทำความเข้าใจแล้วก็ทำความเข้าใจคนป่วยพาร์กินสัน  แม้จะมีข้อมูลว่าการดื่มกาแฟ การสูบยาสูบ การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน(ในเพศหญิงวัยหมดประจำเดือน) จะช่วยลดการเกิดโรคพาร์กินสันได้ แม้กระนั้นก็ไม่เสนอแนะ เพราะว่ามีโทษนำไปสู่โรคอื่นๆที่น่าสะพรึงกลัวมีอันตรายต่อชีวิตได้มากกว่า

  • การคุ้มครองตัวเองจาโรคพาร์กินสัน เนื่องจากสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคพาร์กินสันยังไม่รู้จักแจ้งชัด ด้วยเหตุผลดังกล่าวการปกป้องคุ้มครองเต็มที่จึงเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าบางการเรียนพบว่า การกินอาหารมีสาระ 5 กลุ่มในจำนวนที่เหมาะสม โดยจำกัดอาหารกรุ๊ปไขมันแล้วก็เนื้อแดง (เนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) จำกัดอาหารในกรุ๊ปสินค้าจากนม รับประทานผัก ผลไม้เพิ่มขึ้นให้มากมายๆเนื่องมาจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง บางทีอาจช่วยลดจังหวะเกิดอาการ หรือ ลดความรุนแรงจากอาการโรคนี้ลงได้บ้าง นักวิจัยที่คณะแพทยศาสตร์ Chapel Hill มหาวิทยาลัยนอร์ธแคโลไรทุ่งนาได้คิดวิธีทดลองแบบง่ายๆที่ใครๆก็ทำเป็น รวมทั้งทำเสร็จภายในเวลาเพียงแต่ ๑ นาที


    วิธีทดลองดังกล่าวข้างต้นมี 3 ขั้นตอนกล้วยๆคือ

  • ให้ผู้ป่วยยิ้มให้ดู
  • ให้ยกแขนขึ้นทั้ง 2 ข้างรวมทั้งให้ค้างเอาไว้
  • ในที่สุดให้ผู้ป่วยพูดประโยคกล้วยๆให้ฟังสักประโยค

นักวิจัยทดสอบ ด้วยการให้คนที่เคยมีลักษณะสมองขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นตัวแสดงร่วมกับคนปกติคนอื่นๆรวมแล้ว ๑๐๐ คน แล้วหลังจากนั้นให้อาสาสมัครสมมติตัวเป็นคนผ่านมาพบเรื่องราวที่มีคนป่วยเกิดอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ให้อาสาสมัครทดลองทดลองด้วยคำบัญชาข้างต้นกับดาราอีกทั้ง ๓ ข้อ ขณะเดียวกันก็โทรศัพท์บอกผลการทดลองให้ผู้วิจัยทราบ โดยผู้ศึกษาวิจัยอยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งไม่เห็นอาการหรือการแสดงออกของผู้ที่สงสัยจะมีอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ผลที่ออกมาพบว่า นักค้นคว้าสามารถแยกผู้ป่วยออกมาจากคนธรรมดาได้อย่างเที่ยงตรงถึงจำนวนร้อยละ ๙๖ ทีเดียว โดยแยกอาการกล้ามใบหน้าอ่อนล้า (facial weakness) ได้จำนวนร้อยละ ๗๑ แยกกล้ามเนื้อแขนเมื่อยล้าได้ถึง ปริมาณร้อยละ ๙๕ แล้วก็แยก  ประสาทกึ่งกลางสถานที่ทำงานเปลี่ยนไปจากปกติทางคำกล่าวได้ปริมาณร้อยละ ๘๘ ซึ่งถือว่าเป็นถูกต้องมากมายด้านในเหตุการณ์ที่แพทย์ไม่อยู่ในจุดเกิดเหตุ

  • สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน/รักษาโรคพาร์กินสัน สารสกัดจากบอระเพ็ด ชื่อ columbamine เป็นสารกรุ๊ปอัลคาลอยด์ ที่มีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า สามารถยับยั้งฤทธิ์ของเอ็นไซม์ชื่อ acetyl cholinesterase ได้สูงมากมาย ซึ่งการยับยั้งเอนไซม์ acetyl cholinesterase เป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการเป็นยารักษาคนป่วยสมองเสื่อม (Senile dementia), คนไข้สูญเสียความจำ (Alzheimer’s diseases), โรคพาร์กินสันที่มีสภาวะโรคสมองเสื่อมร่วมด้วย (Parkinson’s disease with dementia, PDD) อาการเซ หรือ สภาวะกล้ามเนื้อเสียการร่วมมือ (Ataxia) และก็โรคกล้ามอ่อนแรง (myasthenia gravis)

               ผลการรักษาด้วยบอระเพ็ดในผู้เจ็บป่วยพาร์กินสัน สอดคล้องกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่มีการศึกษาค้นพบในงานศึกษาค้นคว้าวิจัย โดยเห็นผลสำหรับในการรักษาแจ่มกระจ่างในด้านภาวการณ์รู้คิด     การกระทำโดยรวมรวมทั้ง อาการทางประสาทดียิ่งขึ้นในภาวะโรคสมองเสื่อมที่เจอในผู้เจ็บป่วยพาร์กินสัน เนื่องจากโรคพาร์กินสันเมื่อมีการดำเนินของโรคมานาน 5-10 ปี จะเกิดความเสื่อมของสมองในส่วนอื่นๆตามมา กระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนไปจากปกตินอกเหนือจากการเคลื่อน เช่น การนอน ความแตกต่างจากปกติทางด้านอารมณ์และก็จิตใจ ภาวการณ์ย้ำคิดย้ำทำ อาการเศร้าหมอง ตื่นตระหนก เป็นต้น
                แต่ยังไม่มีข้อมูลในทางสถานพยาบาล หรือการเล่าเรียนในคนไข้กลุ่มโรคดังกล่าวข้างต้นอย่างเป็นระบบ แนะนำหากพึงพอใจใช้บอระเพ็ด ควรใช้ในด้านเสริมการดูแลและรักษาพร้อมกันกับยาแผนปัจจุบันเป็นหลัก และควรจะมีช่วงที่หยุดยาขยันง อย่างเช่น แนะนำใช้ยาเดือนเว้นเดือน หรือ 2-3 เดือน เว้น 1 เดือน
นอกจากนี้ข้อควรไตร่ตรองเป็นห้ามใช้บอระเพ็ดในผู้ที่มีภาวะเอนไซม์ตับผิดพลาด หรือคนป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับ หรือโรคไตรุนแรง คนที่มีลักษณะท่าทางความดันเลือดต่ำเหลือเกิน หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ สตรีตั้งครรภ์ สตรีให้นมบุตร
หมามุ่ยประเทศอินเดีย เป็นสมุนไพรที่ศาสตร์อายรุเวทของประเทศอินเดีย ใช้รักษาโรคพาร์กินสันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ผลวิจัยพบว่าเม็ดหมามุ่ยอินเดีย เป็นแหล่งธรรมชาติของสาร แอล-โดปา (L-dopa)เจอ 3.1-6.1% แล้วก็อาจเจอมากถึง 12.5% ซึ่งสารแอล-โดปานี้จะเป็นสารขึ้นต้นของโดพามีน โดยพบว่าสารแอล-โดขว้างในหมามุ่ยอินเดียมีจุดเด่นกว่ายาสังเคราะห์ Levodapa ตรงที่มีความแรงสำหรับในการออกฤทธิ์มากยิ่งกว่า Levodopa 2-3 เท่า เมื่อเทียบในขนาดเทียบเท่ากับ Levodapa ผู้เดียว
โดยมีการตั้งสมมติฐานว่าในสารสกัดเม็ดหมามุ่ยอินเดียอาจมีสารสำคัญบางตัวที่ทำหน้าราวกับ Dopamine Decarboxylase Inhibitors ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ต้องให้ร่วมกับ Levodopa เสมอ เพื่อยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี Dopamine Decarboxylase ที่จะทำลาย Levodopa อันจะทำให้การออกฤทธิ์ของ Levodopa ต่ำลง นอกเหนือจากนี้ยังพบว่าเมล็ดหมามุ่ยประเทศอินเดียยังออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า และก็มีระยะเวลาการออกฤทธิ์นานกว่า  Levodopa/Carbidopa
อย่างไรก็ดียังไม่มีข้อมูลในการศึกษาทางคลินิกรวมทั้งการศึกษาเล่าเรียนในคนป่วยโรคพาร์กินสัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงควรรอให้มีการทำการศึกษาเพิ่มเติม แล้วก็ส่งผลการวิจัยยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายก่อนจะใช้
เอกสารอ้างอิง

  • นพ.อัครวุฒิ วิริยเวชกุล.โรคพาร์กินสัน.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่382.คอลัมน์ โรคน่ารู้.กุมภาพันธ์.2554
  • ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์.โรคพาร์กินสันกับผู้สูงอายุ.ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
  • Kedar, NP. (2003). Can we prevent Parkinson,s and Alzheimer,s disease?. Journal of Postgraduate Medicine. 49, 236-245.
  • หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2. “โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 641-645.
  • Parkinson’s disease, in Harrison’s Principles of Internal Medicine, 17th edition, Braunwald , Fauci, Kasper, Hauser, Longo, Jameson (eds). McGrawHill, 2008 (electronic book). http://www.disthai.com/[/b]
  • โรคพาร์กินสัน.วิกิพีเดียสารานุกรม
  • โรคพาร์กินสัน-โรคสั่นสันนิบาต.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่219.คอลัมน์โรคน่ารู้.กรกฎาคม.2540
  • พญ.สลิล ศิริอุดมภาส.โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) .หาหมอ.com
  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ .โร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ