Advertisement
ศาสตร์การนวดแผนไทย ได้รับการพัฒนามาจากอาการการจัดการตามหลักโยคีของเหล่าฤาษี ชีไพร ผู้ได้บำเพ็ญพรต เจริญภาวนามานานวันละหลายชั่วโมง หรือที่เรียกว่า “ฤาษีดัดตน” เป็นการบริหารร่างกาย หรือกายกรรม เพื่อสุขภาพบริบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งมีผลพลอยได้เป็น เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆดังเช่นว่า แก้โรคลมสรรพางค์กาย แก้อ่อนเพลีย แก้ปวด ฯลฯ
ในยุครัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมวัดพระเชตุพนสะอาดมังคลาราม มีการจัดตั้ง “สถานศึกษาหมอแผนโบราณวัดโพธิ์” ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่เรียนหมอแผนไทยที่แรก เพื่อเป็นการช่วยรักษาตำราเรียนยาแพทย์แผนไทยที่กำลังจะหายไปสาเหตุจากหมอบาขี้งกรุ๊ปที่มีความรู้และความเข้าใจก็แหนหวงวิชา กลายเป็นความลับที่ตายไปกับฝูงคนพวกนั้น ท่านก็เลยได้ทรงประกาศให้เหล่าผู้รอบรู้เกี่ยวกับตำรับยาแผนไทยที่มีความเชื่อถือ และถูกต้องแม่นยำ นำวิชาความรู้พวกนั้นมาจารึกเอาไว้บนหินแต่งแต้มต่างๆตามผนังโบสถ์ เสา กำแพงวิหาร เจดีย์ ศาลาราย กำแพงวิหารคดรอบพระเจดีย์สี่องค์ รวมทั้งศาลาต่างๆของสงฆ์โพธิ์ที่ได้ทำซ่อมแซมเกี่ยวกับสมมติฐานของโรคแล้วหลังจากนั้นก็วิถีทางรักษาอาการนั้นๆซึ่งและก็การนวดแผนไทย
รอบๆกำแพงจารึก และก็หุ่นรูปปั้น บอกว่าท่าฤษีดัดตนมี 80 ท่า แต่ว่าในทุกวันนี้ยังเหลือแค่เพียง 24 ท่า 25 ตน ท่าชีไพรดัดตนเป็นการบริหารร่างกายของคนไทยที่มีมาถึงแม้โบราณ ซึ่งเน้นย้ำการฝึกซ้อมลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย ก็เลยเป็นอีกทั้งการบริหารร่างกายแล้วหลังจากนั้นก็บริหารจิต แล้วก็ช่วยสำหรับเพื่อการบรรเทาอาการเจ็บเจ็บป่วยฐานรากได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงยังมีผลให้ร่างกายตื่นตัว แข็งแรง แล้วก็เป็นการพัก ท่าต่างๆที่ใช้ยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคเบื้องต้นได้อีกด้วย จัดว่ามีประโยชน์เป็นอันมากเป็นต้นว่า
1. ช่วยทำให้มีการเขยื้อนตามธรรมชาติของแขนขาหรือข้อต่างๆเป็นไปอย่างแคล่วคล่องว่องไว มีการย้ำการนวด โดยบางเห็นจะมีการกดหรือบีบนวดร่วมไปด้วย
2. ทำให้โลหิตหมุนเวียน เลือดลมเดินได้สบาย นับเป็นการออกกำลังกายสามารถทำเป็นในทุกลีลาของคนไทย
3. เป็นการต้านทานโรคภัย รักษาสุขภาพให้แก่ยืนยาว
4. มีการใช้สมาธิร่วมด้วยจะช่วยยกฐานะจิตใจให้พ้นอารมณ์ซึมเซาอารมณ์บูด ความง่วง ความห่อเหี่ยว ความเคร่งเครียด รวมทั้งช่วยทำให้มีคุณภาพมากเพิ่มขึ้นของการหายใจถ้าหากมีการฝึกซ้อมการหายใจอย่างเที่ยงตรง
เส้นประธานสิบ เป็นเส้นหลักที่สำคัญของร่างกายรวม 10 เส้น มีจุดกำเนิดบริเวณรอบๆสะดือ แล้วแยกกันไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ไปจบที่อวัยวะต่างๆอย่างเช่นเส้นดังนี้
1. เส้นอิทา เป็นเส้นประธานที่เริ่มจากบริเวณสะดือ แล่นลงไปบริเวณหัวเหน่า ลงไปตามต้นขาข้างซ้าย กระทั่งหัวเข่า แล้วเลี้ยวขึ้นไปแนบแนวกระดูกสันหลังด้านซ้าย แล่นกระหวัดถึงขึ้นบนหัว แล้วกลับมาหมดที่จมูกทางซ้าย
2. เส้นปิงคลา เป็นเส้นประธานที่มีทางเดินเริ่มจากรอบๆสะดือ แล่นลงไปบริเวณหัวเหน่า ลงไปตามต้นขาข้างขวาจนกว่าหัวเข่าแล้วเลี้ยวขึ้นไปแนบแนวกระดูกสันหลังทางขวา แล่นคิดย้อนขึ้นบนหัวแล้วกลับมาจบที่จมูกทางขวา
3. เส้นสุมทุ่งนา เริ่มจากรอบๆสะดือ แล้วแล่นตรงขึ้นไปในอก ขั้วหัวใจ ขึ้นไปตามคอ หมดที่โคนลิ้น
4. เส้นกาลทารี เริ่มจากรอบๆสะดือ แล้วแยกออกเป็น 4 เส้น โดย 2 เส้นขึ้นไปตามสีข้าง ต้นแขนต้นคอ หัว แล้วหวนกลับลงมาตามแนวหลังแขนทั้งยัง 2 ข้าง ต่อจากนั้นแยกออกไปตามนิ้วมือ 2 ข้าง อีก 2 เส้น ลงไปตามแข้งจนตราบเท่าข้อเท้า แล้วแตกออกไปตามนิ้วเท้า 2 ข้าง
5. เส้นสหัศรังสี เริ่มจากบริเวณสะดือ ลงไปต้นขาและก็แข้งด้านในนิรันดรจนกว่าอุ้งเท้าผ่านต้นนิ้วเท้าซ้าย 5 นิ้ว แล้วย้อนไปขึ้นมาตามหน้าแข้งของขาข้างซ้าย ไปเต้านมซ้าย เข้าไปใต้คาง ลอดขากรรไกรข้างซ้าย ไปหมดที่ตาข้างซ้าย
6. เส้นทวารี เริ่มจากรอบๆสะดือ ลงไปต้นขาและก็ลำแข้งด้านใน ชั่วนิจนิรันดร์จนกว่าฝ่าตีน ผ่านต้นนิ้วเท้าขวาทั้งยัง 5 นิ้ว แล้วถอยกลับขึ้นมาตามหน้าแข้งของขาข้างขวา ไปเต้านมขวา เข้าไปใต้คาง ลอดขากรรไกรข้างขวา ไปหมดที่ตาข้างขวา
7. เส้นจันทะภูเขาสัง เริ่มจากบริเวณสะดือ ขึ้นไปราวนมข้างซ้าย ผ่านไปที่คอ คางและไปจบที่หูข้างซ้าย
8. เส้นรุชำ ที่เริ่มจากบริเวณสะดือ ขึ้นไปราวนมข้างขวา ผ่านไปที่คอ คาง และก็ไปหมดที่หูขวา
9. เส้นสุขุมัง เริ่มจากบริเวณสะดือ ไปหมดที่ทวารหนัก
10. เส้นสิกขินี เริ่มจากรอบๆสะดือ ไปที่หัวเหน่า ทวารเบา และจบที่ของลับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
Massage newcastleTags : Massage Newcastle,thai massage newcastle uk
