สมุนไพรลูกใต้ใบพร้อมทั้งวิธิรักษาสรรพคุณเเละประโยชน์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุนไพรลูกใต้ใบพร้อมทั้งวิธิรักษาสรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 83 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2018, 09:53:43 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


ลูกใต้ใบ
ชื่อสมุนไพร  ลูกใต้ใบ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น  ต้นหญ้าใต้ใบ,มะขามป้อมดิน,หน่วยใต้ใบ (ภาคเหนือ) ,หญ้าใต้ใบขาว (สุราษฎร์),จูเกี๋ยเช่า (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn.
ชื่อสามัญ Egg woman, Tamalaki, Stonebreaker.
ตระกูล  EUPHORBIACEAE
บ้านเกิด ลูกใต้ใบมีบ้านเกิดเมืองนอนในแถบเขตร้อนต่างๆของโลกในทวีป อเมริกาใต้ แอฟริกา แล้วก็ทวีปเอเชีย และก็มีการกระจายประเภทไปอยู่ในหลายๆประเทศเขตร้อนของภูมิภาคดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังเช่น เปรู บราซิล ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศอินเดีย ไทย เมียนมาร์ ลาว อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในประเทศไทยนั้น ต้นลูกใต้ใบสามารถพบได้ทั่วทุกจังหวัด ตั้งแต่ในอดีตจนถึงเดี๋ยวนี้ โดยพบได้ทั่วไปในหรือตามรอบๆเงาไม้ต้นในที่โล่งทั่วๆไป หรือขึ้นแซมกับพืชที่เกษตรกรปลูก จนถึงจำเป็นต้องถูกกำจัดเหมือนวัชพืชอื่นๆเลยทีเดียว
ลักษณะทั่วไป ลูกใต้ใบ เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กจัดอยู่ในวงศ์ Euphorbiaceae จีนัส Phyllanthus เหตุที่มีชื่อเรียกว่า ลูกใต้ใบ, ต้นหญ้าลูกใต้ใบ หรือ หญ้าใต้ใบ เนื่องจากมีผลขนาด เล็กออกตามซอกก้านใบย่อยและก็แขวนลงให้เห็นว่าลูกอยู่ใต้ใบ ในประเทศไทยมีไม้ล้มลุกที่ มีลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นคล้ายกันแล้วก็ถูกเรียกว่าลูกใต้ใบอยู่อย่างต่ำ 5 จำพวกหรือสปีชีส์ (species) เป็นต้นว่า Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn., P. debilis, P. niruri, P. urinary Linn (ต้นหญ้าใต้ใบ) รวมทั้ง P. virgatus G. Forst. แต่มีรายงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่าลูกใต้ใบชนิด P.amarus Schumach. & Thonn. นั้นเป็นจำพวกที่ให้สารที่มีคุณประโยชน์ทางยามากที่สุด ซึ่งลูกใต้ใบฃนิดนี้มีลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์ดังต่อไปนี้

  • ต้นลูกใต้ใบ จัดเป็นไม้ล้มลุก มีอายุเพียงแค่ปีเดียว มีความสูงราว 10-50 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นไม่มีขน และก็ทุกส่วนของต้นมีรสขม
  • ใบลูกใต้ใบ ใบเป็นใบผู้เดียวประกอบแบบขนนกเรียงสลับกันชั้นเดี่ยวปลายคี่ มีใบย่อยโดยประมาณ 23-25 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ โคนใบมนแคบ ส่วนปลายใบมนกว้างของใบเรียบไม่มีขน ใบด้านล่างสีอ่อนกว่าข้างบน ใบมีขนาดกว้างโดยประมาณ 3-4 มิลลิเมตรรวมทั้งยาวราวๆ

5-10 มม. มีก้านใบสั้นมากมาย มีหูใบสีขาวนวล ลักษณะเป็นสามเหลี่ยมปลายแหลมติดตามอยู่ 2 อัน

  • ดอกลูกใต้ใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีขนาดเล็กสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 0.08 เซติเมตร ดอกเพศภรรยามักจะอยู่รอบๆโคนก้านใบ ส่วนดอกเพศผู้ชอบอยู่รอบๆส่วนปลายของก้านใบ มักออกเป็นกลุ่มๆละ 2-3 ดอก โดยดอกตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้ราว 2 เท่า และดอกโดดเดี่ยวๆเกสรตัวผู้มี 3 ก้าน โคนก้านเกสรเชื่อมกันนิดหน่อย มีอับเรณูแตกอยู่ตามแนวนอน ส่วนกลีบรองและกลีบดอกเป็นรูปไข่ ขอบกลีบมีสีอ่อน
  • ผลลูกใต้ใบ ลักษณะของผลเป็นทรงกลมแป้น ผิวเรียบมีสีเขียวอ่อนนวล ผลมีขนาดโดยประมาณ 0.15 เซนติเมตร โดยผลชอบติดตามอยู่บริเวณใต้โคนของใบย่อย และอยู่ในรอบๆกึ่งกลางก้านใบ ผลเมื่อแก่จะแตกเป็นพู 6 พู ในแต่ละพูจะมีเม็ด 1 เมล็ด สีน้ำตาล มีลักษณะเป็นรูปเสี้ยว 1 ส่วน 6 ของทรงกลม มีสันตามทางยาวทางด้านหลัง แล้วก็มีขนาดเล็กมากมายราวๆ 0.1 ซม.

การขยายพันธุ์  ลูกใต้ใบเป็นพืชพันธุ์ไม้ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในและตามขอบไม้ในที่โล่งทั่วทุกภูมิภาค โดยยิ่งไปกว่านั้นหน้าฝนจึงไม่มีการนิยมนำมาปลูกในเชิงการค้าอะไร  ส่วนการขยายพันธุ์ของลูกใต้ใบนั้นสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เม็ด  ในตอนนี้นั้นเมื่อเริ่มมีการตื่นตัวถึงคุณประโยชน์ของลูกใต้ใบที่มีรายงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยมารับรองแล้วนั้น  จึงเริ่มเห็นมีการเพาะกล้าของลูกใต้ใบมาจำหน่ายและเกษตรกรก็เริ่มเพาะปลูกลูกใต้ใบเพื่อมากขึ้นเรื่อยๆกว่าอดีต
ส่วนประกอบทางเคมี ส่วนประกอบทางเคมีของลูกใต้ใบจะประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins), ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids), ลิกแนนส์ (Lignans), ไกลโคไซด์ (Glycosides), ซาโปนิน (Saponin) ฯลฯ  แล้วก็สมุนไพรลูกใต้ใบยังประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอีกเป็นต้นว่า  ธาตุโซเดียม 0.86 %, ธาตุโพแทสเซียม 12.84 %,  ธาตุเหล็ก 10.68 %, ธาตุแคลเซียม 6.57 %, ธาตุแมกนีเซียม 0.34 %, ธาตุอะลูมิเนียม 3.92 %, ธาตุฟอสฟอรัส 0.34 %
 
 
 
 
 
 
                                                       ที่มา  :  Wikipedia
สรรพคุณ  ด้านคุณประโยชน์ของลุกใต้ใบนั้นคนประเทศไทยมีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าลูกใต้ใบสามารถคุ้มครองตับจากพิษของสารเคมี และก็ถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อช่วยรักษาคนป่วยที่เป็นโรคมะเร็งตับให้แก่ยาวขึ้น แล้วก็ยังมีคุณประโยชน์ตามตำรายาไทยอีกหลายชนิดดังเช่น ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย  บำรุงธาตุในร่างกาย เจริญอาหาร รักษาโรคตา ควบคุมแล้วก็ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันเลือด แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยรักษามาลาเรีย ช่วยแก้อาการไอ ช่วยแก้หืด ช่วยแก้อาการร้อนในอยากดื่มน้ำ ช่วยขับเหงื่อ ขับฉี่ ช่วยขับเสลด แก้ท้องเสีย  แก้เจ็บท้อง  โรคท้องมาน แก้บิด ข้อระดูขาวไข้รอบเดือนของสตรี รักษาไข้ทับรอบเดือน  ช่วยทำนุบำรุงสายตา ทำให้สายตาดี แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยแก้พิษตานซาง แก้น้ำเหลืองเสีย  บำรุงตับ รักษาโรคดีซ่าน ยอดอ่อนใช้รักษาอาการปวดข้อ  ปวดกระดูก ลดอาการอักเสบ แก้เริม ฯลฯ
รูปแบบ/ขนาดการใช้

  • แก้ไข้ ให้นำต้นสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำปริมาณ 2 ถ้วยแก้ว แล้วต้มจนถึงเหลือน้ำ 1 1/2 ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว
  • รักษาโรคเริม ให้ใช้ลูกใต้ใบราว 5 ใบ ตำผสมกับเหล้าแล้วคั้นมัวแต่นำมา หลังจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำยามาแปะตรงที่เป็น
  • รักษาลักษณะของการปวดข้อ ใช้ยอดอ่อนมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรักษาลักษณะของการปวดกระดูก ปวดข้อ
  • แก้เมื่อย นำลูกใต้ใบมาล้างน้ำ รวมทั้งสับเป็นชิ้นเล็กๆผึ่งแดดให้แห้ง ต้มใส่หม้อดิน เอามาดื่มแทนชา
  • แก้ไอ นำใบอ่อนของต้นใต้ใบ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 แก้ว เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1 1/2 แก้วใช้จิบแก้ไอ
  • ขับประจำเดือน นำต้นลูกใต้ใบมาต้มรับประทาน ก็จะช่วยสำหรับปรับสมดุลเลือดลมภายในร่างกาย ทำให้เมนส์มาเป็นปกติได้
  • ไข้ทับเมนส์ ให้นำลูกใต้ใบทั้งยัง 5 มาล้างน้ำสะอาด เอามาตำผสมเหล้าขาว คั้นเฉพาะน้ำยามาดื่มทีละ 1 ถ้วยชา
  • บำรุงสายตาให้ใช้ผลต้มดื่มรวมทั้งยังช่วยรักษาโรคตา
  • กำจัดพิษออกจากตับ ใช้ต้มดื่มติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์ คุ้มครองป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากพิษต่างๆและก็ช่วยทำนุบำรุงตับ

การศึกษาทางเภสัชวิทยา  จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยในหลอดทดลองหลายรายงานพบว่าลูกใต้ใบสามารถยับยั้ง DNA poly-merase ของ HBV ซึ่งเป็นเอนไซม์สำหรับสังเคราะห์ DNA ของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เช่น สารสกัดเมทานอลจากลูกใต้ใบ (ไม่กำหนดความเข้มข้น) สารสกัดเมทานอลจากทั้งยังต้น (ไม่เจาะจงความเข้มข้น) สารสกัดน้ำจากทั้งต้น มีค่า IC50 พอๆกับ 500 มค.กรัม/มล. สารสกัดน้ำจากทั้งยังต้น ความเข้มข้น 75 มค.ก./มิลลิลิตร สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้นมีฤทธิ์อ่ออนในการยับยั้ง DNA polymerase ของ HBV มีค่า IC50 เท่ากับ 59 มค.กรัม/มิลลิลิตร รวมทั้งขนาด 43 มค.ก./มิลลิลิตร มีฤทธิ์อ่อนสำหรับเพื่อการยังยั้ง HBV สารสกัดเมทานอลยังมีฤทธิ์ยั้ง HBV antigen
สารสกัดน้ำจากทั้งยังต้น ความเข้มข้น 100 มค.ก./มิลลิลิตร สามารถยั้งการแบ่งตัวข้างในเซลล์ HBV สารสกัดเอทานอล สารสักดเฮกเซน สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัดบิวทานอล และก็สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้น ขนาด 4 มก./มล. มีฤทธิ์ต้าน HBV  antigen ขึ้นรถสัดบิวทานอลมีฤทธิ์สูงสุด และยั้งปฏิกิริยาระหว่า HBs Ag/Hbe Ag ยับยั้งการสังเคราะห์ DNA ของ HBV และยับยั้งการ expression ของ HBV antigen สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้น ความเข้มข้น 0.5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยง hepatoma cell line HepA2 ที่ถูกทำให้ติดเชื้อโรค HBV พบว่าสารสกัดจะยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์และกดการสร้าง Hbs Ag แต่ว่าไม่ลดการสร้าง HBsAg gene promotor ซึ่งจะไปกระตุ้น CAT activity สารสกัดน้ำจากใบมีฤทธิ์ยั้งการ expression ของ HBV antigen โดยมี IC50 พอๆกับ 5 มค.กรัม/มิลลิลิตร
ส่วนการทดสอบในสัตว์ทดสอบพบว่าสารสกัดลูกใต้ใบให้ผลสำหรับในการยับยั้งเชื้อ HBV ในสัตว์ทดลองโดยเมื่อฉีดสารสกัดน้ำจากต้นขนาด 80 มิลลิกรัม/กก. เข้าช่องท้องหนู G26 transgenic mice จะยั้งการเกิด transcription ในตับหนูโดยลด HBV mRNA แล้วก็ขนาด 100 มค.กรัม/มิลลิลิตร (ไม่ระบุขั้นตอนการบริหารยา) จะลดการเกิด  transgenic เช่นเดียวกัน โดยระดับของ HBs Ag mRNA ในเซลล์ตับลดลง และยับยั้ง expression ของ HBV mRNA
นอกจากนี้ยังมีผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยแยกสารประกอบกลุ่ม lignan ได้จากสารสกัด ethyl acetate จากลูกใต้ใบซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็งโดยพบว่าไปยั้งการแสดงออกของ ยีน Bcl-2 รวมทั้งการหยุดยั้งหลักการทำงานของ โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี telomerase ร่วมกับการกระตุ้นการทำงานแสดงออกของ ยีน c-myc และก็การทำงานของ โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี caspases นำมาซึ่งแนวทางการตายของเซลล์แบบ apoptosis แล้วก็ยังมีการทำการศึกษาเรียนรู้ทางเภสัชวิทยาต่างๆอีกอาทิเช่น

  • สารสกัดด้วยเอทานอลของรากลูกใต้ใบประเภท P. amarus มีฤทธิ์สำหรับในการต้านทานอนุมูลอิสระ และก็ยังสามารถช่วยลด Oxidative stress ได้เมื่อเล่าเรียนในหลอดทดลอง ส่วนในสารสกัดแบบน้ำชาของลูกใต้ใบก็พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบจำพวก P. amarus มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นโรคโรคเบาหวานจากการฉีดสาร Alloxan และก็สารสกัดด้วยน้ำจากใบแล้วก็เมล็ดของ P. amarus ก็มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยเหมือนกัน โดยมีการทดลองใช้ดื่มน้ำตาลซูโครส 10% เป็นเวลา 30 วันเพื่อทำให้ภาวะน้ำตาลในเลือดมากขึ้น แต่ผลการทดสอบก็พบว่าสามารถช่วยลดภาวะโรคเบาหวานได้
  • มีฤทธิ์ยั้งเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง สารสกัดด้วยน้ำและแอลกอฮอล์ของลูกใต้ใบจำพวก P. amarus มีฤทธิ์แรงในการช่วยยั้ง HIV-1 โดยเป็นสารออกฤทธิ์ในกลุ่ม Gallotannin ซึ่งสาร Corilagin, Ellagitannins แล้วก็ Geraniin นั้นจะมีฤทธิ์แรงที่สุด ยิ่งกว่านั้นยังช่วยยั้งเชื้อ HIVE ได้ถึง 30% และก็ส่งผลยั้งเชื้อ HIVE ทั้งใน in vitro รวมทั้งใน in vivo
  • ช่วยป้องกันการเกิดพิษต่อตับของหนูขาวจากการได้รับยาพาราเซตามอล โดยพบว่าการให้ต้มหรือผงของลูกใต้ใบปริมาณ 1 ครั้งในขนาด 3.2 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมในหนูทดลอง ก่อนให้พาราเซตามอลตรงเวลา 1 ชั่วโมง ส่งผลช่วยลดความเป็นพิษเจริญที่สุด
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบ P. amarus มีฤทธิ์ในการต้านการก่อกลายพันธุ์ของสาร 2-acetaminofluorene (2-AFF), 4-nitro-O-phenylenediamine, Aflatoxin B1, Sodium azide แล้วก็ N-methyl-N-nitro-N- nitrosoguanidine เมื่อศึกษาค้นคว้าด้วย Ames test ในหนูทดลอง โดยผลของการต่อต้านการก่อกลายจำพวกของสารสกัดใน in vitro จะดียิ่งกว่าใน in vivo

ฤทธิ์ป้องกันตับของลูกใต้ใบในหนูขาว  การเล่าเรียนในหนูขาวโดยแบ่งหนูขาวออกเป็น 5 กรุ๊ป กลุ่มที่ 1 เป็นกรุ๊ปควบคุมให้กินสารละลายเดกซ์โทรส (Isocaloric glucose solution) กรุ๊ปที่ 2 เป็นกลุ่มที่ได้รับสารละลายเอทานอล (20% น้ำหนัก/ขนาด) ขนาด 5 กรัม/กิโลกรัม/วัน กลุ่มที่ 3 ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 มก./กิโลกรัม/วัน ร่วมกับสารละลายเดกซ์โทรส กรุ๊ปที่ 4 รวมทั้ง 5 เป็นกลุ่มที่ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 และก็ 500 มิลลิกรัม/กก./วัน ร่วมกับสารละลายเอทานอลขนาด 5 กรัม/กิโลกรัม/วัน เป็นลำดับ นาน 4 อาทิตย์ (เอทานอลให้นาน 3 อาทิตย์) พบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับเอทานอลเพียงอย่างเดียว สารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 แล้วก็ 500 มก./กก./วัน ในหนูกลุ่มที่ 4 และก็ 5 ที่เหนี่ยวนำให้เกิดความเป็นพิษที่ตับด้วย เอทานอลสามารถลดระดับการเกิด lipid peroxidation ได้ 29.10 และก็ 45.67% เป็นลำดับ และก็ยังสามารถเพิ่มระดับแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี reduced glutathione (GSH), superoxide dimutase (SOD), catalase (CAT) ในตับ โดยกรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 มก./กิโลกรัม/วัน สามารถเพิ่มระดับรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี GSH, SOD รวมทั้ง CAT ได้ 27.60, 36.36 แล้วก็ 28.61% ตามลำดับ ในขณะที่กรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน สามารถเพิ่มหลักการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้ 81.60, 51.03 รวมทั้ง 37.41% ตามลำดับ และก็หนูในกรุ๊ปที่ 4 และ 5 ยังสามารถลดรูปแบบการทำงานของเอนไซม์ glutathione-S transferase ได้ 28.19 และ 47.99% นอกเหนือจากนั้นยังพบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 250 มก./กิโลกรัม/วัน ร่วมกับ เอทานอล (กรุ๊ปที่ 4) ลักษณะการทำงานของเอนไซม์ alanine transaminase (ALT) aspartate transaminase (AST) และก็ alkaline phosphatase (ALP) ในตับเพิ่มขึ้น 12.68, 42.35 แล้วก็ 40.01% ตามลำดับ ในระหว่างที่ ALT แล้วก็ AST ในพลาสมาต่ำลง 41.38 และ 51.90% เหมือนกับหนูในกรุ๊ปที่ 5 ที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน ร่วมกับเอทานอล ระดับของ ALT, AST และก็ ALP ในตับเพิ่มขึ้น 42.35, 21.63 และ 116.9% ในขณะค่า ALT แล้วก็ AST ในพลาสมาลดลง 51.90 และ 51.20% จากการเรียนรู้สรุปได้ว่าสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลสามารถปกป้องการเช็ดกทำลายของตับในหนูขาวที่รั้งนำให้กำเนิดพิษที่ตับได้

การศึกษาทางคลินิก การเรียนคนเจ็บที่เป็นพาหนะของโรคตับอักเสบบีปริมาณ 78 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กรุ๊ปควบคุม 38 คน) สามารถติดตามผลข้างหลังการทดลอง 1 เดือน ได้เพียงแต่ 60 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 37 คน กรุ๊ปควบคุม 23 คน) กลุ่มทดลองจะรับประทานยาผงลูกใต้ใบทั้งต้นใส่แคปซูลขนาด 200 มก. วันละ 3 ครั้ง นาน 30 วัน กรุ๊ปควบคุมจะรับประทานยาหลอกเป็น lactose แทน ใช้การตรวจค้น HBs Ag และก็ HBe Ag ในซีรัมของผู้เจ็บป่วยด้วยแนวทาง ELISA
หลังจากทดสอบ 1 เดือน พบว่าผู้ป่วยในกลุ่มทดลอง 22 คน ใน 37 คน (59%) ตรวจเจอ HBs Ag ในซีรัมเป็นผลลบ ในขณะมีผู้ป่วยในกรุ๊ปที่ได้รับยาหลอกเพียง 1 คนเพียงแค่นั้น (4%) ที่ตรวจเจอ HBs Ag ในซีรัมสำเร็จลบ ในผู้ป่วยที่ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมได้ผลสำเร็จลบใน 1 เดือนแรก จำนวน 22 คน ในกลุ่มทดลอง และ 1คนในกรุ๊ปควบคุม แล้วก็เมื่อติดตามการดูแลและรักษาจนถึง 9 เดือน เหลือผู้ป่วยในกลุ่มทดลองเพียงแค่ 1 คน ยังตรวจเจอ HBs Ag เป็นผลลบดังเช่นว่าเดิมผู้ป่วยที่เป็นพาหะที่มี HBs Ag และก็ HBe Ag จะมีผลตอบสนองต่อการดูแลและรักษาน้อยกว่ากลุ่มพาหะที่ไม่มี HBe Ag กรุ๊ปที่มี HBs Ag และ HBe Ag จะปลอดการเป็นพาหะข้างหลังการทดลองเพียงแค่ 29% (5 ใน 17 คน) และกรุ๊ปที่ไม่มี HBe Ag จะปลอดการเป็นยานพาหนะข้างหลังการทดลองถึง 85% (17 ใน 20 คน) ส่วนผู้ป่วยที่เป็นพาหะที่ได้รับยาหลอก 1 คน ที่ตรวจเจอ HBs Ag ได้ผลสำเร็จลบนั้นเป็นพาหะที่เดิมมีเพียงแค่ HBs Ag เพียงแค่นั้น รวมทั้งเป็นพาหะที่ไม่มีอาการ ไม่เจออาการข้างๆในผู้ป่วยทุกคนที่ทำการศึกษาเล่าเรียนในคราวนี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามภายหลังจากติดตามผลได้ 3 เดือน พบว่าปริมาณผู้ป่วยในกลุ่มทดลองรวมทั้งกรุ๊ปควบคุมมีความไม่เหมือนกันอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติโดยกรุ๊ปควบคุมเหลือแค่ 19 คน ในตอนที่กลุ่มทดลองมีถึง 36 คน
ยิ่งกว่านั้นลูกใต้ใบยังสามารถลดการอักเสบของตับได้ ดังในการทดสอบให้คนป่วยชายรวมทั้งหญิงที่เป็นตับอักเสบเรื้อรัง รับประทานผลจากลูกใต้ใบต้นขนาด 1.5 กรัม/วัน ให้คนป่วยตับอักเสบเรื้อรังทั้งคู่เพศรับประทานต้นลูกใต้ใบ (ไม่กำหนดขนาด) พบว่าสาร catechin จะลดระดับบิลิรูบินในพลาสมา และก็ลด Bromsulfthalein clearance (BSP clearance) การเล่าเรียนในคนไข้ตับอักเสบจากเชื้อไวรัส 120 ราย รับประทานยาตำรับของอายุรเวท 4 จำพวก ประกอบด้วยสมุนไพรพลายชนิดและลูกใต้ใบด้วย (ไม่ระบุขนาดที่รับประทาน) ผู้ป่วยทุกคนมิได้รับยาแผนปัจจุบัน พบว่าคนไข้โดยมากจะมีค่า serum glutamic oxaloacetic transaminase (SGOT). Serum glutamic pyruvic transaminase (SGPT) และบิลิรูบินลดน้อยลง รวมทั้งมีผู้ป่วย 1 รายที่ตรวจพบ HBs Ag เป็นผลลบ
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา

  • การทดลองความเป็นพิษ สารสกัดเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงด้วยเอทานอล (50%) เมื่อให้หนูถีบจักรกิน พบว่าขนาดสูงสุดก่อนกำเนิดอาการพิษหมายถึง1 ก./กิโลกรัม สารสกัด 50% อัลกฮออส์จากอีกทั้งต้น เมื่อให้หนูรับประทานหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 10 กรัม/กิโลกรัม ไม่เจอพิษ สารสกัดน้ำจากพืชทั้งยังต้น เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาด .01 มิลลิกรัม หรือ 1.8 มิลลิกรัม ไม่เจอพิษ สารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน เอทานอล และสารสกัดด้วยน้ำ เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักรในขนาด 500 มิลลิกรัม/กก. ไม่เจอพิษ สารสกัดน้ำจากต้นฉีดเข้าท้องลูกเป็ดขนาด 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไม่เจอพิษ สารสกัดเอทานอล 95% จากต้น เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักร ขนาด 100 มก./กก. นาน 30 วัน ไม่เจอพิษ หนูที่กินสารสกัดจากพืชที่อยู่เหนือดิน (ไม่กำหนดจำพวกของสารสกัด) ขนาด 0.2 มิลลิกรัมวัน ตรงเวลา 90 วัน ไม่พบพิษ เมื่อให้ผู้ใหญ่ทั้งปวงศชาย และหญิงรับประทานลูกใต้ใบขนาด 2.7 กรัม/วัน ไม่เจอพิษ ผู้ใหญ่รับประทานพืชส่วนที่อยู่เหนือดินขนาด 1.5 กรัมไม่พบพิษ แล้วก็เมื่อให้เด็กกินพืชต้น (ไม่ระบุขนาดที่รับประทาน) ไม่พบพิษ

ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่เจาะจงประเภทแล้วก็ขนาดของสารสกัด) เมื่อให้เข้าทางช่องท้องหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักรและหนูขาว นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการซัก ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่กำหนดจำพวกและขนาด) มีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นและก็บีบตัวของหัวใจกบ หนูขาว แล้วก็หนูถีบจักร ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่เจาะจงประเภทและก็ขนาด) มีฤทธิ์ลดระดับความดันในหมา

  • ผลต่อระบบแพร่พันธุ์ เมื่อให้หนูถีบจักรเพศผู้ รับประทานสารสกัดอัลกอออล์จากต้น ขนาด 100,250,400 แล้วก็ 500 มก./กก. จะลดอัตราการมีลูกลง 10,32,52 รวมทั้ง 72% เป็นลำดับ แล้วก็เมื่อให้หนูรับประทานสารสกัดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นในขนาดสูงพอๆกับ 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จะลด cauda epididymal sperm counts ลดการเคลื่องที่ของสเปิร์ม ยังยั้ง succinate dehydrogenase ใน epididymis แล้วก็ testis เปอร์เซ็นต์ของสเปิร์มที่มีชีวิตต่ำลง

เมื่อให้สารสกัดเอทานอล 95% จากทั้งต้น ทางสายยางให้อาหารแก่หนูถีบจักรเพศเมีย ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม นาน 30 วัน จะก่อให้หนูมีลูกยาก

  • เป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากทั้งยังต้น ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มล.,200 มค.ก./มล. และก็ 500 มค.ก./มล. เป็นพิษต่อเซลล์ sarcoma (Rous virus) (11), Ca-Hepatocarinoma-G2(7) และ cell  line HuH-7 (13) ตามลำดับ
คำแนะนำ/ข้อควรไตร่ตรอง

  • สตรีมีท้องห้ามรับประทานลูกใต้ใบเพราะลูกใต้ใบมีคุณประโยชน์สำหรับการขับรอบเดือนซึ่งอาจส่งผลให้มีอันตรายได้
  • ลูกใต้ใบมีฤทธิ์ทางเภสัชที่เช่นเดียวกับยาแอสไพริน ด้วยเหตุนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข่งตัวของเลือดไม่สมควรรับประทาน
  • การใช้สมุนไพรลูกใต้ใบนั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป และไม่ควรที่จะใช้กำเนิดขนาดที่กำหนดในฉลากผลิตภัณฑ์
  • คนที่เป็นโรคตับ โรคไตควรขอความเห็นแพทย์ก่อนใช้เสมอ
หนังสืออ้างอิง

  • ศรีพร เหลียงกอบธุระ.ลูกใต้ใบ&ตับอักเสบบี.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.
  • รศ.ภกญ.นวลน้อย จูฑะดงษ์.รายงานการวิจัยฤทธิ์ของลูกใต้ใบต่อหน้าต่อตาที่ไมโตคอนเดรียในตับหนูขาว.สาขาวิชาเภสัชวิทยา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
  • ฤทธิ์ปกป้องรักษาตับของลูกใต้ใบในหนูขาว.ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร.ที่ทำการข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ลีทุ่งนา ผู้พัฒนวงศ์วาน, 2530. สมุนไพรไทยตอนที่ 5 . ฝ่ายพฤกษศาสตร์ป่าดง กองบำรุง กรมป่าไม้, จังหวัดกรุงเทพ http://www.disthai.com/[/b]
  • Faremi TY, Suru SM, Fafunso MA, Obioha UE.Hepatoprotective potentials of Phyllanthus amarus againt etanol-induced oxidative stress in rats. Food Chem Toxicol.2008;46:2658-64
  • Van Welzen, P., Chayamarit, K. (2007) Euphorbiaceae, in: Santisuk, T., Larsen, K. (Eds.),

Flora of Thailand. Prachachon Co. LTD., Bangkok, pp. 473-507.

  • เต็ม สมิติเตียนนันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งเมืองไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าดง สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพมหานคร.
  • Giridharan, P., Somasundaram, S.T., Perumal, K., Vishwakarma, R.A., Karthikeyan, N.P., Velmurugan, R., Balakrishnan, A. (2002) Novel substituted methylenedioxy lignan suppresses proliferation of cancer cells by inhibiting telomerase and activation of c-myc and caspases leading to apoptosis. British Journal of Cancer 87: 98-105.


Tags : ลูกใต้ใบ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ