Advertisement
โรคอัมพฤกษ์อัมพาต- โรคอัมพฤกษ์อัมพาต คืออะไร โรคอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นอาการของ โรคเส้นเลือดสมองเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิตที่มีความหมายอย่างยิ่ง ในแต่ละปีพลเมืองโลกราว 15 ล้านผู้ที่ป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตสมอง และผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปริมาณ 5.5 ล้านคนต่อปี และก็ พิการอีกหลายล้านคน นอกนั้นยังทำให้เกิดผลเสียถึงชุมชนแล้วก็สังคมที่จำต้องแบกภาระการดูแลรักษาทั้งคนดูแลและก็ค่าใช้สอย ทำให้สูญเสียทั้งเศรษฐกิจเงินทองของประเทศ ในประเทศไทยผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองมีมากมายถึง 40,000 คนต่อปีรวมทั้งมีลักษณะท่าทางเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยโดยอายุเฉลี่ยโดยมากอยู่ในช่วงอายุ 55-65 ปี โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอาการของแขน ขาหรือหน้า ซีกใดส่วนหนึ่งชา อ่อนเพลียหรือขยับเขยื้อนตรากตรำ หรือเคลื่อนไหว
ไม่ได้เลย อย่างทันทีทันใด ซึ่งเกิดขึ้นจากเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองตีบตันหรือแตก ทำให้เนื้อสมองไม่ได้กินอาหาร รวมทั้งออกซิเจนทำให้เนื้อสมองเกิดการเสียหาย ถ้าไม่รีบรักษาเนื้อสมองจะตาย กำเนิดความย่ำแย่ถาวรสุดท้าย และเนื่องจากสมองเป็นศูนย์รวมในการออกคำสั่งของอวัยวะภายใต้อำนาจบังคับของสมองส่วนนั้น เมื่อเนื้อสมองส่วนใดเสียหายหรือตาย ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายใต้การควบคุมของสมองส่วนนั้น
โรคอัมพา[/b] ในความหมายทั่วๆไปจึงคืออาการแขนรวมทั้ง/หรือ ขาขยับเขยื้อนมิได้ หมดแรง ใช้งานไม่ได้ ส่วนโรคอัมพฤกษ์ เป็นอาการแขนรวมทั้ง/หรือขาอ่อนแรงกว่าเดิม ยังพอใช้ได้งานได้ แม้กระนั้นใช้ได้น้อยกว่าธรรมดาดังเช่น อาจชา ถือจับของหนัก หรือแต่งหนังสือตามปกติมิได้ ซึ่งอัมพฤกษ์จะมีความรุนแรงน้อยกว่าอัมพาต
สำหรับในประเทศไทยสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2552 พบว่า โรคเส้นเลือดสมองเป็นสาเหตุการถึงแก่กรรม หรือพิการสูงเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย รองจากโรคภูมิคุมกันบกพร่องและก็อุบัติเหตุ แล้วก็สูงเป็นชั้น 2 ในเพศหญิงรองจากโรคภูมิคุมกันบกพร่อง จากข้อมูลดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะเห็นว่าโรคเส้นเลือดสมองเป็นโรคที่คุกคามต่อชีวิตรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งโลก
- ที่มาของโรคอัมพฤกษ์อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงด้วยเหตุว่าเส้นโลหิตตีบ เส้นเลือดอุดตัน หรือเส้นโลหิตแตก ทำให้เยื่อในสมองถูกทำลาย เป็นเหตุให้เกิดอาการต่างๆขึ้น โดยความไม่ดีเหมือนปกติของโรคเส้นเลือดสมองสามารถแบ่งออกได้เป็นชนิดต่างๆดังต่อไปนี้เป็น โรคเส้นโลหิตสมองประเภทสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) เป็นประเภทของเส้นเลือดสมองที่พบได้กว่า 80% ของโรคเส้นเลือดสมองทั้งปวง มีต้นเหตุจากตันของเส้นเลือดจนทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยเกินไป ซึ่งสำเร็จจากการที่ผู้ป่วยมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การบริโภคของกินที่มีไขมันสูง การสูบยาสูบ ภาวการณ์หัวใจวายหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบางประเภท การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โรคเลือดบางสิ่งบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ภาวการณ์เลือดข้นไม่ดีเหมือนปกติ เกร็ดเลือดสูง เม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติ ส่วนมาก แล้วมักกำเนิดร่วมกับสภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งมีเหตุมาจากไขมันที่เกาะตามฝาผนังเส้นโลหิตจนก่อให้เกิดเส้นเลือดตีบแข็ง โรคเส้นเลือดสมองชนิดนี้ยังแบ่งออกได้อีก 2 ประเภทย่อย ดังเช่น โรคหลอดเลือดขาดเลือดจากภาวะเส้นเลือดสมองตีบ (Thrombotic Stroke) เกิดขึ้นจากหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) มีต้นเหตุจากภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันเลือดสูง เบาหวาน ทำให้เลือดไม่สามารถที่จะไหลเวียนไปยังสมองได้ โรคเส้นโลหิตขาดเลือดจากการอุดตัน (Embolic Stroke) เกิดขึ้นจากการอุดตันของเส้นโลหิตจนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปที่สมองได้อย่างเพียงพอ โรคเส้นเลือดสมองจำพวกเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากภาวการณ์เส้นโลหิตสมองแตก เมื่อเกิดการแตกของหลอดเลือดสมอง ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดีทำให้อับอายขายหน้าที่เซลล์สมองดำเนินงานแตกต่างจากปกติ เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา หรือฉีกขาด ทำให้เลือดรั่วไหลเข้าไปในเนื้อเยื่อสมองแต่ว่าพบได้น้อยกว่าจำพวกแรก เป็นราวๆ 20%โดยสภาวะนี้มักสัมพันธ์กับโรความดันเลือดสูงที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาลาภาวะเครียด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์รวมถึงยาบางนิดด้วย โรคเส้นโลหิตสมองจำพวกนี้ยัง สามารถแบ่งได้อีก 2 ชนิดย่อยๆอย่างเช่น โรคเส้นโลหิตสมองโป่งพอง (Aneurysm) มีสาเหตุมาจากความอ่อนแอของเส้นโลหิต โรคเส้นโลหิตสมองเปลี่ยนไปจากปกติ(Arteriovenous Malformation) ที่เกิดขึ้นจากความแปลกของเส้นโลหิตสมองตั้งแต่เกิด
- อาการของโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต ลักษณะโรคเส้นเลือดสมอง สามารถเจออาการได้หลายแบบ ขึ้นกับตำแหน่งของสมองที่เกิดการขาดเลือดหรือถูกทำลาย โดยอาการที่สามารถพบได้บ่อย ตัวอย่างเช่น อาการอ่อนเพลีย หรือมีลักษณะอัมพฤกษ์ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ส่วนใหญ่มักกำเนิดกับร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ครึ่งด้านทางด้านซ้ายฯลฯ อาการชา หรือสูญเสียความรู้สึกของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกันกับอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่มักเกิดกับร่างกายครึ่งส่วนใดครึ่งซีกหนึ่ง มีปัญหาเกี่ยวกับการพูด เช่น ไม่สามารถพูดได้กล่าวติด เสียงไม่ชัด ไหมรู้เรื่องคำบอกเล่า มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว ดังเช่นเดินเซ หรือมีลักษณะเวียนศีรษะรุนแรง การสูญเสียการมองเห็นเล็กน้อย หรือเห็นภาพซ้อน
อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ในบางครั้งบางทีอาจกำเนิดเป็นอาการเตือนเกิดขึ้นชั้วขณะหนึ่งแล้วหายไปเอง หรือเกิดขึ้นได้บ่อยมากก่อนมีลักษณะอาการสมองขาดเลือดแบบถาวร เรียกว่าสภาวะมีสมองขาดเลือดชั่วครั้งคราว(transient ischemic attack) ซึ่งพบได้ราวๆ 15%
- สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดสมอง ปัจจัยเสี่ยงมีหลายสาเหตุ โดยบางทีอาจแบ่งได้เป็น ปัจจัยที่ไม่อาจจะเปลี่ยนได้แล้วก็ต้นเหตุที่สามารถเปลี่ยนได้{คือ|เป็น

ต้นสายปลายเหตุที่เปลี่ยนมิได้
อายุ : ในคนที่มีอายุมากยิ่งกว่า 65 ปีเพราะอายุมากขึ้นเส้นโลหิตจะมีการแข็งมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีไขมันเกาะดกตัวทำให้เลือดไหลผ่านได้ทุกข์ยากลำบากเพิ่มมากขึ้นเพศ : เพศชาย มีการเสี่ยงมากยิ่งกว่าเพศหญิง
ประวัติครอบครัว : เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคเส้นเลือดหัวใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีอายุยังน้อย
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โรคความดันเลือดสูง ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงเป็นเวลานานๆทำให้หลอดเลือดแข็งตัว จะมีผลให้สมองทำงานแตกต่างจากปกติ มีการตีบแตกของเส้นเลือดสมอง ช่องทางเป็นอัมพาตมากกว่าคนปกติมากถึง ๓–๑๗ เท่า เนื่องมาจากไปทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอ จึงมีการแตกง่ายระดับความดันโลหิตที่ถือว่าสูง จำเป็นต้องพอๆกับหรือมากยิ่งกว่า 140/90 มม.ปรอท เบาหวาน ทำให้เกิดภาวการณ์เส้นโลหิตตีบแข็งทั่วร่างกาย เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตัน นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอัมพาตได้ ซึ่งจะเพิ่มช่องทางเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาต 3 เท่า ไขมันในเลือดสูง ไขมันไปเกาะฝาผนังเส้นเลือด ทำให้ฝาผนังเส้นโลหิตแข็ง เกิดการตัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอัมพาตได้ ซึ่งจะเพิ่มช่องทางเสี่ยงการเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาตถึง 1.5 เท่า การสูบยาสูบ เพราะสารคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นตัวรีบทำให้ผนังเส้นโลหิตเกิดการลีบขึ้นรวมทั้งยาสูบจะลดจำนวนออกสิเจนในเส้นโลหิต เพิ่มความหนืดของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ โอกาสเป็นอัมพาตได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบ ๓ เท่า ขาดการออกกำลังกาย การบริหารร่างกายช่วยเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดสภาวะสารอาหารเกิน ช่วยเพิ่มปริมาณการไหลเวียนของเลือดและออกสิเจนในร่างกาย ช่วยลดความดันเลือด ลดความเครียดแล้วก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแล้วก็กระดูกแข็งแรง นิสัยการบริโภคที่ไม่ถูกจะต้อง ดังเช่น การกินอาหารในจำนวนมากเกินไป จนทำให้อ้วน (ปกติรอบเอว ชายไม่เกิน 90 เซนติเมตร หญิง ไม่เกิน 80 เซนติเมตร) อาหารที่มีเกลือ (ธรรมดา ไม่เกิน 1 ช้อนชา/วัน) และก็ไขมันสูง (การทอด น้ำมันสัตว์ เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปลาหมึก หนังไก่ ขาหมู ทานอาหารพวกผัก ผลไม้ไม่พอ (น้อยกว่า 5 ส่วนต่อวัน ดังเช่นผักสดน้อยกว่า 5 ทัพพีต่อวัน/ผักสุกน้อยกว่า 9 ช้อนโต๊ะต่อวัน) ดื่มแอลกอฮอล์ในจำนวนมากเสมอๆ (ปกติชาย ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน หญิง ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน) ก่อปัญหาความดันโลหิตสูง ไขมันรวมทั้งน้ำตาลในเลือดสูง
- กรรมวิธีการรักษา โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง ในการตรวจเพื่อรับรองโรคหลอดเลือดสมอง มีขั้นตอนดังนี้ วิธีสำหรับซักประวัติแล้วก็ตรวจร่างกาย หมอจะซักเรื่องราวรักษา อาการ รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆตรวจ ร่างกายทั่วไป แล้วก็ตรวจร่างกายทางระบบประสาท การตรวจทางห้องทดลอง ตัวอย่างเช่นการพิสูจน์เลือดต่างๆการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) เพื่อมองว่าสมองมีลักษณะของการขาดเลือดหรือเกิด เลือดออกในสมองหรือไม่
สำหรับเพื่อการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ที่เกิดขึ้นมาจากการตีบหรืออุดตันของเส้นโลหิตในระยะกะทันหันที่มีการศึกษายืนยันแล้วว่าได้ประสิทธิภาพที่ดีเด่นชัด ตัวอย่างเช่น
- การให้ยาสลายลิ่มเลือด (Tissue plasminogen activator, tPA) ทางหลอดโลหิตดำแก่ผู้เจ็บป่วยโรคเส้นเลือดสมองตีบหรือตันภายในช่วงระยะเวลา 3 ชั่วโมงข้างหลังกำเนิดอาการ จะเพิ่มโอกาสของการฟื้นตัวจากความพิกลพิการให้อาการกลับมาใกล้เคียงปกติได้ถึง 1.5 – 3 เท่า เมื่อเทียบกับคนป่วยกลุ่มที่มิได้รับยา แต่การใช้ยานี้มีความเสี่ยงของเลือดออกในสมองได้ประมาณ 6%
- การให้ยาต้านทานเกล็ดเลือด เป็นยาที่ช่วยป้องกันการก่อตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การอุดตันลดน้อยลง ยาในกลุ่มนี้ที่ นิยมใช้ได้แก่ยาแอสไพริน การให้รับประทานยาแอสไพรินอย่างน้อย 160 mg ต่อวันภายใน 48 ชั่วโมงข้างหลังเกิดอาการ จะช่วยลดโอกาสกำเนิดโรคเส้นเลือดสมองลีบซ้ำรวมทั้งเสียชีวิตลง
- การรับตัวผู้ป่วยไข้เอาไว้ในหอคนเจ็บโรคเส้นโลหิตสมองรุนแรง (acute stroke unit)นับเป็นการรักษาที่ช่วยลดอัตราการตายหรือพิการอีกแนวทางหนึ่ง
- การผ่าตัดเปิดหัวกะโหลก (Hemicraniectomy) จะพิเคราะห์ทำเฉพาะในกรณีที่มีลักษณะอาการ
รุนแรงและมีการตีบหรืออุดตันของเส้นโลหิตแดงใหญ่ Middle cerebral atery ในสมองเพียงแค่นั้น โดยมีหลักฐานการเล่าเรียนว่าการผ่าตัดดังที่กล่าวถึงแล้วสามารถลดอัตราการตายของคนเจ็บได้
- การติดต่อของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นโรคที่เกี่ยวกับหลายเลือดสมอง จึงไม่มีการติดต่อระหว่าง คนสู่คน หรือสัตว์สู่คน
- การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต อาการเตือนของอัมพาต แขนขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรง หรือชาครึ่งด้าน ปากเบี้ยว พูดตรากตรำ หรือเปล่าเข้าใจภาษา เวียนศีรษะ หัวหมุน อ้วก เสียการทรงตัว ตามองมองไม่เห็นครึ่งส่วน หรือสองด้าน ประสาทตาอัมพาต กลอกตามิได้ ตาเหล่ เห็นภาพซ้อน กล้ามเนื้อ บริเวณใบหน้าเป็นอัมพาต ปากเบี้ยว ปิดตาไม่สนิท กลืนทุกข์ยากลำบาก กล่าวไม่ชัด เสียงแหบ ซึมหรือสลบ ถ้ามีหลอดเลือดแตกจะมีก้อนกดทับสมอง สมองบวม ความดันในกะโหลกมากขึ้น ทำให้มีลักษณะอาการต่างๆร่วมด้วย ได้แก่ ปวดหัวมาก อาเจียน อ้วก ต้นคอแข็งเกร็ง หมดความรู้สึก เมื่อมีลักษณะอาการเตือนของอัมพาตเกิดขึ้น คนสนิทหมั่นสังเกต ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนไปจากปกติรีบพบหมอ ทำการรักษาโดยทันที บางรายหากมีการเปลี่ยนหมดสติไป บางทีก็อาจจะจำเป็นต้องรีบกระทำการผ่าตัดด่วน
ส่วนเมื่อได้รับการดูแลรักษาแล้วและแพทย์อนุญาตให้กลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน การดูแลตน เอง/การเจอหมอที่สำคัญคือ ปฏิบัติตัวตามแพทย์/พยาบาลเสนอแนะ มานะเคลื่อนร่างกายเท่าที่ทำได้เสมอ ได้แก่ ทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ นักกายภาพบำบัดบ่อย อย่าหมดหวัง เนื่องจากว่าอาการต่างๆจะเบาๆดียิ่งขึ้นช้าๆกินยาต่างๆให้ครบบริบรูณ์ ถูกต้อง ไม่ขาดยา เพื่อคุ้มครองป้องกันโรคกำเนิดเป็นซ้ำ แล้วก็โรคแทรกซ้อนต่างๆรักษาสุขลักษณะรากฐาน เพื่อลดช่องทางติดเชื้อโรค รู้เรื่องในธรรมชาติของโรค ยอมรับเรื่องจริง ปรับนิสัยให้กับภาวะ จัดบ้าน ห้องพัก แล้วก็สุขาเพื่อช่วยตัวเองให้ได้มากที่สุด ควบคุมโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ/สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง เจอหมอตามนัดหมายเสมอรวมทั้งรีบเจอก่อนนัดเมื่ออาการต่างๆต่ำทรามลง
- การป้องกันตัวเองจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต การปกป้องคุ้มครองโรคหลอดเลือดสมอง โรคเส้นโลหิตสมองสามารถปกป้องได้ด้วยการลดการเสี่ยงโรคเส้นโลหิต ซึ่งการลดความเสี่ยงทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนความประพฤติการใช้ชีวิต การกินอาหาร แล้วก็การบริหารร่างกาย ดังนี้ ทานอาหารที่มีสาระ และก็ควรจะหลีกเลี่ยงของกินที่มีไขมันสูง เนื่องจากว่าจะนำไปสู่ภาวการณ์คอเลสเตอรอลในเลือดสูง รวมถึงอาหารที่มีรสเค็มจัด ที่เป็นต้นเหตุของโรคความดันเลือดสูง ควบคุมน้ำหนัก โรคอ้วนเป็นต้นเหตุของโรคร้ายแรงต่างๆแล้วก็โรคหลอดเลือดสมอง การควบคุมน้ำหนักจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยช่วงเวลาสำหรับเพื่อการออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็น 2.5 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ โดยควรจะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก งดเว้นสูบบุหรี่นอกนั้นควรรับการตรวจรักษาต่อเนื่องกับหมออย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆโดยการใช้ ยาร่วมกัน อาทิเช่น การให้ยาควบคุมระดับคอเลสเตอรอล โดยควรได้รับการตรวจวัดระดับไขมันในเลือดอย่างต่ำทุก 6-12 เดือน ถ้าเกิดเป็นคนที่มีการเสี่ยง หรือมีภาวะคอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ควรไปพบหมออย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการ- ควบคุมระดับความดันโลหิตให้เข้าขั้นปกติโดยความดันเลือดที่สมควร คือ ต่ำลงมากยิ่งกว่า 140/90 มม.ปรอท- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร รวมทั้งการใช้ชีวิต นอกจากนั้น ควรกินยาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมอาการได้และก็ทำให้ความเสี่ยงโรคเส้นโลหิตสมองต่ำลง กรณีเป็นโรคหัวใจ ควรรับการดูแลรักษาโรคหัวใจอย่างสม่ำเสมอด้วยเหมือนกัน โดยกรณีเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะควรจะได้รับยาคุ้มครองป้องกันเลือดแข็ง
- สมุนไพรซึ่งสามารถช่วยคุ้มครองป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
- สมุนไพรซึ่งสามารถช่วยคุ้มครองปกป้องโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต (หลอดเลือดสมอง) เป็นต้นว่า กระเทียม กระชาย ขมิ้น ข่า ตะไคร้ ขิง ใบกะเพรา ใบโหระพา ใบสะระแหน่ พริกไทยดำ โดยส่วนใหญ่แล้วในสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยจะมีส่วนช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกาย บำรุงเลือด ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย แล้วก็ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง
- สมุนไพรพื้นบ้านแก้โรคเบาหวานลดระดับความดันที่เป็นต้นเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มะระขี้นก เป็นไม้เลื้อยและเป็นผักพื้นเมืองของไทย มีวิตามิน เอ และก็ ซี สูง มีคุณประโยชน์ในการลดน้ำตาลในเลือด และชะลอการเกิดต้อกระจกได้ กระเทียม มีคุณลักษณะช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ ควรจะรับประทานกระเทียมหัวแก่ หากรับประทานสดจะได้รับคุณประโยชน์มากกว่ากระเทียมที่ปรุงสุกแล้ว ตะไคร้ เป็นสมุนไพรแก้เบาหวานและความดันที่เรารู้จักกันดี เนื่องจากนิยมนำมาทำอาหาร ซึ่งตะไคร้จะมีสรรพคุณสำหรับการขับฉี่ ขับลม แล้วก็ยังช่วยลดความดันเลือดได้อีกด้วย ใบชะพลู เป็นผักพื้นเมืองของไทยและเป็นสมุนไพรแก้เบาหวานและก็ความดัน นิยมนำมารับประทานสด ในตำรับยาสมุนไพรท้องถิ่นสามารถนำใบชะพลูมาต้มเพื่อลดเบาหวานได้ เพราะว่าใบชะพลูมีคุณประโยชน์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังยังมีสารต้านทานอนุมูลอิสระสูง
เอกสารอ้างอิง- พญ.พรรณวลัย ผดุงวณิชย์กุล.โรคหลอดเลือดสมอง.สาขาวิชาประสาทวิทยา.ภาควิชาอายุรศาสตร์.คณะแพทย์ศาสตร์.มหาวิทยาลัยนเรศวร.
- อ.นพ.ยงชัย นิละนนท์.อัมพฤกษ์อัมพาต โรคเรื้อรังที่ต้องดูแล.สาขาวิชาประสาทวิทยา.ภาควิชาอายุรศาสตร์.คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล.มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ทำไมต้องรู้จัก”โรคหลอดเลือดสมอง”.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่350.คอลัมน์อื่นๆ.มิถุนายน 2551.
- โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ โรคหลอดเลือดสมอง(Stroke)
- อรุณี เจษฎาวิสุทธิ์.อัมพฤกษ์ อัมพาต มหันตภัยใกล้ตัว.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่320.คอลัมน์ บทความพิเศษ.ธันวาคม 2548
- Poungvarin, N. et al. (2011). Prevalence of stroke and stroke risk factors in Thailands: Thai Epidemiologic Stroke (TES) Study. J Med Assoc Thai. 94, 427-436.
- สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สถิติสธารณสุข พ.ศ. 2554 (Public Health Statistics A.D. 2011). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2554. 234 p.[url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
- สมศักดิ์ เทียมเก่า,กาญจนศรี สิงห์ภู่,พัชรินทร์ อัวนไตร,และณัฐภรณ์ หาดี.(2557).คู่มือการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชน เรื่อง โรคหลอดเลือดสมอง.โรคพยาบาลศรีนครินทร์และภาควิชาอายุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์.
- Lambert, M. (2011).AHA/ASA guidelines on prevention of recurrent stroke. Am Fam Physician. 83, 993-1001.
- Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, L., Hauser, S., Longo, D., and Jameson, J. (2001). Harrison’s principles of internal medicine (15th ed.). New York: McGraw-Hill.