หัวเรื่องที่พ่อมารดาจำเป็นจะต้องรู้ ก่อนให้สายเลือดนั่งคาร์ซีทในรถ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หัวเรื่องที่พ่อมารดาจำเป็นจะต้องรู้ ก่อนให้สายเลือดนั่งคาร์ซีทในรถ  (อ่าน 43 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: เมษายน 30, 2018, 04:14:04 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



ป๋ามารดาอ่อนหัดหลายคนคงเป็นกลัว เวลาที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายคราวคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป ทำเอาลูกน้อยไม่สบายตัวหรือว่าเป็นภัย เหรอกังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท ไม่ใช่หรือ เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะระแวดระวังอุบัติเหตุได้จริงใช่ไหม ซึ่งการวุ่นวายใจนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง ศักยส่งผลต่อหลอดเลือดของลูกจนเป็นรุนแรงได้ เพราะเช่นนั้น การที่คุณวิเคราะห์ตำแหน่งเข็มขัด อัตราที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อตึงเครียดด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีทำนองการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่คุณพึงสังเกต

1. จัดตั้งคาร์ซีท มิชอบ ข้อแรกที่ควรรู้ก่อนเลยหมายความว่า ขนาดของคาร์ซีทที่เราซื้อมานั้น กำลังดีกับเบาะรถรึเปล่า พร้อมทั้งต้องทำการวางมอบให้เผงด้วย เนื่องจากคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นชนิดไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรตรวจหาดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่สม สมรรถล็อคได้มั่นคง สมมติมาตุเรศเห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติหรือได้ยินเสียงแปลกๆ ควรจะนำคาร์ซีทไปซ่อมใช่ไหมเปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้ลูกหลานใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะเฉือนอวยฟรีขอรับ

2. กินสายคาดผิดแนวทาง สายคาดไม่จงเทิบทาบใช่ไหมรัดตึงเกินควร บิดรคุณแม่ทำได้แข่งขันสายคาดโดยจับสายคาดให้ตึง แล้วใช้นิ้วจิ้มดู ต่างว่าสายบุ๋มลงมาก บ่งว่าหลวมเกินดี เพราะคาร์ซีทผังหันหลัง สายควรอยู่ที่ประเภทหรือไม่อยู่ใต้ไหล่ของลูกเล็กน้อย หากเป็นคาร์ซีทแบบเบือนหน้า สายคาดสมควรอยู่ลำดับขั้นเดียวกับหรือไม่ก็เหนือกว่าไหล่ของลูกฮะ

3. ส่งเสียลูกหลานนั่งลงหันหน้าทันทีเกินควร บิดามารดรหลายคนสามารถเคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกพึงให้ลูกนั่งหันหลัง จนถึงลูกจะความหนักเบา 9-10 กิโล ถึงจะให้นั่งผินหน้า ซึ่งเป็นความนับถือที่ผิด โดยองค์กรกุมารแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาชี้แนะว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ กับหากเป็นไปได้การนั่งลงแบบหันหลังนั้นหนักแน่น ด้วยกันจำต้องให้ลูกนั่งหันหลังให้นานมากตกขอบเท่าที่จะประพฤติได้ มารดรหลายคนอาจห่วงว่าถ้าลูกตัวใหญ่ขึ้น เป็นได้นั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถหรือว่าต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วสายตัวของเด็กเชี่ยวชาญยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ เตี่ยชนนีไม่ควรเป็นทุกข์เป็นร้อนในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าปริมาตรคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะโดยทั่วไปแล้วก็ไม่ล่าช้าเกินไปขอรับ

 4. ส่งเสียลูกนั่งบูสเตอร์ซีทเร็วมากเกินไป บูสเตอร์ซีท เป็นเบาะรองนั่งของเด็กเกี่ยวกับเปลืองในที่รถยนต์ ใช้สำหรับเด็กตอนวัย 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของสินค้าบางเจ้า ชักจูงว่าถูกให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกคราว 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกความหนักเบาเกือบ 18 กม.หรืออายุ 4-5 ขวบ กับลูกสามารถนั่งโดยมีชนิดคาดพาดผ่านหน้าอกได้ทั้งปวงการสัญจร พร้อมกับแพทย์ยังแนะว่าสายรัดตัวแบบ 5 จุดไม่เป็นอันตรายกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า เพราะว่าอาจคุ้มครองเด็กได้ได้เปรียบสายรัดเอวนิรภัยของใช้บูสเตอร์ซีท เพราะว่าสายรัดตัวสามารถอภิบาลลำตัวส่วนบน ลดการเคลื่อนที่พร้อมด้วยการตุ๊ยบนหัวพร้อมกับคอลงได้ ชั่วโมงที่เข็มขัดนิรภัยพิทักษ์ ทำเลที่ตั้งทรวงอกพร้อมด้วยบั้นท้ายขนาดนั้น

เป็นแน่แท้อยู่ว่าบุรพาจารย์คงเปล่าอาจจะปกป้องรักษารุนแรงทุกอย่างที่พร้อมโหดร้ายลูกได้ แต่กระนั้นการที่ชนกมาตาอาจเลือกใช้อุปกรณ์รักษาทำเนียบมีอยู่อำนาจได้อย่างถูกวิถีทาง ก็นับยังมีชีวิตอยู่การเพิ่มขึ้นการดูแลภัยให้ลูกเต้าได้อีกทางหนึ่งครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เป้อุ้ม

เครดิต : [url]http://www.bestmomclub.com/forums/index.php?topic=107009.new#new[/url]

Tags : คาร์ซีทมือสอง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ